“แทน เจษณภูมิ” เผยเคยต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียนเพราะถูกดูถูกที่เป็นลูก “พ่อกี้ร์ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง”แต่ปัจจุบันปล่อยวาง ลั่นเคยเฟลที่ถูกแคนเซิลงาน แต่ตอนนี้พร้อมสู้วอนคนยังไม่เปิดใจ ขอโอกาสให้ตน มองที่ความสามารถ เตรียมปล่อยซิงเกิลคู่พี่ชาย พึ่งบารมีพ่อติดต่อค่ายให้
ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยทีเดียว สำหรับ “แทน เจษณภูมิ พงษ์เรืองรอง” ลูกชายคนกลางของ “อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง”ที่ล่าสุดเริ่มเดินเข้าวงการบันเทิง มีผลงานภาพยนตร์เรื่อง Step up to RUNWAY - ปลายทางฝัน..ฉันมีเธอฉายอยู่ทุกโรงภาพยนตร์ และกำลังจะมีผลงานเพลงร่วมกับพี่ชายอีกไม่นานนี้ได้ฟังกันอย่างแน่นอน โดยหนุ่มแทนเผยว่าซุ่มทำเพลงมานาน และคุณพ่อเองก็คอยแนะนำสั่งสอนเรื่องการร้องเพลงให้ด้วย
“ตอนนี้แทนกำลังทำเพลงครับ ทำเพลงกับพี่ชาย ตอนนี้ก็รอโอกาสที่จะทำเอ็มวี หาค่ายและปล่อยเพลงอยู่ครับ ตอนนี้ก็ทำเพลงไปได้ระดับหนึ่งแล้วครับ ทำกันเองสองคนกับพี่ชายเลยครับ ก็เป็นแนวป๊อป อาร์แอนด์บีบ้าง จริงๆ ก็มีหลากหลายแนวเลยครับ แต่หลักๆ ก็จะเป็นป๊อปครับ
จริงๆ ที่อยากมีค่ายก็เพราะว่าเวลามีค่ายผมคิดว่าแรงการโปรโมตอาจจะดีกว่าหรือเปล่า และส่วนตัวผมก็ไม่รู้ว่าเราจะไปทางไหนดีด้วย ก็เลยยังไม่เคยปล่อยไปทางยูทิวบ์เลย ก็มีปรึกษาคุณพ่อด้วยครับ คุณพ่อก็ช่วยติดต่อค่ายให้ แต่จะเป็นค่ายต้นสังกัดเดิมของคุณพ่อไหม อันนี้ขอยังไม่บอกแล้วกันครับ เพราะผมต้องปรึกษาพี่ชายด้วยครับ อยากให้เขาดูเรื่องการตลาดให้ดีว่าเราเหมาะกับตรงไหนบ้าง เพราะพวกผมก็มีเพลงสากลด้วย เผื่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียหรือฟิลิปปินส์จะได้ฟังได้
คิดว่าเพลงน่าจะได้ปล่อยเร็วๆ นี้ครับ ไม่น่าเกินเดือน 4-5 นี้ครับ ก็รอทางค่ายดูความเหมาะสมอีกทีครับ ส่วนตัวผมชอบร้องเพลงมากกว่า แต่งานแสดงก็ชอบนะครับ เหมือนเราได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วย งานแสดงก็มีติดต่อมาบ้างครับ แต่ยังไม่ได้คอนเฟิร์มกัน มีไปแคสไว้บ้างครับ”
บอกเคยเอาเพลงๆ เก่าๆ ของพ่อมาร้องโคฟเวอร์ และได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี
