“บิว จักรพันธ์” เปิดใจพร้อมทนาย ยื่นฟ้อง “ปอย” อดีตแฟนสาวนักเขียน แจงไม่เคยทำร้ายร่างกาย เล่นกันแรงเป็นปกติ ยันไม่ได้คบซ้อน แต่ยังค้างคาเพราะโดนข่มขู่ ต้องอยู่อย่างทรมาน ไม่เชื่อฝ่ายหญิงท้องจริง มาบอกให้รู้ตอนทำแท้งแล้ว เลยจุดเสียใจแต่พร้อมสู้ เพราะคนที่รักรออยู่ กลั้นน้ำตาขอบคุณครอบครัวและแฟนคลับที่ยังให้กำลังใจ
จากกรณีที่ “บิว จักรพันธ์ พุทธา”นักแสดงซีรีส์วายจากเรื่อง KinnPorsche The Series ถูกอดีตแฟนสาว “ปอย พรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ” นักเขียนบท ออกมาแฉพฤติกรรมด้านลบในอดีตระหว่างคบหากัน จนทำให้แทบไม่มีที่ยืนในสังคม เพราะถูกปลดจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหลายตัว และต้องประกาศลาออกจากการเป็นนักแสดงของสังกัด “Be On Cloud”
ล่าสุดวันนี้ (21 ก.พ.) หนุ่มบิว พร้อมทนายรณกฤษ ศรีเปรมหทัย ก็ได้นำเอกสารและหลักฐานทั้งหมดเข้ายื่นฟ้องต่อคู่กรณี ณ ศาลอาญา (รัชดา) ถนนรัชดาภิเษก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล ทำให้ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง และส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน โดยงานนี้เจ้าตัวได้เปิดใจกับสื่อ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือตลอดการสัมภาษณ์
บิว : “วันนี้ก็มายื่นฟ้องนะครับ วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนทั้งหลายนะครับที่มาให้ความสนใจในเรื่องของผม ให้ผมได้มาตอบคำถามในหลายประเด็นที่หลายคนยังสงสัยแล้วก็เข้าใจผมผิดอยู่ วันนี้ก็จะขอมาตอบคำถามสื่อนะครับ วันนี้ฟ้องหลายประเด็นเลยครับ”
ทนาย : “เรื่องข้อกฎหมายยังตอบมากไม่ได้ แต่มีอยู่ในคำฟ้องฉบับนี้อยู่แล้ว ก็มีหลายข้อครับ ทั้งข่มขืนใจให้กระทำการ ทั้งกรรโชกทรัพย์ รีดเอาทรัพย์ ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา รวมถึงข้อหาเล็กน้อยอย่างทำให้เดือดร้อน รำคาญ ผมก็เอาหมดครับ เรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่ เดี๋ยวหลังจากนี้ดีกว่า”
ตื่นเต้นละรู้สึกแปลกๆ ไม่คิดว่าชีวิตนี้ต้องมายื่นฟ้องใคร
บิว : “ผมก็รู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกแปลกๆ กับตัวเองนิดหนึ่ง ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะต้องมายื่นเอกสารฟ้องใครในชีวิต ก็รู้สึกว่าเราเห็นได้แต่ในหนัง ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับชีวิตผมจริงครับ”
ยันไม่ได้ทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิง ไม่คิดที่จะทำ และไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น เป็นแค่การเล่นกันปกติ
บิว : “ในเรื่องที่ผมอยากจะชี้แจงเลยก็คือ ในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ผมขอบอกได้เลยครับว่าผมไม่ได้ทำ ผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายร่างกายเขาเลยครับ เพราะว่าผมไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ถ้าไปถามคนที่ผมโตมาตั้งแต่เด็กผมไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นหรอก จริงๆ แล้วมันคือการเล่นกันครับ ผมต้องบอกก่อนเลยว่าผมกับเขามีพฤติกรรมการเล่นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แล้วก็ตั้งแต่มามีความสัมพันธ์ด้วยกัน เราก็เล่นกันแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่น คลิปวิดีโอที่หลายคนคงได้เห็นกันแล้ว ผมไปสับหลังเขาอันนี้เล่นกันจริงๆ แล้วก็มีอีกคลิปหนึ่งที่เขาดึงแขนผมเหมือนจะผลักตกตึกอะไรแบบนี้ ถ้าอันนั้นเรียกว่าการทำร้ายร่างกาย แล้วอันนี้ไม่เข้าข่ายพยายามฆ่าเหรอครับแต่มันไม่ใช่ไง ก็เลยรู้สึกว่ามันก็ตลกดีครับ”
