จากไปครบ 1 ปีแล้ว สำหรับนักแสดงชื่อดัง “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์”ที่เกิดเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ก่อนจะพบศพแตงโมบริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อช่วงสายของวันที่ 26 ก.พ. 2565 ซึ่งช่วงหลายวันที่ผ่านมา เพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิงต่างรวมตัวกันไปทำบุญ และจัดงานรำลึกถึงแตงโมเพื่อแสดงออกถึงความรักและคิดถึงไม่เสื่อมคลาย
ล่าสุด วันนี้ (26/ก.พ./2566) แฟนคลับของแตงโม นำโดย “จิ๊บ กัญญลักษณ์ ปิติชัยมงคล”ได้จัดงานรำลึกครบรอบ 1 ปี การจากไปของแตงโม ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 พร้อมเปิดภาพปริศนาที่สั่งทำพิเศษขึ้นมาเพื่องานนี้ให้สื่อมวลชน รวมถึงแฟนคลับที่มาร่วมงานดู โดยมี “เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์”หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และอดีตดารา “ลูกศร อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์”เดินทางมาร่วมงาน ทั้งนี้ยังมีการลอยกระทงที่ทำเป็นรูปเรือสปีดโบ๊ทเพื่อสื่อถึงแตงโม ก่อนที่ทั้งหมดจะร่วมกันร้องเพลง “ความทรงจำ” ของ “แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร” แทนความรู้สึกว่าแตงโมยังอยู่ในใจเสมอ นอกจากนี้ยังมี “สิตางศุ์ บัวทอง” มาร่วมเขียนข้อความอาลัยแตงโมที่ท่าเรือด้วย
ซึ่งหลังจากพิธีการต่างๆ เสร็จสิ้น “จิ๊บ กัญญลักษณ์ ปิติชัยมงคล” แฟนคลับที่เป็นแม่งานวันนี้ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน ว่าแตงโมมาเข้าฝันให้จัดงานแบบนี้ พร้อมเฉลยภาพปริศนาที่นำมาเปิดในงาน ว่าต้องการสื่ออะไร
“การจัดงานในวันนี้ จะเป็นเงินของจิ๊บส่วนหนึ่งและเป็นของเพื่อนๆ ที่มารวมกันในวันนี้ค่ะ เนื่องจากว่าเราก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วการรวมเงินครั้งนี้ก็คือทำเพื่อน้องโดยเฉพาะ ถามว่าความตั้งใจในวันนี้ อยากให้มีภาพอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก็ถ้าในส่วนของคดี ก็ให้เป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่นะคะ อยากเห็นความยุติธรรมค่ะ คำเดียวเลยสั้นๆ เพื่อลูกหลาน เพื่ออนาคตวันข้างหน้า แล้วก็เพื่อพวกเราด้วย ทุกวันนี้เรายังติดใจอยู่ค่ะ ยังคุยกันตลอด เรามีกลุ่มชื่อแตงโมต้องได้รับความยุติธรรมในเฟซบุ๊ก ไม่มีใครลืมเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้”
แอบหมดหวังแต่ก็ยังสู้ สักวันหนึ่ง “แตงโม” จะต้องได้รับความยุติธรรม
“จริงๆ ตอนนี้เราก็แอบหมดหวังไปเหมือนกัน แต่ว่าพอมาเห็นทาง ส.ส. เต้ มงคลกิตติ์ สู้ พวกเราก็จะสู้ไปกับเขา ทั้งทางคุณหมอธวัชชัยเอง และหลายๆ ท่านที่ยังสู้อยู่ อย่างพี่ต่าย สายธาร นิยมการณ์ เขาก็ยังคุยกับจิ๊บอยู่ว่า จริงๆ มันเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียด ก็เลยทำให้เราสู้ต่อ เพื่อวันหนึ่งจะมีความยุติธรรมเกิดขึ้นกับแตงโมและพวกเรา เพราะว่ากฎหมายอาจจะต้องเปลี่ยน”
