xs
xsm
sm
md
lg

เอ็นดู! เจ้าบ่าว “อนันดา” สุดกลั้นน้ำตา ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ได้แต่งเมีย ลั่นเรามาถึงจุดนี้เพราะความรัก (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนันดา” น้ำตาเอ่อ สิ่งที่เกิดขึ้นมันเรียล คาดไม่ถึงจะแต่งเมีย ลั่นมาถึงจุดนี้ได้เพราะความรัก ไม่คิดจะแต่งงานทั้งคู่ แต่อยากอยู่ด้วยกัน อยากมีโมเมนต์ในความทรงจำ ลั่นจะเคียงข้างทั้งสุขและทุกข์ตลอดไป



เป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องงานแต่งงาน และไม่คิดว่าชีวิตนี้จะสละโสด สำหรับพระเอกชื่อดัง “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ล่าสุดวันนี้ (18 ก.พ.) ควงแขนเจ้าสาวคนสวย “ณัฐ ณิชชา ธนาลงกรณ์” แถลงข่าวงานมงคลสมรส ก่อนแต่งจริงในวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) ที่โรงแรมคาเพลลา ชั้น 2 ห้องอะเทลีเย่ 1 ก็กลายเป็นภาพที่เรียกรอยยิ้มด้วยความเอ็นดูอยู่ไม่น้อย เพราะแค่เริ่มต้นให้สัมภาษณ์ เจ้าตัวก็ร้องไห้เลย ยอมรับไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้

อนันดา : “ถ้าให้พูดจริงๆ มันก็เป็นความรู้สึกแบบ…เรียลนิดหน่อย บางทีเราก็…(น้ำตาเอ่อ) พอเราคิดถึงเรื่องนี้มันจะมีอะไรเหมือนมาจุกคอหอยอยู่ตลอด”

ณัฐ : “กว่าจะถึงวันนี้เรื่องการจัดการก็เอาเรื่อง ก็ด้วยความที่เราสองคนจะแซวกันตลอดว่าเป็นคนน้อยกันทั้งคู่ แล้วพี่ อาร์ต อารยา ที่มาจัดงานให้ ก็เป็นคนน้อยอีก มันก็เลยมีความน้อยๆ”

อนันดา : “น้อยตรงไหน”

ณัฐ : “อันนี้เป็นมุก ก็คือเราจะดีเทลกันมากๆ เป็นงานอาจจะไม่ได้ใหญ่โตในเรื่องของจำนวนคน แต่ทุกอย่างที่เราตั้งใจทำกันออกมา คือตั้งใจทุกดีเทลจริงๆ ทุกโต๊ะที่นั่งแขก เราว่าโต๊ะดินเนอร์ที่เราวางไว้พรุ่งนี้ แล้วทุกคนคือนั่งหมด 400 คนไม่รวมอาฟเตอร์ปาร์ตี้ คือทุกอย่างตั้งใจมากจริงๆ ทีมงานทุกคนก็ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ รวมถึงพี่อาร์ต และก็ครอบครัวอนันดา และครอบครัวณัฐด้วยที่ซัปพอร์ตทุกอย่าง”

อนันดา : “ธีมงานเราคุยกันไว้ว่าจะเป็นแคชชวล คือสบายๆ เป็นเหมือนเราชวนครอบครัว ชวนคนที่เรารักมาฉลองกับเรา แต่พอไปสักพักมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ เอาแค่ชุดของวันนี้ตอนแรกก็ไม่ใช่อย่างนี้นะ ตอนแรกเราไปทางเกือบจะเป็นเสื้อกล้าม กางเกงเล สบายๆ แล้วครับ แต่ตอนนี้มาไกลแล้ว อยู่ดีๆ ก็มาเป็นแบบนี้ชุดนี้ก็เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้า”

ณัฐ : “ชุดนี้ก็เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานตอน 5 โมงเย็น”

อนันดา : “ก็ไม่เคยรู้เหมือนกันว่าดีเทลงานจะเยอะมากขนาดนี้ จนนาทีสุดท้ายว่าชุดฉันจะยังไง มีชุดแบ็กอัปแล้วก็ชุดแบ็กอัปของแบ็กอัป”

ณัฐ : “ของณัฐรวมจนจบงานมีเป็นสิบ”