“คุณพ่อจะคอยช่วยเรียบเรียงเมโลดี้ครับ สมมติแต่งเพลงมา เราก็แต่งแต่กับกีต้าร์ เปียโน คุณพ่อก็เรียกไปลองให้ร้องให้ฟัง ป๊าก็บอกว่าตรงนี้ต้องร้องแบบนี้นะ เขาคอยร้องไกด์ให้ แต่เขาจะไม่ยุ่งเรื่องสไตล์ของเรานะครับ เพราะสไตล์ป๊าก็จะเป็นอีกสไตล์นึง ส่วนแทนกับพี่ชายก็จะเป็นอีกสไตล์นึงครับ เพราะสไตล์พวกผมกับป๊าไม่เหมือนกันเลยครับ (หัวเราะ) แต่ผมก็ชอบร้องเพลงคุณพ่อนะครับ เคยเอามาร้องโคฟเวอร์อยู่ครับ มีเอาลงในเฟซบุ๊กบ้าง
แต่ผมจะชอบกวนคุณพ่อ เพราะในเพจเขาก็จะมีแฟนคลับคุณพ่ออยู่ ผมก็ลองเลียนเสียงคุณพ่อร้องลงในเพจเขา เขาก็บอกว่าร้องเสียงเหมือนคุณพ่อเลย แล้วคุณพ่อก็มีแต่งเพลงให้แทนด้วยครับ เผื่อแฟนคลับเขาคิดถึงเขา ก็คิดว่าจะปล่อยเป็นซิงเกิลก่อนครับ ถามว่าตื่นเต้นไหม คิดว่าตอนนี้น่าจะพร้อมครับ ผมว่าถึงเวลาแล้ว เพราะผมก็ซุ่มมานาน ฝึกซ้อมด้วย”
ยอมรับที่ผ่านมางานโดนแคนเซิล เพราะเป็นลูกของ “อริสมันต์”
“ใช่ครับ ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อก่อนคุณพ่อก็โดนหนักอยู่ ตอนนั้นยังเล่นการเมือง มันก็พูดยากครับ ก็โดนแคนเซิลไปประมาณ 2-3 งาน เป็นแคสงานแสดงครับ ประมาณเกือบ 2 ปีแล้ว ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ให้เหตุผลอะไร แต่ฝากผู้ใหญ่อีกฝั่งนึงมาบอกเรา ก็เฟลครับ ตอนแรกก็เคยคิดว่าหรือจะไม่เอาแล้วดี แต่คุณแม่กับคนที่รู้จักก็มาติดต่องานให้ ผมก็ดีใจมากครับ ขอบพระคุณมากๆ เลยครับที่ให้โอกาสแทน
ตอนที่โดนแคนเซิลป๊าก็ให้กำลังใจครับ บอกว่าไม่เป็นไรหรอกลูก สู้ต่อไปนะ เขาจะสอนให้ผมอย่าท้อกับทุกสิ่งที่เราอยากทำ เป้าหมายเราอยู่ที่ไหน เราห้ามยอมแพ้ ตอนนี้ก็โอเคแล้วครับ กำลังใจดีขึ้นมากแล้วครับ”
บอกมีภูมิคุ้มกันมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ไม่กลัวเรื่องฟีดแบ็กต่อต้านแล้ว
“แทนว่าแทนโดนเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่แทนเรียนมัธยม เพราะว่านั้นการเมืองมันแรง แทนก็โดนจับตามอง โดนดูถูกบ้าง โดนกล่าวหาบ้าง ซึ่งตอนเด็กๆ ผมก็ยังจัดการกับอารมณ์ไม่ค่อยได้ ก็โมโหครับแต่พอเราโตมาระดับนึงก็คิดได้ว่าคนเราก็ต่างมุมมอง ต่างความคิด ผมก็เลยพยายามที่จะไม่ถือสา ก็โอเค คนจะมองเรายังไงก็ไม่เป็นไร แต่เราก็รู้จักคนของเราดีว่าเขาเป็นยังไง