ถ้ารู้ว่าเล่นแรงเกินไป จะขอโทษในวันนั้นๆ เลย
บิว : “ในเรื่องของความรุนแรง ผมก็ได้รู้มาตลอดว่าถ้าผมเล่นแรงกับเขาเกินไป ผมก็จะขอโทษเขาในวันนั้นเลยครับ”
ไม่รู้มาก่อนว่าอีกฝ่ายทั้งท้อง รู้ตอนมาบอกว่าทำแท้งแล้ว ส่วนตัวพร้อมรับผิดชอบ ถึงจะเลิกกันแล้วหรือไม่ได้รักก็ตาม
บิว : “เรื่องประเด็นของการตั้งท้องคือ ผมไม่ได้รับรู้เลยครับว่าเขาตั้งท้องมาก่อน แล้วผมก็ได้มารับรู้อีกทีตอนที่ผมขอยุติความสัมพันธ์กับเขา เขามาบอกกับผมว่าเขาไปทำแท้งมาเรียบร้อยแล้วแต่ว่าถ้าเขาท้องจริง อันนี้ผมก็ยอมรับว่าผมขอดูแลลูกในท้องของเขา ถึงแม้ว่าผมจะเลิกกับเขาแล้วก็ตามหรือผมไม่รักเขาเลยก็ตาม อันนี้ผมก็จะขอยินดีรับเด็กในท้องของเขา”
ส่วนตัวไม่เชื่อว่าท้องจริง
บิว : “ผมค่อนข้างไม่เชื่อครับ ในประเด็นที่เขาบอกว่าผมไม่สนใจเขาผมก็ไม่ได้ไม่สนใจนะ ผมก็ไม่ได้อยากจะเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดนั้น แต่ถ้าเขาท้องจริง ขอย้ำนะครับ ถ้าเขาท้องจริงๆ”
รับยืมเงินมาจริง แต่ไม่ถึง 10 ล้าน และทรัพย์สินต่างๆ ก็คืนไปหมดแล้ว
บิว : “ในเรื่องของทรัพย์สินผมก็คืนไปเรียบร้อยแล้ว และก็มีหลักฐานด้วย ผมก็ส่งให้ทางทนายเรียบร้อยแล้ว”
ทนาย : “ผมก็อยู่ ณ ช่วงเวลาที่เขาคืนทรัพย์สินด้วย”
บิว : “แล้วก็ในเรื่องที่เขามาทวงเงินผม 10 ล้าน อันนั้นคือไม่ใช่จำนวนนั้นแน่ครับ ผมยอมรับว่าผมยืมเงินเขามาจริงและก็ได้มีการคืนไปแล้ว ผมได้ส่งหลักฐานให้ทนายแล้ว ในเรื่องของมูลค่าแล้วก็สิ่งของที่เขาให้มาโดยที่ผมไม่ได้ร้องขอ ก็มีการโอนเงินเข้ามาในบัญชีของผม และก็มีการให้โอนคืนกลับไป ซึ่งผมก็โอนคืนกลับไปทุกครั้ง แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่า ผมคิดว่าเขาน่าจะ… ให้ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร อันนี้ก็ต้องให้เขามาตอบคำถามเองครับ”
ทนายเผยมั่นใจในหลักฐาน เชื่อจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้แน่นอน
ทนาย : “แน่นอนครับ หลักฐานที่ทางคุณบิวส่งให้ทางทีมทนายนะครับ ล้วนแล้วแต่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ แล้วก็เป็นหลักฐานที่มีน้ำหนัก ข้อมูลครบถ้วนพอสมควร ก็เชื่อว่าสามารถที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของบิวได้อย่างแน่นอนครับ”
ศาลนัดแล้วเดือนพฤษภาคม แต่ยังไม่ได้ระบุวัน
ทนาย : “นัดแล้วครับ เดือนพฤษภาคม แต่ผมยังบอกวันไม่ได้ครับ ส่วนคู่กรณีศาลจะออกหมายนัดไปครับ”
หลักฐานทางโซเชียลของคู่กรณี ดูแล้วยังมีน้ำหนักน้อย แต่ใดๆ ต้องให้อีกฝ่ายยื่นฟ้องมาก่อน
ทนาย : “ในความคิดของผม หลักฐานบางอย่างมันก็ยังไม่ใช่หลักฐานเชิงประจักษ์ ยังมีน้ำหนักค่อนข้างน้อยที่นั่น เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องฟ้องทางเรามาก่อนแล้ว”