อนันดา : “อันนี้ไม่พูดถึงชุดที่ไม่ได้ใส่ด้วย”

ณัฐ : “ก็ขอบคุณทีมบริษัทตัวเองที่ทุกคนอดหลับอดนอนเพื่อณัฐ ณัฐรู้ว่าน้องๆ อดทนกันมาก ไม่นอนจนตีสองตีสาม บริษัททำงานเหนื่อยมากๆ แล้วก็รวมถึงแขกที่มาในงาน ก็เป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยพอสมควร แล้วก็ขอบคุณดีไซเนอร์ ขอเก็บเป็นความลับก่อน แต่เรามีเซอร์ไพรส์พรุ่งนี้ มีดีไซเนอร์อีกท่านหนึ่งมาช่วยณัฐออกแบบบางชุดด้วย เป็นชุดของเขาและมีชุดที่ณัฐตัดเอง”

อนันดา : “ถามว่าผมเห็นทุกชุดไหม จริงๆ ผมเข้าใจว่าตามธรรมเนียม ผมไม่ควรเห็นใช่ไหมครับ แต่ผมเห็นหมดแล้ว อาจจะให้เห็นในไฟนอล แต่นี่เขาโฆษณาที่รักต้องมาดูนะ บางทีก็อาจจะมีมุมที่เขาไม่มั่นใจอะไรแบบนี้เราก็ต้องเข้าไปเหมือนเป็นซัปพอร์ตให้”

ณัฐ : “ถามว่าใส่จริงกี่ชุด พรุ่งนี้ 4 แล้วก็มีวันที่กระบี่อีกค่ะ วันที่กระบี่จะเป็นชุดที่ณัฐทำเอง พรุ่งนี้จะมีตอนเช้าเป็นของ พี่ป้อม ธีรพันธ์ ช่วยทำให้ชุดไทย ชุดที่สองเป็นของณัฐ ชุดที่สามเป็นของพี่ใหม่ ชุดสุดท้ายก็เป็นของพี่ใหม่เหมือนกันค่ะ”

อนันดา : “ไหนบอกว่าเป็นความลับไง ก็นั่งฟังไหนความลับ นี่หมดแล้วนะ”

ณัฐ: “ที่บอกเพราะว่าณัฐอยากขอบคุณทุกคน ที่ทุ่มเทจริงๆ”

อนันดา : “ของผมก็หลายคน หลายชุดอยู่เหมือนกันนะครับ บางที่นี่ก็เอ๊ะ งานแฟชั่นโชว์รึเปล่า แต่ก็สนุกดีครับเพราะว่า ทุกคนก็มาช่วยกันทุกอย่างเลยครับ ทั้งฉาก ทั้งจัดงาน ทั้งเสื้อผ้า แต่งหน้าทำผม ก็เป็นทีมงาน เป็นครอบครัวของเราที่มาช่วย อย่างนี้ ไฟ อะไรอย่างนี้พี่ดมเขาก็เอามาให้เอง ทีมงานเขามาเซ็ตให้เมื่อเช้า ผมเดินมาเห็นผมยังตกใจเลยว่าไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ ตอนแรกเราวุ่นอยู่กับตัวงานหลัก

พี่เขาเอามาให้เอง เมื่อเช้าผมเดินมาเห็นก็งง ก็ตกใจเลยว่าทำไมต้องขนาดนี้ก็ได้ เพราะตอนแรกเราวุ่นอยู่กับตัวงานหลักไง ก็บอกไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวเอาโซฟาที่โรงแรมนี่แหละแค่นั้นก็พอ เดินมาเมื่อเช้ากล้อง ไฟ เขาก็หิ้วมาเองเลย รู้สึกปลื้มมากที่ทุกคนที่เรารู้จักเป็นครอบครัวของเรา ครอบครัวการทำงาน ทุกคนเข้ามาซัปพอร์ต”

