“กบ ปภัสรา” เผยไม่ได้หวงลูกสาว แต่เป็นห่วง การซักประวัติเรื่องหนุ่มๆ ของลูกไม่ใช่เรื่องผิด และสอนลูกตลอดถ้าจะลงรูปอะไรให้คิดก่อน และต้องยอมรับฟีตแบ็คทั้งดีและลบให้ได้ บอกไม่ขอยอมแพ้ลูกเรื่องความเซ็กซี่ เพราะตนอายุมากแล้ว ขอโชว์บ้าง ด้าน “น้องเหนือ” รับกดดันในความที่เป็นลูกแม่และ “พ่อเอ๋ พรเทพ” จะทำอะไรเลยต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ไม่อยากให้กระทบพ่อกับแม่
ใครๆ ก็รู้ว่าผู้จัดคนเก่ง “กบ ปภัสรา เตชะไพบูลย์” มีลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคือ “น้องเหนือ ดิสรยา เตชะไพบูลย์” เพียงคนเดียว ไม่แปลกถ้าใครจะมองว่าต้องเป็นคุณแม่ที่หวงลูกสาวแน่ๆ แต่เจ้าตัวบอกว่าความหวงนั้นไม่เท่าความห่วง ถ้าทำอะไรอยู่ในสายตาก็ไม่มีปัญหา ด้านน้องเหนือเองยอมรับว่าช่วงแรกๆ มีแอบหงุดหงิด แต่พอเวลาผ่านไปถึงเข้าใจในความรู้สึกของคุณแม่
เหนือ : “คุณแม่หวงนะคะ แต่หวงที่ว่าอยากให้อยู่ในสายตา เขาให้อิสระเรา เรามีเพื่อนสนิทอะไรของเราได้ เราใช้ชีวิตของเราได้ แต่ก็ให้อยู่ในสายตาเขา ซึ่งหนูก็ชอบให้มันเป็นอย่างนั้นนะ เพราะเราก็จะได้ให้ป๊าแม่สบายใจ เพราะเราก็เข้าใจว่าเขาก็เป็นห่วงเรา เราก็ไม่อยากให้เขาต้องมาคอยโทรตาม โทรจิก ถามว่าอยู่ไหนทำอะไร เราก็บอกเขาเองดีกว่าว่าเราอยู่นี่นะ เราทำนี่นะ อยู่กับใคร คุณพ่อคุณแม่ก็จะสบายใจ ก็ยังอยู่ในกรอบ แต่เป็นกรอบที่อิสระ”
กบ : “เรื่องหนุ่่มๆ กบไม่ห่วงนะ กบมองว่าเขาโตในวัยที่เหมาะสมที่เขาจะมีเพื่อนได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก็ยังอยู่ในสายตาคุณพ่อคุณแม่ จะบอกว่าคุณอายุขนาดนี้ ไม่มีเพื่อน เป็นไปไม่ได้ โกหก”
เหนือ : “เพื่อนสนิทๆ (ยิ้ม)”
กบ : “เขาก็มาถามว่า แม่หนูจะตอบยังไงดี ถ้าพี่ๆ สื่อเขามาถามว่ามีหนูมีแฟนมั้ย กบก็บอกว่าตอบความจริงลูก มันไม่ได้เสียหาย แต่ลูกยังต้องอยู่ในสายตาคุณพ่อคุณแม่นะ”
เหนือ : “คุณพ่อกับคุณแม่ใครสแกนมากกว่ากันเหรอ หนูว่าคุณแม่สแกนมากกว่า ป๊าก็แอบสแกน แต่คุณแม่จะค่อนข้างตรงๆ”
