“อุ๊บ วิริยะ” เผยเข้าไปช่วยเหลือเรื่องอุดรธานีFC ในฐานะประธานอยู่ได้แค่ 3 เดือน มีปัญหาจุกจิกมาตลอด พาไปหาสปอนเซอร์รายใหญ่อย่าง “มาดามแป้ง” ตนต้องได้ค่าคอมมิชชั่น แต่สุดท้ายไม่ได้ บอกตอนนี้ไม่หวังเงินแล้ว เตรียมส่งเอกสารให้ยกเลิกการจ่ายงวดต่อไป พร้อมฟาด “หงส์ทอง” อีกเจ้า ที่ตกลงสัญญาจะให้เงินตอบแทน แต่ก็ไม่ได้เช่นกัน บอกตนทำงานก็ต้องการเงิน กินข้าว ไม่ได้กินขี้ โลกนี้ไม่มีของฟรี
มีเรื่องให้นักปั้นชื่อดังอย่าง “อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ” ต้องออกมาฟาดแรงๆ อีกแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวโพสต์ลงเฟสบุ๊คส่วนตัวว่าเสียความรู้สึกกับฟุตบอลทีมอุดรธานี FC มาก ตกลงเข้าไปช่วยในฐานะประธานสโมสร เพื่อซัพพอร์ตให้มีเงินเข้าทีม แต่สุดท้ายพอไปหา “มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ” จนได้เงินสปอนเซอร์มา 1 ล้านบาท ตกลงจ่ายเป็น 2 งวดๆ ละ 5 แสนบาท และตนจะได้เงินจากงวดนั้นครั้งละ 5 หมื่นบาทเป็นค่าคอมมิชชั่น แต่สุดท้ายไม่ได้สักบาท
โดย อุ๊บ วิริยะ เผยกับทีมข่าว manager online บันเทิง ว่า ตนกำลังยื่นเอกสารถึง มาดามแป้ง ขอให้ระงับการจ่ายเงินในงวดต่อไป เพราะเกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้น และตนก็ได้ยุติบทบาททุกงานกับทีมอุดรธานี FC มาพักใหญ่แล้ว
“จริงๆ ตอนที่เราเข้าไปเป็นประธานในอุดรธานี FC เมื่อเดือนก.ค. ปีที่แล้ว ก็ตกลงกันว่ามีเงินเดือนๆ ละ 5 หมื่นบาท มีคอมมิชชั่นต่างๆ นานา ที่เราเป็นส่วนหนึ่งในการมากู้สถานการณ์ให้ไม่ติดขัดอะไรทั้งสิ้นที่จะต้องโดนปลดอะไรต่างๆ ก็หาเงินช่วยแนะนำคนนั้นคนนี้หาเงินมา ซึ่งตอนที่เราไปทำภาพมันก็ดูดีขึ้น แต่สักพักมันก็มีปัญหาเหมือนเดิมที่ประธานคนเก่าเขาก็สร้างปัญหามาเรื่อยๆ
คือตอนทำงานได้ประมาณ 3 เดือนตกลงกันเงินเดือนเท่านี้ๆ แต่ก็ไม่ได้ตามสัญญา มีปัญหากับนักฟุตบอลเรื่องทีมเรื่องอะไรต่างๆ นานา เราก็เลยต้องยุติบทบาท ทีนี้ช่วงที่กำลังจะออกมาก็มีการทำเรื่องถึงมาดามแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) ขอสปอนเซอร์ ซึ่งทางมาดามแป้งก็ให้มา 1 ล้านบาท โดยทางเลขามาดามแป้งก็บอกว่าทางมาดามแป้งแฮปปี้มาก บอกว่าเดี๋ยวจะได้ทำอะไรสนุกๆ กันนะคุณอุ๊บ”