จุกเพราะตื้นตัน ไม่เคยคิดว่าจะมีงานแบบนี้
อนันดา “เนี่ยๆ อย่าชวนดรามาสิ (หัวเราะ) คือเอาจริงๆ ในมุมของผมไม่เคยคิดว่าจะมีงานแบบนี้อยู่แล้ว ครอบครัวของผมไม่เคยคุยเรื่องพวกนี้ ตัวผมเองที่เรารู้จักกันมาหลายปี เราคุยกันมารู้จักผมตั้งแต่เด็ก เคยได้ยินแต่ว่าเรื่องพวกนี้คงไม่มีหรอก แล้วระหว่างทางก็เจอคนนี้ แล้วมันก็เปลี่ยน ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะมีวันนี้พอทักมามันก็เลยอาจจะรู้สึกว่ามีความจุกอยู่ในคอหอย มีความตื้นตันใจ เอาจริงๆ ผมเองยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับใครเรื่องนี้ ไม่มีโอกาสที่จะตอบคำถามพวกนี้ (เป็นความตื้นตันใจ?) ประมาณนั้น”

ใจตรงกันไม่คิดว่าจะแต่งงาน แต่อยากมีโมเมนต์ที่อยู่ในความทรงจำ
อนันดา “เป็นคำถามที่เขาถามผมหลายครั้งเหมือนกัน ก็คงต้องนั่งคุยกันเป็นชั่วโมงๆ ผมก็พยายามหาสาเหตุว่ามันคืออะไร แต่มันคือความรู้สึกว่ามันใช่ ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยมีความรู้สึกนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว ความรัก แต่ความรู้สึกนั้นมันแค่รู้สึกว่ามันใช่ อาจจะนิยามสาเหตุไม่ได้ แต่ว่าเรารู้ของเราว่า มันใช่ และเรารู้ของเราว่ามันใช่และถูกต้องเสมอกับชีวิตเรา”

ณัฐ : “ตั้งแต่แรกที่คบกับพี่เขา โอเคแรกๆ มีการมีการปรับตัวกันบ้าง แต่พอคบกันมาสักพักก็รู้สึกว่าคบคนนี้แล้วรู้สึกดี สบายใจ แม้จะไม่หวือหวาเป็นความรู้สึกว่า อยู่กับคนนี้ไม่อึดอัดเลย ทุกวันที่ตื่นมาไม่มีปัญหา ไม่มีเรื่องกังวล ไม่มีเรื่องปวดหัว เขาคือกำลังใจทุกๆ วัน ไม่ได้น้ำเน่านะ เวลาไปทำงานเขาพร้อมซัปพอร์ตจริงๆ มีปัญหาเขาก็ช่วยคิด ช่วยแก้มาตลอด หันไปก็มีเพื่อนคู่คิดที่ดี มีกำลังใจที่ดี สบายใจ มีแต่สิ่งดี

ณัฐก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมีวันนี้ ไม่ได้คิดว่าอยากจะแต่งงาน ไม่คิดเลยดีกว่า แต่ก็แค่รู้สึกว่าอยากอยู่กับคนนี้ก็แค่นั้น และงานที่เกิดขึ้นมาเราก็ไม่ได้เรียกว่างานแต่งงาน แค่อยากให้ทุกคนรับรู้ว่า เราอยากจะอยู่ด้วยกัน และอยากจัดฉลองเป็นดินเนอร์ขึ้นมารวมคนที่เรารักและรักเรา มากินข้าวด้วยกัน อยากมีอาหารอร่อยๆ ให้เขากิน อยากจะเปิดเพลงเพราะๆ ให้เขาฟัง และอยากมีโมเมนต์ที่น่ารักอยู่ในความทรงจำของเราสองคนด้วย ตอนแรกไม่อยากให้งานใหญ่ ที่มันเริ่มใหญ่เพราะว่าเรารักความสมบูรณ์แบบด้วย อย่างนี้สวย อย่างนั้นสวย ก็ตามน้ำมาเรื่อยๆ มากกว่า”

