ทำเอาใจหายใจคว่ำกันเลยทีเดียวเมื่อ “เอ็ม อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล” นักแสดงคุณพ่อลูกแฝด ได้ออกมาเผยประสบการณ์ระทึกว่าเกือบเอาชีวิตไปทิ้งที่ญี่ปุ่นทั้งครอบครัว หลังเจอพายุหิมะถล่มอย่างหนักจนถนนลื่นทำเอารถไถลหมุนจนเกือบตกเหว แต่เคราะห์ซ้ำเจอบริษัทประกันห่วงรถมากกว่าคน ให้อยู่เฝ้ารถกลางหิมะนานหลาย ชม.
“ขอแอบแชร์ประสบการณ์กับทุกคนนะครับ เมื่อเรามาญี่ปุ่น และเจอสถานการณ์หิมะตกอย่างหนัก ❄️🌨️จึงทำให้ถนนลื่น รถเสียหลักไถลไปชนราวกันตกที่ขอบถนน รถบุบนิดหน่อย 😫แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก ขับต่อได้สบาย (และเราก็ซื้อประกันไว้แล้วด้วย) เราเลยไปเที่ยวกันต่อ แต่ว่า…พอขากลับ หลังจากที่หิมะตกติดต่อกันหลายชั่วโมง หิมะบนถนนก็เริ่มแข็งตัว จากหิมะที่คลุมเต็มถนนเลยกลายเป็นถูกเคลือบไปด้วยแผ่นน้ำแข็งแทน ทีนี้หล่ะ พอขับไปขับมาสักพัก รถก็เริ่มควบคุมไม่ได้ หมุน 180 องศา แล้วก็มาจอดข้างทางของอีกฝั่งแบบพอดีเป๊ะ ข้างทางก็เป็นเหวอีกต่างหาก โชคดีที่รถหยุดเองทั้งๆที่ไม่ได้แตะฟุตบาทเลย ไม่งั้น…อาจจะตกเขาไปแล้วก็ได้ ตอนนั้นนะ บทสวดมนต์ต่างๆนี่ มาเป็นชุดเลยจ๊ะ 😅 ทีนี้ก็เลยโทรหากู้ภัย กู้ภัยคุยอังกฤษไม่ได้ โทรหาตำรวจ ซักพักตำรวจก็มา แต่ตอนนั้นตำรวจก็ทำอะไรมากไม่ได้ เราต้องโทรหาบริษัทรถเช่า และโทรหาประกันเอง ดูว่าเค้าจะว่ายังไง 😅 ก็โทรไปเรื่อยๆๆๆ…จากที่คิดว่าไม่มีอะไรมาก แค่เอารถมาลาก หรือยกไป หรือหาโซ่มาใส่ล้อให้ แค่นั้นก็จบ ที่ไหนได้ มันไปวุ่นตรงที่ว่า รถมันมีรอยชน เค้าเลยไม่เชื่อว่าเราจะไม่มีคู่กรณี คงจะกลัวว่าเราจะชนแล้วหนีมาอะไรประมาณนั้นหล่ะมั้ง 😫 เราก็พยายามบอกว่า เรื่องนั้นหน่ะเอาไว้ก่อนมั้ย พาพวกเราที่ติดอยู่กลางป่ากลางเขา หิมะล้อมรอบตัว ออกไปก่อนได้มั้ย ค่อยไปเคลียร์กันอีกทีข้างล่างในเมืองก็ได้….ในระหว่างรอประกันทำเรื่อง ตำรวจก็ช่วยเรียกรถลากมาให้ก่อน รถลากมามองๆดูแล้วก็กลับไป ซักพักประกันโทรมาบอกว่า รถลากบอกว่าลากไม่ได้ เพราะหิมะเยอะเกินไป เพราะฉะนั้นพวกเราต้องหาทางเอารถกลับไปเอง เราก็เลยขอกลับลงไปกับตำรวจแล้วทิ้งรถไว้ได้มั้ย ประกันก็ไม่ยอม นางบอกว่ารถตำรวจไม่ใช่ taxi และสถานีตำรวจไม่ใช่โรงแรม เฮ้ยยยย ไม่ได้จะไปนอนที่นั่นซะหน่อย เรามีที่พักแล้ว พูดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง พูดซ้ำๆอยู่อย่างเดียวว่าเราต้องเฝ้ารถไปเรื่อยๆทั้งคืน จนกว่าหิมะจะละลาย แล้วค่อยเอารถไปคืน บอกว่าเรามีเด็กเล็ก นางก็ไม่ยอม!!!! (ยังไม่จบ…อ่านต่อในคอมเมนต์นะครับ)”
“โอ้ยยยย นี่มันกลางป่า หิมะตก และอุณหภูมิ 0 องศานะเฟ้ยยยยย พอประกันพูดว่าต้องเฝ้ารถทั้งคืนจบปุ๊บ สาวน้อยทั้งสองของเราก็ร้องไห้จ้าาาเลย เด็กๆก็กลัวอ่ะนะ ก็แน่สิ นั่งรออยู่บนรถมา 3 ชั่วโมง จากสว่างยันมืด แถมอยู่กลางป่ากลางเขาแบบนี้ สุดท้ายตำรวจก็เห็นใจ ยอมพาพวกเราลงมาส่งในเมือง ซึ่งดูเหมือนจะหักหน้าเจ๊ประกันคนนั้นด้วย เพราะตอนหลังนางโทรกลับมาบ่นว่า ดีนะที่ตำรวจช่วยเรา ทั้งๆที่ไม่ควรต้องช่วย เราต้องขอบคุณตำรวจให้มากๆนะ จ้าาาาา แม่คู้ณณณ เราอ่ะซาบซึ้งในความช่วยเหลือของคุณตำรวจมากๆอยู่แล้ว มาอยู่ด้วยตลอด 3-4 ชั่วโมง ไม่ไปไหนเลย คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง ก็พยายามกันสุดชีวิต ระหว่างนั้นยังมีเซนเซปาล์ม @palm_instinct คอยช่วยเป็นล่ามข้ามประเทศให้ ไม่งั้นคงวุ่นกว่านี้อีกหลายเท่า
สรุป ความช่วยเหลือทั้งหมดนี้มั่นควรจะเกิดขึ้นทันทีที่ตำรวจมาถึงด้วยซ้ำ เรื่องมันจะจบภายในครึ่งชั่วโมงแรกเลยแหล่ะ ถ้า เจ๊ประกันไม่ห่วงรถ มากกว่าห่วงคน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เค้าจะเห็นว่ารถคันนึงมันมีค่ามากกว่าชีวิตคน 7 คนแอบเสียความรู้สึก”
