วันนี้ (28ก.พ.) ณ ศาลจังหวัดสระบุรี “นายทรงกฤษฎากร ไตรรัตน์รังษี” หรือ “หนุ่ม จีสตาร์” พร้อมด้วยทนายความ “ปรีชา เข็มบุบผา” และกลุ่มผู้เสียหายอดีตกรรมการบริหารพรรคไทรักธรรม ร่วมแถลงข่าวหลังจากถูกหมายศาลคดี กกต.เรียกเงินอุดหนุนพรรคการเมืองคืนร่วม 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ พรรคไทรักธรรม มี “นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค” เป็นหัวหน้าพรรค ดำเนินงานการเมืองโดยมีการระดมตั้งสาขาพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ และได้รับเงินอุดหนุนพรรคการเมืองจาก กกต.เหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ โดยทั่วไป ต่อมาเมื่อ 19 ต.ค. 2565 พรรคไทรักธรรมถูก กกต.ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค มูลเหตุมาจากให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจบุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเหตุให้ กกต.ฟ้องเรียกเงินคืนจากนายพีระวิทย์ และกรรมการบริหารพรรคดังกล่าว
เกิดจาก นายพีระวิทย์ ได้ใช้ให้ “นายมนัส มีชาวนา” ไปชักชวนให้ชาวบ้านป่ามะข้าม อ.เมือง จ.พิจิตร ทำดอกไม้จันทน์ โดยจะนำวัสดุอุปกรณ์ไปให้ทำ แล้วซื้อคืนได้ และเข้าเป็นสมาชิกพรรค โดยมีข้อเสนอให้ชาวบ้านไม่ต้องเสียค่าสมัคร ค่าบำรุงพรรค แต่ให้ชาวบ้านทำดอกไม้ จันทน์ และซื้อคืนดอกละ 1 บาท กระทั่งพรรคไทรักธรรมสามารถระดมสมาชิกได้ 500 คน จนสามารถเปิดสาขาพรรคที่ จ.พิจิตรได้ เหตุนี้จึงเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย มีผลผูกพันกับพรรค โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วมีคำสั่งให้ยุบพรรค
โดย หนุ่ม จีสตาร์ ในฐานะอดีตรองหัวหน้าพรรคไทรักธรรม พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคจำนวนกว่า 60 คนที่ตกเป็นจำเลยถูก กกต.ฟ้องร้องเรียกเงินสนับสนุนพรรคการเมืองคืน เผยว่าคนเอาไปต้องรับผิดชอบ เพราะคนที่สามารถและมีอำนาจเบิกถอนเงินได้คือหัวหน้าพรรคไทรักธรรม และเหรัญญิก
"วันนี้หนุ่มและอดีตกรรมการบริหารพรรค โดยมีอดีตส.ส.พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรมร่วมเป็นจำเลย รวม 66 คน ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทุกภูมิภาคในประเทศไทย ส่วนตัวหนุ่มและกรรมการบริหารทุกท่านไม่มีสิทธิ์หรือหน้าที่ในการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนพรรคการเมือง โดยสิทธิ์การเบิกเงินได้ตามกฏหมาย เบิกได้เฉพาะหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรคหรือเหรัญญิกเท่านั้น
โดยเบื้องต้น ตนออกมาแสดงความบริสุทธิ์ พูดด้วยความเป็นจริงทุกประการ และหวังว่าท่านอดีตหัวหน้าพรรคจะออกมารับผิดชอบ และชี้แจงเพื่อความบริสุทธิ์ และให้ความเป็นธรรมกับทุกคนที่เคยร่วมทุกข์ด้วยกันที่ผ่านมา และขอความเป็นธรรม เพราะพวกเราทุกคนมีหลายสาขาอาชีพ แต่ด้อยประสบการณ์เรื่องของการเมือง พวกเราคืออ่อนหัดมาก แต่ทุกคนเป็นจิตอาสาโดยแท้ เล่นการเมืองเพราะทุกคนต้องการไปพัฒนาท้องถิ่นของตนเองเท่านั้น ฝากผู้ใหญ่ทุกท่านเห็นใจพวกเราทุกคนด้วยครับ"