อนันดา : “มันเริ่มจากโควิด เราสองคนไปอาศัยอยู่ต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่ กรุงเทพฯ แดงเข้ม เราก็พยายามหลีกเลี่ยงกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตตามเกาะนั้นเกาะนี้ ก็คุยกันว่าจะมีวันนี้ เราก็จัดเล็กๆ ที่ทะเลดีกว่าไหม ทางแม่ๆ ครอบครัวก็บอกว่า ดีนะลูกน่ารักดี แต่พอเขายกเลิกโควิด ก็มาคิดว่าอาชีพการงานเราก็อยู่กรุงเทพฯ งั้นเรามาจัดที่กรุงเทพฯ ดีกว่าไหม แล้วก็เริ่มจากไปดูร้านเล็กๆ ริมน้ำ 100 กว่าคน เป็นคอนเซ็ปต์เดิมริมทะเล แล้วก็เพิ่มมาเป็น 150 ทีนี้ร้านก็เล็กเกินไป ก็เปลี่ยนร้านไปเรื่อยๆ จนมาถึงตรงนี้ ซึ่งทีแรกเขาให้เราไม่เกิน 200 - 250 โชคดีผมรู้จักครอบครัวที่เป็นเจ้าของที่นี่ ก็เกลี้ยกล่อมไปเรื่อยๆ จนกลายเป็น 300 จนมาถึง 400 คน จนคนที่จัดงานให้เราเริ่มกริ้วแล้ว แม่ก็เริ่มไม่โอเคแล้ว ห้ามเกินเด็ดขาด ถ้าเกินนี่ตาย ฉันไม่รู้จะยัดไว้ไหนแล้ว (หัวเราะ)

เรือนหอย่านสาทร ยังสร้างไม่เสร็จ
อนันดา : “ทำอยู่ แถวๆ นี้ สาทร คือจริงๆ อันนี้ไม่ได้เป็นตามแพลน ผมคุยกับเขาว่ามีเงื่อนไขอยู่ 2 อย่างสำหรับวันนี้ ก็คือ กำหนดการของผมคือ 40 นะ แล้วก็ขอมีบ้าน โอเค 40 มาถึงแล้ว (หัวเราะ) แต่บ้านยังไม่เสร็จ ก็ตามสไตล์สร้างไปเรื่อยๆ น่าจะเสร็จสิ้นปี”

ณัฐ : “จริงๆ กำหนดการใกล้ๆ กัน ณัฐก็บอกพี่เขาว่า ถ้าจะมีวันนี้จริงๆ อยากจะเลย 31 มาก่อน แล้วเผอิญเราอายุต่างกัน 9 ปี มันก็เลยเป็นแก็ปที่ค่อนข้างใกล้กัน แต่จริงๆ ก็ไม่ได้แน่นอนว่าเป็นปีนี้หรืออะไร มันก็ด้วยความพร้อมหลายๆ อย่าง ก็ได้วันมา ณัฐแอบเป็นสายมู (อนันดาบอกว่าเป็นมูตัวแม่เลย?) หลวงปู่บอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันดี ก็เป็นการเริ่มต้นของสองคนที่ดี พิธีการพรุ่งนี้มีพิธีสงฆ์ค่ะ พรุ่งนี้ที่ได้เกริ่นไว้ว่ามีชุดไทยก็จะไปเข้าเฝ้าพระสังฆราช เพราะที่บ้านณัฐเป็นคนพุทธ เราไม่มีเรื่องรดน้ำ จะเป็นการฉลองและไปขอพรจากพระสังฆราชเป็นมงคลของเรา 2 คน”

อนันดา : “แล้วก็มีพิธีเล็กๆ ตอนเช้าเป็นการขอขมาพ่อแม่ และก็แลกดอกไม้กัน”

ณัฐ : ส่วนฤกษ์ เวลา 09.19 น. เข้าวัด”

อนันดา : “มีอยู่แล้ว คนนี้เขามีอยู่แล้ว ต้องเป็นนาทีเลย ก้าวขาเข้าวัดตอนกี่โมง”

ปาร์ตี้ที่กระบี่ ไม่ต้องดูฤกษ์ เพื่อความสนุกล้วนๆ
ณัฐ : “ใช่ค่ะ ที่กระบี่ไม่ได้ดูวันเลย หลวงปู่ให้เวลามาว่าขอก้าวเข้าวัดเวลานี้ แล้วที่เหลือก็แล้วแต่เราเลย ตามซีเคว้นงานทั่วไป”

อนันดา : “กระบี่คือสนุกล้วนๆ อันนั้นคือเพื่อนเราส่วนตัว (หัวเราะ)

ฮันนีมูนที่ไหน?
อนันดา : “ยังไม่ได้คิดเลย ถามว่าทุกวันคือวันฮันนีมูนไหม ก็ดีนะ (ยิ้ม) ถ้าอย่างนี้เป็นข้ออ้างไม่ต้องพาไปเที่ยวไหนแล้ว”

