ภายหลังจากที่พระเอกชื่อดัง “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” โดดมารับตำแหน่งโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ก็เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ทั้งกลืนน้ำลายตัวเอง ไร้จุดยืน 4 ปีย้ายถึง 4 พรรค ล่าสุดฟิล์มเปิดหมดใจผ่านรายการคนดังนั่งเคลียร์ทางช่อง 8 อดีตเคยแอนตี้พรรคพลังประชารัฐ แต่ทำไมวันนี้ถึงมาเล่นการเมืองพรรคนี้
“ภูมิใจสถานะใหม่ ผมชอบการเมืองอยู่แล้ว ส่วนตัวเป็นนักธุรกิจ ถ้าการเมืองสั่นคลอนก็กระทบธุรกิจเรา ก็เลยมองว่าถ้ามีโอกาสก็เข้ามาเป็นส่วนนึงการเมืองไปเลยดีกว่า อยากที่สุดคืออยากช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ แฟนๆ ชาวบ้าน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
โต้ตกอับ งานในวงการไม่มีใครจ้าง
“งานจ้างทุกคนเห็นอยู่แล้ว มีหลักฐานชัดเจน งานจ้างแน่นมาก แต่มีความคิดว่าถ้ายังแสดงอยู่ สร้างความสุขให้ในการแสดง แต่ทำให้เขาลืมตาอ้าปากไม่ได้ ไม่มีกิน ครอบครัวตกงาน ด้วยเศรษฐกิจที่มันแย่ ถ้ามีโอกาสเข้ามาแก้ไขบางข้อกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์กับคนที่ผมรักทุกคน แล้วทุกคนก็มีบุญคุณกับผม ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะห่วงโซ่ที่สูงที่สุดคือการเมือง ถ้าเป็นดารานักร้องไม่สามารถช่วยบริหารอะไรได้เลย”
4 ปี ทำไมถึงย้าย 4 พรรค?
“อยากบอกว่าการเมืองเขารู้จักกันหมด และเป็นทีมเดียวกัน ขึ้นอยู่แต่ละสมัยมากกว่าว่าใครจะรวมทีมไหนมาอยู่ด้วยกัน ในการที่รู้มือรู้ใจมาพัฒนาประเทศ ส่วนที่บอกว่าหาจุดยืนไม่ได้ อยากบอกว่าทุกคนรู้จักกันหมด แต่วงนอกอาจมองว่าพรรคนั้นพรรคนี้ แต่ในวงคนใน เหมือนเราเล่นกีฬาแล้วเป็นนักฟุตบอล ไม่แปลกที่เราเปลี่ยนทีมให้เราดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมมองจุดเดียว แต่ละพรรคที่อยู่มันให้อะไรกับประชาชน
พรรคที่หนึ่งที่เข้าไปพลังท้องถิ่นไท ออกเพราะได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ ทุกพรรคดีหมด ไม่มีพรรคไหนบอกว่าตัวเองไม่ดี แต่ละนโยบายดีหมด แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ส่งเสริมเราในด้านที่เราถนัดหรือยัง พรรคที่สองมาเพื่อไทย ตอนนั้นได้รับโอกาส และบอกว่าโชคดีมากๆ ได้รู้จักผู้ใหญ่ เป็นพรรคใหญ่ และเป็นพรรคที่ดี พรรคที่สามตามคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ออกมาพรรคไทยสร้างไทย ที่มีข่าวลือว่าออกมาไม่ล่ำลา ไม่มีมารยาท ไม่น่าใช่นิสัยของผม ผมมีมารยาท และเคารพผู้มีพระคุณทุกคน(หัวเราะ)
เขาไม่ได้ไล่ออกจากพรรค เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลยกับคนในพรรค ผมมองว่าจุดยืนผมก็ยังเหมือนเดิม อยากผลักดันเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ผลักดันเรื่องวัฒนธรรม ไอที แพลตฟอร์มต่างๆ เพราะผมถนัดด้านนี้ วันนี้ผมเข้ามาพลังประชารัฐด้วยพี่โอ๋ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมต.กระทรวงดีอี เขาให้โอกาส ผมก็มองว่ามันเป็นทางถนัดของผมเหมือนกัน ผมก็ได้รับโอกาส
มีคนสงสัยในเมื่อเคารพคุณหญิงหน่อย ทำไมไม่อยู่สร้างพรรคให้คุณหญิงหน่อย จริงๆ อยากบอกว่าในวงใน ไม่ว่าพรรคไหนรู้จักกันหมด วันนี้ วันข้างหน้า อาจมองว่าทำไมฟิล์มอยู่พรรคนี้พรรคนั้น อยากให้ดูระยะยาว วันข้างหน้าอาจมาร่วมมือกันทำงานเพื่อประเทศชาติก็ได้ ตอนจะออกก็มีคุยกัน แต่เราก็เคารพซึ่งกันและกัน ท่านก็น่ารักมากๆ ให้โอกาสเรามากๆ เรามี วันนี้เรื่องการเมืองทุกคนอาจมีอารมณ์เข้ามาเยอะ เพราะเป็นเรื่องปากท้องทุกคน แต่อยากจะให้รู้ว่าไม่จำเป็นว่าส.ส.ที่ย้ายพรรคคือโลเล ไม่เกี่ยว
