xs
xsm
sm
md
lg

“มิน พีชญา” ชีวิตดี๊ดี สวย รวย มีธุรกิจ มีคนคุย! ลั่นไม่รีบร้อนกลัวเสียเพื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มิน พีชญา” ไม่โสดแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดตัวหนุ่มใหม่คือใคร รับที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อยกับความรัก คิดอยู่ใช้เงินของฉันสวยๆ ไป กับรักนี้ขอดูไปเรื่อยๆ ไม่อยากลัดขั้นตอนแล้ว ลั่นกลัวเสียความเป็นเพื่อน ขอบคุณความโสดที่ทำให้รู้สึกขอบคุณชีวิตดี๊ดีของตนเอง  

เปิดวาร์ปว่าไม่โสดแล้วกับการโพสต์รูปวันวาเลนไทน์ด้วยดอกไม้ช่อโต แต่ไม่ยอมเปิดให้เห็นหน้าคนให้ สำหรับ “มิน พีชญา วัฒนามนตรี”ที่โสดมายาวนานถึง 2 ปีแล้ว ซึ่งมินยอมรับว่าตอนนี้ไม่โสดแล้ว

"ก็ยอมรับว่าเซอร์ไพรส์ คนก็แซวตั้งแต่ตื่นมา โดนแซวเลย แต่มินก็เชื่อว่าคนดีใจกับเราเยอะมากๆ เขาก็เห็นเราอยู่คนเดียวมานานแล้ว อยากให้เรามีความสุข เป็นช่วงที่โสดนานที่สุดในชีวิตแล้ว ปีกว่าเกือบ 2 ปีก็เชียร์อยากเห็นเราครอบครัว เราก็ได้รู้จักตัวเองทำความเข้าใจกับตัวเอง และได้เรียนรู้กับคนที่จะเข้ามาในชีวิตเรา มันมีหลายรูปแบบ สุดท้ายเราก็รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิตเรา ก็คุยกันค่ะ ไม่โสดแหละ(ยิ้มเขิน) จริงๆ เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว เป็น 10 ปีไม่ได้ปิดนะ แต่เรารู้สึกว่าเราเป็นผู้หญิงอาจจะไม่ควรพูดเยอะ เพิ่งเริ่มด้วย”

ขออุบโปรไฟล์ฝ่ายชายไว้ก่อน
"อย่าเพิ่ง ยังไม่อยากพูดเยอะ แต่ไม่ได้ปิดเดี๋ยวเดินเจอก็เห็นเอง พูดเยอะไปเดี๋ยวมีวาร์ปอะไร เดี๋ยวไปถามเขาก่อน มินไม่อยากใจร้อน ในอดีตเราเป็นคนตรงมีอะไรเราก็บอก คุยก็คุย ไม่คุยก็บอกยัง แต่พอเรารู้สึกว่าเรื่องความรักมันอาจจะไม่ได้รวดเร็วทันใจขนาดนั้น มันต้องมีช่วงดูกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้ปิดนะ แต่ว่าค้นหากันเอง มินอาจจะไม่ได้ออกมาประกาศ ให้ผู้ชายเขาพูดบ้างไหม แต่เขาปิดไพรเวตนะ”

ที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อยกับความรัก คิดอยู่ใช้เงินของฉันสวยๆ ไป
"อย่างที่รู้ตอนนั้นน้ำหนักลงไป 39 เป็นช่วงที่มินรู้สึกว่าผู้หญิงหลายๆ คนอาจจะเคยเจอ มันไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร ตอนนั้นก็ใจแข็งนะ ไม่มีก็ไม่มี ก็อยู่ใช้เงินไป (หัวเราะ)อยู่กับพ่อแม่ครอบครัวเราก็อบอุ่นน่ารัก พอเราคิดแค่นั้นด้วยฐานความรักมันแข็งแรง เราก็ยืนกลับขึ้นมาได้ หลังจากนั้นก็ยังไม่เคยหมดหวังกับการมีความรักและการสร้างครอบครัวที่ดี ไม่ปิดกั้นแต่ก็ไม่ได้โหยหา ไม่เรียกร้อง ไม่ได้รู้สึกว่าผู้หญิงจะต้องแต่งงานมีครอบครัว เราไม่ได้ผูกติดอะไรกับแบบนั้นเลย

ตอนนั้นรู้สึกเหนื่อย ผู้หญิงหลายๆ คนเวลาที่เราผิดหวังหลายๆ ครั้ง เหมือนเรากลับมาดูว่าชีวิตเราคืออะไรกันแน่ เราเกิดมาทำไม เรามีครอบครัวพ่อแม่ก็รักเรา เรามีทุกอย่างไม่ได้ขาดเหลืออะไร เรากลับมารักตัวเอง สุดท้ายมินเรียนรู้ว่าถ้าเรารักตัวเอง เราจะรักคนอื่นเป็น เราจะไม่ได้ไปนั่งเอาใจใคร เปลี่ยนตัวเองเพื่อใครหรือพยายามวิ่งตามเอาใจใครพอเราโตเราอาจจะไม่ได้แคร์ใครถึงขนาดทำร้ายตัวเอง มันมีสมดุลที่ดีขึ้น"