ณัฐ : “บอกว่าจะพาแม่ไปกาลาปาโกสไง”

อนันดา : “ก็มีคุยกันเป็นร้อยที่ครับ เรามีลิสต์ที่ทำออกมาว่าแต่ละที่ที่เราอยากไปกัน หลังจากนี้มีไปญี่ปุ่น แต่อันนี้เป็นทริปที่แพลนไว้นานแล้ว แต่หลังจากนั้นผมต้องกลับมาทำงานเคลียร์หนี้ก่อน (หัวเราะ) เล่นหนังอีกประมาณ 2 เรื่อง พอหลุดช่วงนั้นค่อยหาเวลาไป ผมเองก็สัญญาว่าผมจะพักงานไว้สักช่วงหนึ่ง ไปเที่ยวกันแบบเที่ยวจริงๆ ที่ผมอยากไปจริงๆ อาร์เจนติน่า บัวโนสไอเรส แต่มันไกลเราเลยคุยกันว่ามันต้องมีเวลาเป็นเดือน”

เผยครอบครัวยังแซวแต่งจริงเหรอ จดทะเบียนเป็นเรื่องกม.แค่อยากอยู่ด้วยกัน มีพาร์ตเนอร์ร่วมทุกข์ร่วมสุข
อนันดา : “เอาจริงๆ เมื่อวานก็เป็นครั้งแรกที่ผมมีครอบครัวจากออสเตรเลียมา พ่อก็มากินข้าวกับผม เขาก็มีความแบบ จริงเหรอ (หัวเราะ) เขาก็ยังแซวอยู่ว่า ยังจำได้เลยนะ พูดมาตลอดว่าจะไม่มีวันนี้ เขาก็พูดว่าก็ดีแล้วที่รู้จักการปรับเปลี่ยนตัวเอง เพราะเขาเชื่อว่า พอเราโตขึ้นเรื่อยๆ เราต้องยอมรับการปรับเปลี่ยน เรื่องครอบครัวเรื่องลูกก็ให้เปิดใจไว้ เรื่องจดทะเบียน จริงๆ ไม่ได้ซีเรียส แต่ว่าอย่างน้อยๆ ถ้าสมมติเกิดมีลูกขึ้นมา มันมีเรื่องของกฎหมายก็จำเป็น ก็ควรจะต้องจด”

ณัฐ : “อย่างที่ณัฐบอกว่า อย่างวันนี้ มันก็ไม่ได้เป็นวันที่เราแพลนมา แต่มันก็เกิดขึ้น รู้สึกว่าทุกอย่างตอนนี้มันเป็นไอเดีย มันไม่ได้เป็นเรื่องซีเรียส เรื่องที่ซีเรียสคือ เรื่องที่เราอยากอยู่ด้วยกัน ส่วนเรื่องอื่นมันเป็นเรื่องภายนอกเพราะว่าณัฐบอกเขาตลอดว่าอยากมีพาร์ตเนอร์ในชีวิต ที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุข หันไปณัฐก็จะเจอเขา นี่คือคนที่อยู่ข้างกายณัฐ เรื่องจดทะเบียนมันเป็นแค่เรื่องตามกฎหมาย”
อนันดา : “ใช่ มันคนละเรื่องกับความรักอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้มองข้าม ถึงเวลาเราก็ต้องไปจัดการตามความเหมาะสมอยู่แล้ว

ถามถึงแหวนวงเดียวกับที่ขอแต่งงานรีเปล่า?
ณัฐ : “ใช่ค่ะ (โชว์แหวน)”

ร่ำไห้แอบใส่แหวนคุณยายไว้ระลึกมีวันนี้ได้เพราะใคร
ณัฐ : “ในมืออาจจะเห็น 2 วง คือคุณยายเลี้ยงณัฐมาตั้งแต่เด็ก (ร้องไห้) ณัฐมีหลายๆ อย่างในชีวิตได้ก็เพราะคุณยาย แหวนวงนี้เป็นสิ่งที่คุณยายเตรียมไว้ให้ณัฐ ณัฐใส่เป็นที่ระลึกเฉยๆ วันนี้ท่านไม่อยู่แล้ว วันนี้คุณแม่ทั้ง 2 ท่านก็มาให้กำลังใจ ณัฐสนิทกับครอบครัวมาก ก็ไม่ลืมว่าณัฐมีทุกวันนี้ได้เพราะใคร ก็อยากเป็นที่ระลึกว่าคุณยายก็อยู่กับณัฐตรงนี้ ก็เลยแอบใส่มาด้วย (ยิ้มทั้งน้ำตา)”