ช่วงเด็กๆ ตอนสมัยมัธยมก็มีเรื่องชกต่อยบ้างครับ คุณพ่อต้องมาที่โรงเรียนเลย แต่ป๊าก็บอกว่าเราต้องนิ่งเข้าไว้นะ ต้องเข้มแข็ง อ่อนโยน แต่ห้ามอ่อนแอตอนนั้นก็มีเรื่องชกต่อยบ่อยเหมือนกันครับ ตอนเด็กๆ ก็ซนอยู่ครับ (หัวเราะ) เรียนโรงเรียนชายล้วนด้วย คุณพ่อก็ต้องมาที่โรงเรียนหลายรอบเลยครับ ผมก็ปวดหัวเหมือนกัน คือตอนนั้นเหมือนคุณพ่อก็โดนกล่าวหา ผมก็เลยโมโห
แต่พอโตมาได้เห็นคอมเมนต์ที่มันแย่ๆ แทนก็ไม่อ่าน ไม่สนใจดีกว่า เราก็ปล่อยวางได้มากขึ้น ถ้าหากเราทำผิดจริงก็ค่อยว่ากัน เหมือนบางทีเราก็มีภูมิต้านทานขึ้นมา เพราะตั้งแต่สมัยเด็กๆ เราก็โดนมาตลอด ตั้งแต่แทนอายุประมาณ 10 ขวบ ตั้งแต่ประถมเลยครับ ผ่านมา 10 กว่าปีก็โดนมาตลอด แต่มาเริ่มเปลี่ยนความคิดได้ก็ประมาณอายุ 16 ก็นิ่งขึ้นครับ แต่ตอน 15 นี่สุดๆ เลย เพราะตอนนั้นผมย้ายโรงเรียนตอนขึ้นม.4 ด้วย ย้ายไปเรียนโรงเรียนอินเตอร์ครับ
พอย้ายโรงเรียนก็ดีขึ้นครับ เพราะโรงเรียนอินเตอร์ฯ เด็กก็มีแต่คนจีน คนฝรั่ง เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเรื่องการเมือง แต่ตอนนี้เพื่อนๆ ที่เคยมีเรื่องกันสมัยก่อนก็ยังคุยกันนะครับ ตอนนั้นก็คงเด็กๆ ครับ แกล้งๆ กัน เราก็เข้าใจเขา โตมาก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เจอก็คุยกันตลอด เด็กผู้ชายล้วนครับ ก็เป็นเรื่องปกติ เป็นเพื่อนกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด”
วอนขอโอกาส อยากให้มองที่ผลงาน
“ต่อจากนี้ก็คงไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้เราท้อแล้วครับ เพราะถึงมีเราก็สู้ให้ถึงที่สุด เราต้องพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกอย่าง ก็จะขอสำหรับคนที่ยังไม่เปิดใจ ก็อยากจะขอให้โอกาสผมนะครับ อยากให้มองที่ความสามารถในเรื่องการแสดง หรือว่าเรื่องร้องเพลง อยากให้เปิดใจลองฟังดูก็ได้ครับ ก็จะตั้งใจทำให้ดีที่สุดทุกงานครับ
ก็อยากฝากผลงานหนังเรื่อง Step up to RUNWAY - ปลายทางฝัน..ฉันมีเธอ ด้วยครับ แล้วก็ผลงานเพลงของแทนกับพี่ชายนะครับ คิดว่าน่าจะได้ฟังกันประมาณอีก 2-3 เดือนไม่น่าจะเกินนี้ครับ คิดว่าน่าจะมีเพลงเพราะๆ เพลงเต้นออกมาให้ฟังกันครับ แล้วก็จะมีโคฟเวอร์เพลงคุณพ่อหลายเพลงเลยครับ เอามาทำใหม่เป็นแบบที่ใช่สไตล์ของคุณพ่อมาก จะได้ไม่ซ้ำกัน แฟนๆ ของคุณพ่อก็รอติดตามได้ครับ แทนก็จะมาอัพเดทเรื่อยๆ ครับ ก็ติดตามไอจีของแทนนะครับ tanjess.p ส่วนเฟซบุ๊คก็ tandy jessanapoom เลยครับ”