ไม่คาดหวังกับความรัก เชื่ออนาคตไม่สำคัญเท่าปัจจุบัน
"มินไม่ค่อยคาดหวังนะ แต่ผู้หญิงทุกคนพอมีแฟนมันก็ต้องคาดหวังแหละ แต่ว่าพอเราโตขึ้นเราอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าอนาคตเป็นสิ่งที่สำคัญเท่าปัจจุบัน ถ้าปัจจุบันมันดีเดี๋ยวอนาคตมันก็ดีเอง ตอนนี้ก็ดีนะ ละมุนๆ (หัวเราะ)"

รักนี้ขอดูไปเรื่อยๆไม่อยากลัดขั้นตอนแล้ว
"ข้ามเฟรนด์โซนเหรอ เอาจริงๆ ตอนแรกก็กลัวทั้งคู่ ด้วยความเป็นเพื่อนแล้วความสัมพันธ์มันดีมาตลอด เราต่างคนต่างซัปพอร์ตกันและหวังดีต่อกันก็เลยไม่ได้คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ มีธุรกิจอะไรก็สนับสนุนเชียร์ให้กำลังใจ พูดยาก ตรงนี้รายละเอียดมันเยอะมากเลย

ตอนแรกมันไม่มีใครรู้เลยว่ามันคืออะไร ก็เลยไม่กล้าพูดไง เพราะว่าสิ่งที่ดีงามอยู่แล้วก็ยังอยากให้เก็บไว้ เพราะถ้าอะไรที่เร็วเกินไป เรากลัวจะไปทำลายสิ่งที่มันดีมานานอยู่แล้ว ไม่อยากให้เสียความเป็นเพื่อนไป ก็เลยแบบใจเย็นๆ

ไม่อยากลัดขั้นตอน การได้ดอกไม้วันวาเลนไทน์ มินว่ามันเป็นการบอกว่าเหมือนเรารู้สึกดี แต่ว่าเราจะไปขมวดปมแบบเธอเป็นของฉันนะ มินว่ามันน่ากลัวไปนิดนึง เหมือนเรารับรู้แล้ว แล้วเรารู้สึกกับมันยังไง คิดก่อนเราค่อยตอบสนอง มินว่าถ้าเรารีบตัดสินเกินไปเดี๋ยวเจ็บอีก ตอนนี้เขาก็คือคนพิเศษ

พอโตขึ้นมุมมองความรักก็เปลี่ยนไป ขอเดินคู่ขนานเคียงคู่กันไปมากกว่าจะเปลี่ยนแปลงกัน
"ก็เปลี่ยนไป เราก็ยังเป็นเราได้ ชอบทำงานก็ทำงาน เขาก็ยังเป็นเขาได้ เราจะเดินขนานกันไปยังไงให้ยังเป็นเหมือนเดิมแล้วก็เพิ่มได้ไหม มันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย คุยกันแล้วสบายใจก็สบายใจ

กับอีกหนึ่งบทบาทใหม่เป็นเจ้าของธุรกิจหมู่บ้านจัดสรร
“หมู่บ้านตอนนี้ก็ทำเต็มที่กำลังขึ้นเฟสสามแล้ว มันเป็นธุรกิจที่ที่บ้านทำอยู่แล้วธุรกิจอสังหาค้าขายวัสดุก่อสร้างเราก็ทำกันมานานคุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้เข้าไปช่วย แรกๆ ก็เหมือนช่วยแค่ออนไลน์สักพักก็เอ๊ะ เต็มตัวเลย มันเริ่มจากก็ติดตามคุณพ่ออย่างเดียวเลยค่ะฟังเขาพูดฟังเขาสอนฟังเขาบ่นบ้างบางครั้ง ครูพักลักจำไปเอง มินว่ามันเกิดจากการที่เรารักพ่อแม่เรา และเราก็อยากเห็นเขารู้สึกยิ้มแย้มสบายใจมันก็เลยเหมือน ให้ช่วยอะไรไปๆ มาๆ มันก็เริ่มเต็มตัว

ก็ลุยเอง มีส่วนที่เราไม่เข้าใจบ้างคือก็ไม่ได้บอกว่าเราเก่งมากแต่มินพร้อมเรียนรู้ คืออะไรก็ได้ที่ช่วยพ่อแม่รู้สึกเบาขึ้น เขาก็ได้ไปตีกอล์ฟเยอะขึ้น อยากให้เขาได้พัก ฟีดแบ็กก็ดีค่ะ ไม่ค่อยได้ทำโฆษณานะคะสังเกตว่าไม่ค่อยได้พูดโปรโมตเท่าไหร่แต่ว่าจะเป็นลูกค้าเดิมที่พูดปากต่อปากอยู่แล้วเรื่องของคุณภาพสินค้าเปิดปุ๊บจองเต็ม สโลแกนเรา สินค้าคุณภาพมิตรภาพจากใจค่ะ (หัวเราะ)”

ขอบคุณความโสดที่ทำให้รู้สึกขอบคุณชีวิตตัวเอง
“(ชีวิตดี๊ดี มีแฟน มีธุรกิจ สวย รวย?) ก็ดี คือตื่นมาทุกวันก็รู้สึกขอบคุณในสิ่งที่มี มินว่าเราได้เรียนรู้ช่วงที่เราโสดนั่นแหละว่า ถ้าเรายังไม่รักตัวเอง ไม่ขอบคุณสิ่งที่เรามีเราจะไปดูแลคนอื่นได้ถูกต้องยังไง แต่มินอยากบอกทุกคนว่าอย่ามองแต่ตอนที่มินสำเร็จ ก่อนหน้านี้ก็ล้มลุกคลุกคลานกันมา (มูหนัก?) มินไม่มู”













กำลังโหลดความคิดเห็น