บิว : “ผมก็ยังไม่ได้รับหมายศาลฟ้องร้องจากเขาเลย ซึ่งตอนนี้ผมก็รออยู่ รอมาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับหมายศาล ตอนนี้ผมก็รอให้เขามาตอบความจริงอยู่ ตอนนี้ผมก็พร้อมมากครับ”
ยันไม่ได้คบซ้อน บอกเลิกไปแล้วหลายครั้ง แต่เป็นปัญหาค้างคาเพราะกลัวที่โดนข่มขู่
บิว : “ในเรื่องของการคบซ้อน คือผมไม่ได้คบซ้อนครับ คือผมขอยุติความสัมพันธ์กับเขาแล้วในช่วงเวลานั้น หลายครั้งด้วยซ้ำ แต่เขาไม่ยอมยุติ แล้วมันทำให้ผมรู้สึกว่า มันเป็นปัญหาคาราคาซังค้างคาแบบนี้ เพราะผมกลัวเขาจากการข่มขู่ แล้วผมก็ยอมรับว่าผมกลัวจริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่า…
เขาบอกกับผมมาตลอด เขาบอกให้ผมเชื่อว่าเขาจะเปิดโปงทุกอย่าง ถ้าผมเลิกกับเขา เขาจะบอกทุกคนว่าผมคบกับเขา แล้วปัญหามันจะตามมา ผลกระทบหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างก็จะตามมาเรื่อยๆ แล้วผมก็ไม่สามารถปรึกษากับใครได้เลยในเรื่องแบบนี้ มันก็ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพที่จะไปก็ไม่ได้ จะอยู่ก็ทรมาน แต่ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ผมไม่กลัวอะไรแล้วครับ ถ้าไม่สู้ตอนนี้ ก็ไม่รู้จะสู้ตอนไหน”
หลังจากที่ปัญหาเกิดขึ้น ไม่ได้ติดต่อกับอีกฝ่ายเลย เพราะไม่เห็นหนทางที่จะดีขึ้น
บิว : “หลังจากที่ประเด็นเกิดขึ้น คือผมไม่ขอติดต่อกับเขาทางใดทางหนึ่งเลย ซึ่งมันควรจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะว่าคุยกันไป ผมก็ไม่ได้เห็นหนทางที่มันจะดีขึ้นเลย”
ก่อนเรื่องจะออกมาสู่สาธารณชน มีการยืนยันความบริสุทธิ์กับอีกฝ่ายแล้ว
บิว : “ก็มีครับ มีโทร.คุยกับเขา ผมก็ยืนยันในความบริสุทธิ์ของผมเอง ว่าเรื่องทั้งหมดผมไม่ได้เป็นคนทำ ผมก็โทร.ไปยืนยันกับเขาจริงๆ ว่าผมไม่ได้ทำ (เสียงสั่น) แต่ก็นั่นแหละครับ ผมพยายามสุดความสามารถของผมแล้ว เขาก็บอกว่าเขาเชื่อ แต่เขาก็กล่าวหาว่าผมเอาตัวรอด (เสียงสั่น) เขาบอกว่าผมทำไปทั้งหมดเพราะเห็นแก่ตัวเองครับ”
ตอนนี้เลยจุดเสียใจ แต่ต้องก้าวต่อไปเพราะมีคนที่รักรออยู่
บิว : “สำหรับผม ผมเลยจุดคำว่าเสียใจมามากพอแล้วครับ ถามว่าตายทั้งเป็นไหม มันไม่ขนาดนั้นครับ อย่างน้อยผมก็ยังมีครอบครัวของผมอยู่ แล้วก็ยังมีคนที่รักผมอยู่ แล้วก็รอผมอยู่ ผมรู้สึกว่าผมต้องก้าวต่อไปให้ได้ครับ”
ไม่รู้อนาคตในวงการบันเทิง แต่จะพยายามแก้ไขอดีตที่พลาด และจะพัฒนาให้เป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน
บิว : “อันนี้ผมไม่สามารถมองอนาคตผมได้ออก แต่ว่าผมจะพยายามแก้ไขอดีต ในสิ่งที่ผมได้ทำผิดพลาดลงไป หรือว่าผมไม่ได้ทำก็ตาม (เสียงสั่น) แล้วก็ผมจะพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วันนะครับ อย่างที่ผมเคยบอกมาเสมอครับ”
จะรับฟังแต่คำวิพากษ์วิจารณ์ที่มีเหตุผล มีอารยะเท่านั้น และได้ดำเนินการฟ้องไปแล้วบางเคส
บิว : “ก็อยากจะบอกทุกคนนะครับ ว่าวิพากษ์วิจารณ์ผมได้ ในแบบที่มีเหตุและผล มีอารยะ ผมรับได้ครับ”