กบ : “พี่เอ๋เขาจะชอบแอบๆ สังเกตการ แต่กบจะตรง เป็นใคร มาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใคร บางทีเขาถามว่าแม่ทำไมต้องถามด้วย กบก็บอกว่าต้องถามสิลูก แม่จะได้รู้ว่าวันนี้ลูกไปกับเขา เกิดมีอะไรขึ้นมาแม่จะได้ตามถูก”
เหนือ : “เมื่อก่อนหนูก็จะไม่ให้ ไม่เอา แต่เดี๋ยวนี้อยากทำอะไรทำเลย เอาเบอร์โทรศัพท์ไป เอาไลน์ไปเลย”
กบ : “เมื่อก่อนนี้เขาจะไม่ให้เลย แม่จะถามทำไม แม่จะเอาไปทำไม เราก็อธิบายแบบนี้แหละ พอหลังๆ เขาก็ให้เลย แม่ต้องรู้จักทุกคน และสนิทด้วย (ยิ้ม)”
เหนือ : “ต้องพามารู้จัก เพื่อนสนิททุกคนต้องพามาเจอ ตอนแรกเพื่อนจะเกร็งมาก เพราะแม่เป็นคนดูดุ แม่เป็นคนหน้าดุ ทุกคนจะเกร็ง แต่ป๊าจะเอ็นจอยด์ เขาจะเป็นสายเฮฮา พอเจอบ่อยๆ ก็จะสบายขึ้น”
กบ : “เดี๋ยวนี้เราจะเป็นฝ่ายตามเขา อย่างพอเขาบอกจะไปหัวหิน เราก็มองหน้ากับป๊า แล้วก็บอกเขาว่าไปด้วยได้มั้ย (หัวเราะ) เราก็ตามไป อยากไปเที่ยวด้วย”
เหนือ : “เมื่อก่อนไม่ได้เลย ทำไมต้องไป แต่เดี๋ยวนี้โอเค ไปด้วยกันเลย แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะโกรธ จะไม่คุย”
กบ : “จะง๊องแง๊งเลย จะตามไปทำไม คือเขาก็จะเป็นกลุ่มเด็กๆ ไง ตอนนั้นเขาไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เขาโตขึ้น เขาเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมอง แล้วก็มองกลับมาฝั่งพ่อกับแม่ว่าจริงๆ เขาห่วงเรานั่นแหละ เขาโตจนเขาคิดได้แล้วว่าห่วง ไม่ใช่หวงนะ เพราะวันนึงถ้าเขาแต่งงานมีครอบครัว เราก็ไปไม่ได้แล้ว แต่ถึงวันนั้นเราก็ยังห่วงอยู่ดี”
เรื่องความเซ็กซี่เป็นเรื่องเดียวที่ไม่ขอยอมลูก
กบ : “เราต้องไม่ยอมเขานะ (ยิ้ม)”
เหนือ : “สู้ไม่ได้หรอก (ยิ้ม)”
กบ : “แต่ทุกรูปคือพี่เอ๋ถ่ายนะคะ ไม่ใช่คนอื่น บางทีลูกก็ถ่ายให้ สลับกันถ่าย”
เหนือ : “รูปหนูแม่ก็ถ่าย แต่ส่วนใหญ่หลังๆ จะถ่ายกันเองแม่ลูก เพราะป๊าจะบ่น เพราะผู้หญิงเราก็จะถ่ายกันเป็น 100 รูป ป๊าเขาก็จะบ่นว่าเหนื่อยแล้ว (ยิ้ม)”
กบ : “คนชมเหรอคะ (ยิ้ม) เราก็ไม่ยอมนะ เพราะเราก็ 54 แล้ว แก่แล้ว เราก็อยากจะมีโมเมนต์ของเราสวยๆ บ้าง เพราะลูกเขายังได้อีกหลายปี แต่ของเรามันก็จะถอยหลังๆ ก็เลยขอสักนิดนึงน่า”