โชว์ภาพปริศนาที่ทำขึ้นเพื่อ “แตงโม” โดยใส่ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“ส่วนในภาพที่เรานำมาโชว์วันนี้ อันแรกที่อยู่ด้านซ้ายข้างบนสุดเป็นรูปมือ ก็คือสัญลักษณ์ที่น้องโมขอความช่วยเหลือ เป็นสัญลักษณ์การขอความช่วยเหลือสากล แล้วก็จะเป็นสะพานพระราม 7 กับสะพานพระราม 8 ที่มีอยู่ในเหตุการณ์ ส่วนตรงที่เป็น F5+1 F คือ Friends 5 คนเรือ บวก 1 คือกุนซือ คือทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่วนด้านล่างที่เป็นรูปของน้องแตงโมในอิริยาบถต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนที่จิ๊บบอกว่าปริศนาอยู่ในนี้ ทุกคนจะเห็นว่าน้องแตงโมถูกใบพัด ตามข่าวจะบอกว่าถูกใบพัดกรีดขาบ้าง อะไรบ้าง จะมีใบพัดอยู่ในนี้ 2 จุด คือตรงหัวเข็มขัดกับตรงเอว คือถามว่าทำไมเราเน้นจุดของเรือสปีดโบ๊ท เพราะเป็นจุดเกิดเหตุ เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด แล้วก็มีเรือสปีดโบ๊ทซ่อนอยู่ในรูปนี้ทั้งลำ ด้วยความที่น้องโมบอกว่าหนูอยากมีภาพเหมือนโมนิลิซ่า ที่เป็นภาพปริศนาแล้วทุกคนจะจดจำตลอดไป ก็เลยทำภาพนี้ขึ้นมา ภาพนี้ถ้าวันหนึ่งเสื่อมสลายไป แต่มันก็จะยังอยู่ในไฟล์ที่เราทำขึ้นมา ก็จะเป็นภาพเดียว ลิขสิทธิ์เดียว ขออนุญาตเจ้าของภาพแล้ว เนื่องจากมีการตกแต่งภาพ ก็คือพี่ปลา ฟินนาเล่ ต้องขอบคุณพี่เขาด้วย”
เล่า “แตงโม” มาเข้าฝัน ไม่อยากให้จัดกิจกรรมรำลึกแบบลงเรือ แค่อยากให้มีรูปเดียวที่เป็นที่จดจำก็พอ
“เรื่องภาพนี้คือโมมาบอกในฝันค่ะ คือจิ๊บก็สวดมนต์ปกติ จริงๆ จิ๊บเป็นคริสเตียน แต่หลังๆ ก็เริ่มหันมาไหว้พระ ก็บอกว่า เฮ้ย…โม พี่จัดงานเหมาเรือเลยนะ เนื่องจากตอนนั้นก็รวมตังค์กันเยอะ ก็จะเหมาเรือ ทีนี้เราก็บอกว่า ถ้าหนูอยากให้พี่จัดงานแบบไหน ก็มาบอกพี่ด้วยว่า โอเคไหมกับคอนเซ็ปท์นี้ เสร็จแล้วตอนกลางคืนเราก็ฝัน เขาบอกว่าพี่อย่าเลย ไม่อยากให้ลงเรือ เพราะเขาน่าจะมีความอะไรสักอย่างกับเรือ เขาบอกว่าไม่อยากให้ลงเรือกัน แต่อยากให้มีรูปของเขาแค่รูปเดียว ที่ทุกคนจำจดจำตลอดไป เช้ามาเราเลยมาคิดผนวชกัน ก็ไปค้นหาความหมายของรูปโมนาลิซ่าก่อน ซึ่งเขาก็เสียชีวิตอย่างมีปริศนาเหมือนกัน ก็เลยออกมาเป็นรูปที่ได้เห็นกันวันนี้ค่ะ”
ตั้งใจเอารูปไว้ที่นี่ ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 เพราะเป็นจุดที่นำร่างของ “แตงโม” ขึ้นมา
“ก็ตั้งใจจะตั้งไว้ที่นี่เลยค่ะ จุดนี้ไม่ใช่จุดที่น้องเสียชีวิต แต่ก็เป็นจุดที่นำร่างน้องขึ้นมา เราก็เลยจัดงานในวันที่พบร่างของน้อง วันนี้ก็เปิดโอกาสให้เฉพาะแฟนคลับ เข้ามาเซ็นชื่อได้ทั้งซ้ายและขวา คือด้านแผ่นป้ายสีชมพูทั้งสองฝั่ง เราจะไม่ทิ้ง ก็จะเซ็นอยู่ในนั้น”
อยากบอก “แตงโม” ว่าจะออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ จนกว่าจะได้รับ
