ครั้งแรกของจังหวัดสุโขทัย กับการประกวดเวทีอันทรงเกียรติ “นางสาวไทย สุโขทัย” (Miss Thailand Sukhothai) ที่พร้อมจับมือกับเหล่าสาวงาม มาร่วมประกวดเฟ้นหาสาวงามเพียงหนึ่งเดียวของจังหวัดสุโขทัย ที่จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “เพชรน้ำงามแห่งรุ่งอรุณ” เพื่อร่วมประกวด และชิงมงกุฎบนเวทีอันทรงเกียรติ ระดับประเทศ ในการประกวด “นางสาวไทย” ประจำปี 2566 ที่จะรวมเหล่าสาวงามประจำจังหวัดทั่วประเทศไทย มาคัดเลือกเพื่อชิงมงกุฎ “นางสาวไทย” คนที่ 54 ถือว่าเป็นปีแรก ที่กองประกวดนางสาวไทยได้มีการให้จัดงานการประกวดประจำแต่ละจังหวัด จากความร่วมมือระหว่างผู้ถือลิขสิทธิ์ในการจัดการประกวดนางสาวไทยแต่ละจังหวัด และที่สำคัญที่สุดในปีนี้ ผู้ที่ได้รับตำแหน่งนางสาวไทย คนที่ 54 จะได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของประเทศไทย ไปร่วมประกวด มิสเวิลด์ 2023 (Miss World 2023) โดยจังหวัดสุโขทัยได้เริ่มดำเนินการเปิดรับสมัครสรรหาสาวงามที่สนใจเข้าร่วมการประกวด “นางสาวไทยสุโขทัย” (Miss Thailand Sukhothai) ที่จัดขึ้นในวันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
สำหรับการจัดงานประกวดนางสาวไทยสุโขทัย ประจำปี 2566 ยังได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. นำโดย พันเอก นาวิน ปรีชาพณิชยกุล ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 4 (อพท. 4) เปิดเผยว่า “อพท. ตั้งใจจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกมิติ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวโดยชุมชนซึ่งจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดสุโขทัย ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับประเทศ ภายใต้กิจกรรม "การประกวดนางสาวไทย สุโขทัย" ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยบทบาทนางสาวไทย คือการเป็นตัวแทนทูตวัฒนธรรมการท่องเที่ยวระดับจังหวัด ระดับภูมิภาคสู่สายตาโลกในการประกวดเวทีสาวงามระดับประเทศ (Miss Thailand) และระดับ โลก (Miss World) การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการค้นหาสาวงามแห่งทูตวัฒนธรรมด้านการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สุโขทัยเมืองสร้างสรรค์จากองค์การยูเนสโก (ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน) และสร้างโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดสุโขทัยและการท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดสุโขทัย”
ด้านนายแพทย์กวิน ก้านแก้ว ผู้อำนวยการกองประกวดนางสาวไทยสุโขทัย และ นายนพรุตน์ ไกรแก้วนวกาญจน์ ผู้จัดการกองประกวดนางสาวไทยสุโขทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดงานปีนี้เกิดขึ้นด้วยแรงผลักดันที่อยากจะยกระดับการประกวดนางงามของจังหวัดสุโขทัยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าการประกวดระดับประเทศ และถือว่าเป็นปีแรกที่ทางคุณปิยาภรณ์ แสนโกศิก กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด ได้มอบลิขสิทธิ์การจัดการประกวดหาสาวงามจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดมิสเวิลด์ 2023 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และประชาสัมพันธ์ผลงานศิลปวัฒนธรรมของชุมชนต่างๆในจังหวัดสุโขทัยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และเราเชื่อมั่นว่าสาวงามของจังหวัดสุโขทัยมีความสวย และความสามารถไม่แพ้จังหวัดอื่นๆแน่นอน”
ส่วนแผนกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในเวทีการประกวด นางสาวไทย สุโขทัย (Miss Thailand Sukhothai) จะเน้น การเชิดชูการอนุรักษ์ เอกลักษณ์ วัฒนธรรมของจังหวัดสุโขทัย มาอยู่รวมบนเวที ซึ่งไฮไลต์ของการประกวด แฟน ๆ นางสาวไทยสุโขทัย จะได้เห็นผู้เข้าประกวดใส่ชุดผ้าพื้นเมืองสุโขทัย (ผ้าซิ่นตีนจก)สุดประณีต จากร้านสาธรพิพิธภัณฑ์ผ้าทองคำ, ศรา ผ้าทอมือ, เริงผ้าพื้นเมือง, ณาณาศิลป์ ผ้าพื้นเมือง, อัญชัญผ้าโบราณ, สุนทรี ผ้าไทย, ผ้าลายอัตลักษณ์ จังหวัดสุโขทัย จากคุณธชาพัฒน์ มาขวา พร้อมด้วยเครื่องประดับทองโบราณ จากบ้านทองสมสมัย และถ่ายทำ VTR ประชาสัมพันธ์ของดี และแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสุโขทัย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมตการท่องเที่ยวประจำจังหวัดอีกด้วย และถือว่าเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทย และชาวต่างชาติ มาร่วมยลโฉมหน้าเหล่าผู้เข้าประกวดนางสาวไทย สุโขทัย เป็นครั้งแรก
โดยกำหนดการในวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2566 และจะเข้าสู่การแข่งขันกันในรูปแบบต่าง ๆ จากนั้น ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 สาวงามจะอวดโฉมในรอบชุดว่ายน้ำ(ในห้องดำ) ณ โรงแรมเอนกาย บูทีค โฮเทล และชุดผ้าพื้นเมืองสุโขทัย(ผ้าซิ่นตีนจก) รวมถึงการประชันความสามารถในด้านต่าง ๆ จากนั้นจะเป็นการประกาศผลผู้ที่คว้าตำแหน่งนางสาวไทยสุโขทัยอย่างเป็นทางการ ซึ่งในวันดังกล่าวมีคุณ“ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ผู้บริหารทีพีเอ็นโกลบอล จำกัด พร้อมด้วย “นิต้า มานิตา” เจ้าของมงกุฎนางสาวไทยประจำปี 2565 ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงาน เพื่อเป็นสักขีพยานในค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์ของจังหวัดสุโขทัยอีกด้วย และในวันรุ่งขึ้น 19 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้ดำรงตำแหน่ง นางสาวไทยสุโขทัย จะร่วมใส่บาตรรับรุ่งอรุณกับท่าน “สุชาติ ทีคะสุข” ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการขอพรจากพ่อเมืองสุโขทัย
"เพชรแห่งรุ่งอรุณ” หรือหญิงงามเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลชนะการประกวด “นางสาวไทย สุโขทัย” (Miss Thailand Sukhothai) จะได้รับรางวัลมงกุฎเกียรติยศประจำตำแหน่ง และเงินสดมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท และผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น “นางสาวไทย สุโขทัย” (Miss Thailand Sukhothai) จะต้องมีหน้าที่เป็น “ทูตวัฒนธรรม” เผยแพร่การท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดสุโขทัย เผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ควรค่าแห่งการอนุรักษ์มรดกอันงดงาม รวมไปถึงการนำเสนอของดี แหล่งท่องเที่ยว และประเพณีอันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมประจำจังหวัดสุโขทัย ให้ปรากฏแก่สายตาของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในจังหวัดสุโขทัย และพร้อมพัฒนาศักยภาพ เตรียมความพร้อม ในการประกวดบนเวทีการประกวดนางสาวไทย 2566 เพื่อช่วงชิงมงกุฎประทับตราวชิราวุธ อันทรงเกียรติแห่งปีต่อไป…