“แม่กบ” สอนลูกสาว ลงรูปอะไรให้คิดก่อน เพราะเป็นสาธารณะและเป็นลูกตนด้วย
กบ : “รูปที่เขาใส่ชุดว่ายน้ำกบก็โพสต์ลงก่อนเขาอีก คือเราเห็นว่าเขาน่ารักจังเลย สวย ก็เลยบอกว่าแม่ขอเอามาลงได้มั้ย ก็จะขออนุญาตเขาก่อนทุกครั้ง พอเขาบอกว่าได้ก็เลยเอามาลงคู่กัน แต่เดี๋ยวนี้ลูกเขาลงเอง แรงกว่าแม่อีก (หัวเราะ) สุดติ่งกระดิ่งแมวมาก พี่เอ๋หวงมั้ยเหรอ พี่เอ๋เขาสไตล์ฝรั่งค่ะ แต่เวลาลง เราก็จะเลือกรูปก่อน แต่ลูกเขาก็จะจัดการของเขาเอง เราก็แค่จะสอนเขาว่าจะลงอะไรต้องคิดให้ดี รูปทุกรูปที่ลงไปมันมีสตอรี่ทั้งนั้น มีบวกและลบ ถ้ายอมรับมันได้ ลงไปแล้วมันมีอะไรเกิดขึ้น ต้องรับมันให้ได้ เพราะเขาเป็นคนสาธารณะ เป็นลูกเราด้วย ลูกต้องคิดทุกครั้งที่จะลง
กบเองก็เหมือนกันเวลาจะลงอะไรก็จะถามป๊าว่ารูปนี้ลงได้มั้ย คือบางทีก็จะมีฟีตแบ็คแรงๆ บ้าง เราก็บอกว่าถ้าเราลงแสดงว่าเรายอมรับมันแล้ว เราก็จะไม่แคร์ ไม่ได้สนใจ เพราะเราไม่ได้ให้ราคากับมัน เราให้ราคากับความรู้สึก ความสุขของเรา ราคาคนอื่นมันเป็นแค่คำพูด เพราะคุณไม่ได้รู้จักเรา แล้วคุณจะมาให้เราให้ราคาคุณก็คงไม่ใช่ เราก็จะคุยกันกับพี่เอ๋ พี่เอ๋ก็จะเข้าใจ ป๊าเขาก็จะสอนลูกเหมือนกันว่า ดูดีๆ นะลูก รูปทุกรูปที่ลงไปมันจะมีทั้งบวกและลบกับเรา ถ้าเราเข้มแข็งก็จบ แต่ถ้าเราไม่เข้มแข็งแล้วเจอกระหน่ำดราม่า คุณจะรับได้มั้ย”
เหนือ : “ด้วยความเป็นลูกกบ ปภัสรา เราก็กดดันนะคะ คือหนูก็เป็นห่วงภาพลักษณ์ป่ะป๊ากับคุณแม่อยู่ดี เวลาจะทำอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลังด้วย มันไม่กดดันไม่ได้จริงๆ จะทำอะไรก็ต้องระวังตัว เพราะอย่างที่แม่บอกว่ามันมีบวกและลบ คือถ้ากระทบตัวเราคนเดียว หนูก็ไม่อะไร แต่ถ้ากระทบป๊ากับแม่ด้วย หนูไม่โอเค เรื่องอะไรก็ตามอย่าถึงป๊ากับแม่ ให้มันจบที่หนูก็พอ การกระทำของหนูอย่าให้ถึงป๊ากับแม่ แค่หนูคนเดียวเท่านั้น มันคือความผิดของหนู ไม่ว่าหนูจะทำอะไร จะบวกจะลบมันคือหนูคนเดียวค่ะ แต่ทุกอย่างเราก็จะคุยกันว่าอะไรเหมาะสมไม่เหมาะสมค่ะ”
กบ : “คือวิธีการเราไม่ใช่สอนลูกแบบต้องสอน แต่ใช้บอกและเหตุผล แต่ถ้ามันมีอะไรที่โหมกระหน่ำมาแล้วก็ให้มีสติก่อน (ยิ้ม)”