อนันดา : “เอาจริงๆ ผมไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เรื่องแหวน เรื่องงานแต่งงาน ไม่เข้าใจเรื่องเพชร เครื่องประดับ เลยปรึกษาครอบครัวแล้วก็คุยกับณัฐว่าอยากให้ใส่อะไรที่เขาใส่ได้ทุกวันเป็นแฟชั่นหน่อย แล้วเราก็นึกถึงบุคลิกเขา ที่เป็นกันเอง แล้วถ้าจะเป็นเพชรแบบที่เราเห็น วาวๆ เม็ดใหญ่ๆ กลมๆ ผมก็นึกไม่ออก เขาจะใส่ได้ทุกวันหรือเปล่าก็เลยคุยกัน และณัฐบอกว่าจริงๆ ชอบแบบเป็นสี เราก็แจ็กพอต (ตบมือ) มันต้องถูกแน่นอนไปคุยกับแม่ให้หาให้หน่อย ซึ่งมันก็ยากมาก เขาชอบสีเขียวกับสีชมพู เราก็ปรึกษากับครอบครัวตลอด เพราะเขามีแบล็กกราวด์เป็นจิวเวลรี่ ให้ช่วยหาให้หน่อย ไซส์ประมาณนี้ เพราะเราไม่เคยรู้ว่ามันหายาก และไม่เคยรู้ว่าราคามันเป็นอย่างไร (หัวเราะ) ก็หาจนได้ เลยได้เป็นเพชรสีเขียว เรียกว่าคามิลเลี่ยนไดม่อน เพราะว่ามันเปลี่ยนสีได้ ถ้าอยู่ในที่มืดมันจะเขียวขึ้น ถ้าโดนแดดจะเหลือง”

ณัฐ : “ขนาด 3 กะรัตครึ่ง วงสีเขียวคือของพี่เขา อีกวงเป็นของคุณยาย ส่วนแหวนที่ให้เขาเป็นแหวนที่ณัฐทำให้เป็นการแกะสลักทองเป็นลายแล้วมีชื่ออยู่ข้างใน”

อนันดา : “ก็หัดใส่อยู่ เราขี้กังวล เรากลัวหาย”

ณัฐ : “ทำไว้ให้เขาหลายวงเลย กลัวว่าจะหายจะได้ไม่ต้องงอน ทำไว้ 3 วง มีเป็นคล้ายกันอีกวงแต่เล็กกว่า และก็มีแบบอื่นด้วย”

มาถึงจุดนี้เพราะความรัก เคียงข้างทั้งสุขและทุกข์
อนันดา : “จริงๆ แค่อยากจะบอก ณัฐรู้อยู่แล้ว เราอยู่ด้วยกัน เขาก็รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไร อยากแชร์เฉยๆ ว่าทั้งนี้คือความรักแหละครับ นี่คือสิ่งที่เราอยากจะแชร์กับทุกคน ไม่ได้จะมาพูดถึงเรื่องพิธีการ เรื่องความใหญ่หรืออะไร นั่นไม่ใช่ประเด็น อันนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทางเฉยๆ เหตุผลหลักที่เรามาถึงทุกวันนี้ก็คือความรักและก็อยากจะแชร์ตรงนี้ให้กับทุกคน อย่าให้ผมพูดเยอะเลยเดี๋ยวจะไม่มีอะไรไปพูดในวันงาน”

ณัฐ : “ก็เหมือนกันค่ะ ณัฐว่าณัฐพูดไปหมดแล้ว ก็เช่นกัน ก็เป็นจุดเริ่มต้นค่ะ อย่างที่บอกว่าเราอยากอยู่ด้วยกัน หลังจากนี้จะเกิดอุปสรรคอะไรก็ให้สัญญากับเขาไปแล้วว่าจะอยู่เคียงข้างเขาในยามสุขและทุกข์”

































กำลังโหลดความคิดเห็น