บอกให้สัก 1-2 หมื่นตนก็ยังแฮปปี้ ต้องกินข้าว ไม่ได้กินขี้ ทำงานก็ต้องได้ตังค์
“ตอนนั้นก็ออกมาได้สักพักแล้วล่ะ แต่ก็อยากจะช่วย ก็เลยไปเป็นที่ปรึกษาบ้าง ซึ่งทุกคนบอกว่าเป็นเพราะชื่อเสียงของเราก็เลยมาช่วยกัน พอตกลงได้ 1 ล้านบาทจากมาดามแป้ง ซึ่งเราจะได้ค่าคอมมิชชั่น 1 แสนบาท ซึ่งมันน้อยมาก แต่เราก็โอเค ไม่เป็นไร งวดแรกได้มาเมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนแรกก็มีการตกลงว่าเราจะได้ 5 หมื่นบาทก่อน แต่ปรากฎเราไม่ได้สักสตางค์เลย คือเงินมันไม่ได้มากมายอะไร แต่เราเสียความรู้สึก เพราะเขาไม่มีสัจจะ ไม่รักษาคำพูด คุณให้เรามา 1-2 หมื่นฉันก็แฮปปี้แล้ว เอามาเป็นค่าอาหารหมาแมวได้ แต่เขาบอกว่าเอาไว้งวดหน้า
ซึ่งเราไม่คาดหวังตรงงวดหน้าเลยว่าจะได้ เราก็บอกไปว่าทุกคนได้หมด แต่ฉันเป็นคนเซ็นสัญญา แต่ทำไมไม่ได้สักสลึงนึงเลย แล้วก็ไม่โทรไม่ติดต่อมาด้วยนะ จนเราทราบเรื่อง ก็เลยติดต่อไป เขาก็โบ้ยว่าให้งวดหน้า พอมาถึงตรงนี้เราก็รู้สึกไม่แฮปปี้แล้ว ก็เลยคิดว่าจะต้องสั่งสอนบ้าง ก็โพสต์เลยว่ามีปัญหาเกิดขึ้น ล่าสุดได้คุยกับเลขามาดามแป้งแล้ว เราก็เตรียมทำเอกสารเข้าไปว่าขอให้ระงับการจ่ายเงินในงวดต่อไป เพราะถ้าเงินไปถึง เขาก็อาจจะเอาไปจ่ายอย่างอื่นอีก ซึ่งเราทำงานเต็มที่ เต็ม 100 คนเราของฟรีไม่มีในโลก กินข้าวนะคะไม่ได้กินขึ้ ถ้าจะมาบอกว่าเรางก เงินแค่นี้เอง อ้าว มันก็ต้องมีค่าใช้จ่าย เราก็ต้องเอาเงินมาเลี้ยงหมาแมวจรจัดอีก”
บอกไม่หวังได้เงินก้อนนั้นแล้ว ถือว่าทำบุญ ทำทาน
“เงินที่สูญไปก็ไม่เป็นไร ก็ถือว่าให้ทานไป ตอนที่ทำอยู่เราก็หาเงินให้เขาได้เป็นล้านนะ ก็ได้ค่าคอมมิชชั่นมา 2 หมื่นกว่าบาท ตอนก่อนไปทำคนก็เตือนกันเยอะนะว่าอย่าเข้ามาเลย แต่เราก็ให้โอกาสคนนะ เพราะเราไม่ได้ลงทุนเรื่องเงิน เราลงทุนด้วยชื่อเสียงของเรา แต่ถ้ายังเป็นอย่างนี้คุณจะทำอะไรก็พินาศ ฉิบหาย วินาศ สันตะโร เราไม่กลัวหรอกถ้าเขาจะออกมาโต้แย้งอะไร เพราะเรามีหลักฐานทุกอย่างว่าคุณจะให้ฉัน 1 แสน แล้วเงินที่ให้มาทั้งหมดเราได้มาเท่าไหร่ ครบมั้ย ถ้านางจะออกมาพูดนะ เราก็จะบอกว่าให้เอาเวลานั้นไปหาเงินใช้หนี้ดีกว่า เราไม่กลัวหรอก เราโปร่งใสอยู่แล้ว