“ถ้าน้องแตงโมฟังอยู่ พี่อยากบอกว่าพี่ยังติดตามคดี ยังสู้เพื่อน้องอยู่ ถึงพี่ไม่ได้เป็นนักกฎหมาย ไม่ได้เป็นคนสืบหาความจริง และไม่ได้เป็นคนที่ไปหาหลักฐาน แต่เป็นหนึ่งที่จะออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องแตงโม จนกว่าน้องแตงโมจะได้รับความยุติธรรมค่ะ ณ ตอนนี้ทุกคนอาจจะเห็นเป็นเลือนลาง ใครไม่สู้ก็ไม่รู้แหละ แต่ว่าแฟนคลับก็สู้ต่อไป ยังติดตามตลอดไปค่ะ”
ไม่ได้สร้างกระแส เรื่องความฝันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เชื่อ “แตงโม” รับรู้ในสิ่งที่ทำให้
“เรื่องความฝันเป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ หลายคนอาจจะมองว่าสร้างกระแสหรือเปล่า คิดไปเองไหม แต่จิ๊บเคยฝันถึงน้องเลย ตั้งแต่น้องเสียชีวิต แต่วันนั้นมีการคุยกับน้องว่า อยากให้งานออกมาเป็นรูปแบบไหนบอกหน่อยเถอะ คอนเซ็ปท์นี้ ลงเรือแบบนี้ โอเคไหม น้องก็บอกว่าไม่อยากให้ลงเรือแค่นั้นค่ะ ในฝันน้องเป็นปกติเลย เหมือนที่น้องเล่นละคร มัดผม รวบผมปกติค่ะ งานวันนี้จิ๊บคิดว่าเขารับรู้นะ เนื่องจากเมื่อเช้าจากการจุดธูป คือเราจุดไปก่อนแล้ว ก่อนที่ ส.ส. เต้จะมาจุด จากคลื่นสงบนิ่งไม่มีเรือผ่าน พอจุดปุ๊บ ถ้วยที่เราเอาใส่ข้าว ลอยน้ำเลย คลื่นซัดมาอย่างแรง คิดว่าน้องรับรู้ว่าเราทำเพื่อน้อง”
ด้าน “เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์”หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ประกาศจะแก้กฏหมายเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ ป.วิ.อาญาฯ (5) เกี่ยวกับเรื่องเพิ่มผู้เสียหายในคดีอาญา เดิมทีมีแค่บิดา มารดา ส่วนสามีหรือภรรยา ต้องเป็นคนที่จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายเดิม จะแก้ให้สามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสแม้อยู่ด้วยกัน ก็สามารถเป็นโจทก์ได้ แล้วไปเพิ่มพี่น้องต่างบิดา มารดาอีก รวมไปถึงแก้ในข้อกฎหมายเรื่องการรับพยานหลักฐาน ว่าให้รับตั้งแต่พนักงานสอบสวน อัยการ หรือศาลชั้นต้นอุทธรณ์ได้ โดยที่พยานหลักฐานนี้ ใครได้มา ศาล อัยการ ตำรวจ ต้องรับเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา เพื่อเปิดช่องในการฮั้วคดี ถ้าเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนก็จะได้แก้กฏหมายดังกล่าว
ประกาศฟ้อง “กระติก” แจ้งความเท็จ และฟ้องแพ่ง 100 ล้าน ถ้าพูดความจริงจะไม่ดำเนินคดี
“ความจริงมีหนึ่งเดียว เพราะฉะนั้นเราจะถอนแจ้งความทันที และไม่เอาเรื่องกระติก ใช้เงื่อนไขเดิม ถ้ากระติกพูดความจริง น้องอีสเตอร์เดี๋ยวเรารับเลี้ยงเอง ชีวิตคนเรามันอยู่ได้ไม่นานหรอก ความจริงอยู่ในใจ ถ้าความจริงกับสิ่งที่ประชาชนเขาทราบมันเป็นเรื่องเดียวกัน แต่กฎหมายมันไปไม่ถึง กฎแห่งกรรมมันก็ไปถึง นอนไม่หลับหรอก พูดความจริง…จบ ทุกอย่างจะดีขึ้น ที่จะฟ้องไม่ได้ตั้งใจจะเอาเงินจากเขา ตั้งใจจะได้ความจริงจากเขา โดยใช้คดีความบีบ ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง ถ้ากระติกสารภาพ เราจะไม่ดำเนินคดี”