ทนาย : “ฝากไปถึงผู้ที่ใช้งานทางแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มเลยนะครับ ในการคอมเมนต์หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ เนี่ย ถ้ามีลักษณะก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวคุณบิว หรือมีลักษณะเป็นการกล่าวใส่ความใส่ร้ายป้ายสี หรือคอมเมนต์ในลักษณะที่หยาบคาย ด่าว่ากล่าว กรณีเช่นนี้ทนายจะดำเนินการทุกกรณีเลยนะครับ แล้วในระหว่างนี้ก็ได้ดำเนินการไปแล้วในบางเคสบางกรณีด้วย แล้วก็จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าคดีจะถึงที่สุดเราจะไม่ปล่อยไว้ครับ”
ให้ทนายประเมินความเสียหายในส่วนของรายได้แล้ว แต่เรื่องความสูญเสียทางจิตใจยังไม่ดีขึ้น
บิว : “ในเรื่องประเมินความเสียหาย อันนี้คือผมก็ให้ทางทนายได้จัดการเรียบร้อยแล้วครับ แต่ในเรื่องความสูญเสียทางจิตใจของผมเอง ซึ่งขอบอกตามตรงเลยว่าผมก็ไม่ได้รู้สึกดีครับ ไม่มีใครรู้สึกดีทั้งนั้นแหละ ถ้าโดนทำลายชีวิตขนาดนี้ แต่ผมก็ยังมีครอบครัวครับ (เสียงสั่นน้ำตาคลอ) ที่ให้กำลังใจผมครับ”
ถึงจุดนี้การไกล่เกลี่ยอาจจะยาก แต่ก็ไม่ได้ปิดช่องทางติดต่อ
ทนาย : “มาถึง ณ จุดนี้แล้ว ยังไงผมคิดว่ามันค่อนข้างที่จะยากลำบากอยู่พอสมควรครับ แต่ก็ไม่ได้ปิดช่องทางนะ แต่เบื้องต้นเขาก็ต้องยอมติดต่อเข้ามา”
พร้อมเจออีกฝ่ายเสมอ ไม่ได้ถือโทษโกรธแค้น เพราะคิดว่าเป็นกรรมที่ก่อร่วมกัน
บิว : “อย่างที่ผมบอก ผมพร้อมเสมอ พร้อมจะปรับความเข้าใจกับเขา เพราะผมไม่ได้ถือโทษโกรธแค้นอะไรกันมา เพราะผมคิดว่ามันเป็นกรรมที่เราก่อร่วมกันมา (เสียงสั่น)”
ครอบครัวได้รับผลกระทบ แต่ก็ต้องเข้มแข็งเพื่อตน
บิว : “ถามว่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน ก็บอกได้เลยว่าในเรื่องของ…ทางเรื่องต่างๆ ผมเสียหายมามาก ครอบครัวก็ได้รับผลกระทบ แต่ว่าพวกเขาต้องเข้มแข็งเพื่อผมครับ (เสียงสั่น) ถ้ารากฐานครอบครัวไม่มั่นคง ผมจะอยู่ได้ยังไง”
ทนาย : “คือในการมายื่นฟ้องในครั้งนี้ จากพยานหลักฐาน ทางทนายดูจากที่คุณบิวส่งมา แล้วก็เป็นพยานหลักฐานที่ทนายได้นำขึ้นสู่ศาลพิจารณา ก็คิดว่าเป็นพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักครอบคลุมพอสมควร เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ คิดว่าน่าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณบิวได้อย่างแน่นอนครับ แต่ในระยะเวลาระหว่างนี้ ก็เป็นขั้นตอนของศาล ที่จะต้องให้ศาลพิจารณา แล้วก็พิพากษาออกมา ซึ่งทางพี่ๆ สื่ออาจจะต้องรอนิดหนึ่งครับ เพราะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานอยู่พอสมควรครับ”
บิว : “ก่อนอื่นนะครับ ผมจะต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกคนนะครับ ที่ยังให้กำลังใจผมอยู่ แล้วก็ต้องขอบคุณพี่ปอนด์ (กฤษดา วิทยาขจรเดช) นะครับ ถึงแม้ว่าผมจะออกจากค่าย บี ออน คลาวด์ แล้วก็ตาม แต่พี่ปอนด์ก็ไม่เคยที่จะทิ้งผม เขาก็ยังเอ็นดูผมและครอบครัวเสมอ แล้วก็ต้องขอบคุณทีมงาน บี ออน คลาวด์ ทุกคนที่ให้คำปรึกษา แล้วก็ให้กำลังใจผม แล้วก็เพื่อนนักแสดงอีกหลายๆ คน ต้องขอบคุณมากจริงๆ ครับ ถ้าผมมีโอกาสได้ทำดีกลับให้พวกเขาอีกสักครั้ง ผมสัญญาว่าผมจะทำครับ (เสียงสั่น) แล้วก็ต้องขอบคุณครอบครัวของผม ที่ให้กำลังใจผมมาตลอด ถ้าไม่มีพวกเขาผมคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ครับ”