ตอนนี้เราก็ตัดใจจากเงินแสนตรงนั้นแล้ว ไม่เอาแล้ว เราหาได้มากกว่านี้ ชื่อเสียงเรามีค่ามากกว่าตรงนั้น อันนี้ก็อยู่ที่มาดามแป้งด้วยว่าจะให้หรือไม่ให้ แต่เราก็จะชี้แจงมาดามแป้งไปว่ามีอะไรเกิดขึ้น ก็อยู่ที่ตัวท่านว่าจะพิจารณายังไง เพราะตอนนั้นเราก็เป็นส่วนหนึ่งในการเซ็นเอกสารในฐานะประธานคนหนึ่ง”
ฟาด “หงส์ทอง” ที่ตนถอนตัวออกมา ก็เพราะมาแนวเดียวกัน
“หลังจากนี้ถ้ามีงานไหนให้เราช่วยอีกก็ต้องดู พูดตรงๆ ว่าต้องขอเงินก่อนเลยนะ อย่างหงส์ทองก็เหมือนกัน มีปัญหาแล้ว จ่ายเงินมาน่าเกลียดมาก ตอนแรกหงส์ทองตกลงกับเราโอ้โหล็อตใหญ่มากอย่างนั้นอย่างนี้ สรุปจ่ายให้เรามา 39,000 บาทเองทำงานให้เกือบเดือน เราก็เลยไม่เอาแล้ว ไม่ทำต่อ เพราะตอนแรกตกลงกันว่าจะให้ค่าแรง ค่านั่นนี่
ปัญหาเหมือนกันเลย ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงานกับหงส์ทองแล้ว เราเคยพูดต่อหน้าผัวเมียเจ้าของหงส์ทองเลยนะ คนดีๆ จะออกไปจากชีวิตพวกคุณ เราพาไปหาคนนั้นคนนี้ ไปนู่นไปนี่ ให้คำปรึกษาสารพัด แต่แล้วก็มาเทกัน ตอนแรกเขาบอกเองเลยจะไม่ทอดทิ้งพี่อุ๊บ จะดูแลพี่อุ๊บ ฝั่งเมียก็บอกว่าเดี๋ยวจะต้องมีค่าแบรนด์ชื่อพี่อุ๊บ มีเงินเดือน มีสารพัด เสนอคุยงานกันตอนแรกผ่านทุกอย่าง คุยวันนี้อย่าง พรุ่งนี้อย่าง พาวีไปออกรายการนู้นรายการนี้ หลักฐานก็มี เราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างซึ่งมันไม่ชัดเจน ไม่เคลียร์ เขาถึงเป็นแบบนี้
ก็ปรึกษาทั้งทนายเจมส์ ปรึกษาทนายรณรงค์ ว่าไม่เอาดีกว่า แล้วหลายๆ คนก็ออกมา ก็เลยยุติแค่นี้ ต่อไปนี้ก็คงต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะบางทีเรามาทำด้วยใจ เงินไม่ได้พูดถึงเลย แต่พอเสร็จแล้วเจอแบบนี้ ก็ไม่เป็นไร คงเป็นวิบากกรรม ฉันก็ทำดีต่อไป ช่วยหมา ช่วยแมวมาตลอดชีวิต เจอแต่เรื่องแบบนี้ ก็สู้ต่อไปค่ะ ไม่เข็ดค่ะ แต่ก็ต้องไม่ไว้ใจคนมาก คงจะต้องเขี่ยวเข็ญกันมากกว่านี้ ก็คิดว่าเราอาจจะเป็นหนี้กรรมตั้งแต่ชาติปางก่อน ต้องกลับมาใช้หนี้พวกมึง พอคิดอย่างนี้ก็โอเค เราก็มีศักดิ์ศรี เราเต็มที่กับทุกงาน ตอนนี้เวลาจะคบใครก็ต้องระวัง เรื่องเงินมันสำคัญ คนเราทำงานต้องได้เงิน ของฟรีไม่มีในโลก กินข้าวไม่ได้กินขี้นะคะ”