ผมพูดเสมอเวลาไปพรรคไหน เราดูนโยบาย สองเราทำงานเหมาะกับพรรคนี้หรือเปล่า เขาให้อะไรเราบ้าง คนเป็นผู้นำต้องตรงตามใจเราด้วย ถ้าเป็นผู้นำดูแล้วภาพลักษณ์ไม่ใจดี ไม่โอบอ้อมอารี ไม่นำพาเศรษฐกิจไทยเราไปได้ก็ไม่เลือกเหมือนกัน 4 ปี 4 พรรคไม่ได้เกี่ยวเลย อยากให้มองที่การทำงานมากกว่า วันนี้เราก็เจริญเติบโตขึ้นเรื่องการเมือง เรามีช่องทางทำงานมากยิ่งขึ้น”
แจงสาเหตุ ทำไมต้องเลือกพลังประชารัฐ ลั่นตัวจริง “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” น่ารักมาก
“เพราะเราได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้พรรค ตรงอุดมการณ์ที่คิดไว้ อุดมการณ์เหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนพรรคก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว นโยบายมีการเปลี่ยนแปลง มันศักราชใหม่แล้ว ก่อนหน้านั้นไม่ได้ไม่ชอบลุงป้อม ประวิตร เพราะอยู่กับลุงตู่ ประยุทธ์ แค่อุดมการณ์ผม อยากได้นายกฯ ที่มีความใจดี โอบอ้อมอารี มาจากการเลือกตั้งด้วย นำพาเศรษฐกิจได้ ภาพลักษณ์ต้องสมาร์ท ที่ผ่านมามองจากภายนอกว่าคุณลุงเขาอายุเยอะหรือเปล่า แต่พอเจอตัวจริงเขาน่ารักมาก เรื่องอายุไม่มีคำว่าแก่ในด้านการเมือง โจ ไบเดนก็ 80 แล้ว ลุงป้อมนำคนเดียวก็คงไม่ไหวเหมือนกัน แต่มันเกี่ยวกับทีม
ถามว่ากลืนน้ำลายไหม เพราะเคยด่าลุงตู่ ลุงป้อม ผมไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย เพราะสิ่งที่ผมพูดคือสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าวันนี้พลังประชารัฐทำผิดผมก็ว่าอยู่ดี ตอนที่คอลเอาต์ เราคอลเอาต์ในเรื่องที่ถูกต้อง คุณลุงก็รู้ เขาบอกว่าดีแล้ว มาช่วยกันส่งเสริม ผลักดันให้ดีขึ้น แกรับฟังและเล่นโซเชียลตลอด พอผมเข้าไปคนในพรรคก็รู้ว่าผมเคยคอลเอาต์เรื่องอะไรบ้าง วันนี้พลังประชารัฐเพอร์ฟอร์แมนซ์ทีมใหม่ ผมก็เลยเข้ามา จะบอกว่าเพราะลุงตู่ไม่อยู่ก็ได้ อุดมการณ์แต่ละพรรคก็แต่ละทีม ผมอยู่ทีมนโยบาย แต่ละทีมมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยดังๆ เต็มไปหมดเลย เป็นการช่วยหานโยบายที่ดีที่สุดเพื่อประชาชน นี่คือสิ่งที่ชอบในพลังประชารัฐ เอานักวิชาการ ประชาชน ทีมต่างๆ ช่วยวิเคราะห์ เอามารวมกันและสร้างนโยบายต่างๆ ขึ้นมา
สายตาคนอื่นมองว่ากลืนน้ำลาย เพราะเขาจ่ายเยอะ ไม่มีเลย ส.ส.แต่ละคนมาด้วยอุดมการณ์ เชื่อว่าลุงป้อมจะพาประเทศไปได้จริงๆ ไม่ได้เลือกเพราะเงิน เรื่องตำแหน่งอยู่ที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเรา แต่ที่ผ่านมาจุดอ่อนของพรรค การสื่อสารงงๆ เราก็เอาสิ่งที่เราถนัดมาสื่อสารให้ประชาชนทราบ แต่วันนี้ผมมองว่าผมเป็นจิตอาสา ถึงจะอยู่วงการเมือง หรือบันเทิงก็เป็นจิตอาสาอยู่ดี”
โต้ลงส.ส.เขตเดียวกับ “อ๋อม สกาวใจ พูนสวัสดิ์”
“ผมไม่ได้จะไปแข่งกับใคร ผมไม่ได้ไปลงสะพานสูงด้วย ตัวผมเองเข้ามาบอกจุดยืนตั้งแต่แรกว่าผมถนัดอยู่ส่วนกลาง อาจเป็นบัญชีรายชื่อ ปาร์ตี้ลิสต์นั่เนอง แต่ถ้าอนาคตมองว่าควรไปลงเขตก็ต้องมาคุยกันอีกรอบ เราไม่รู้อนาคตว่านโยบายโดนใจประชาชนไหม แต่คิดว่าเราจะคิดสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อซื้อใจประชาชน ซึ่งทุกวันนี้ประชาชนเขาก็มีความคิดนะ”
