“สโคป หลังสวน” (SCOPE Langsuan) โครงการที่พักอาศัยระดับเวิลด์คลาส บนทำเล CBD ที่แพงที่สุดและดีที่สุดในไทยย่านหลังสวน ซึ่ง บริษัท สโคป จำกัด ส่งเข้ามเติมเต็มและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยกลุ่มอินเตอร์ พรีเมี่ยม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Life at its Finest” พร้อมส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สวยงามอย่างเหนือระดับแล้ววันนี้ เผยทยอยโอนแล้วตั้งแต่ปลายธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
“สโคป หลังสวน” ปักหมุดทำเลทอง บนที่ดินที่มีราคาแพงสุดของประเทศ หลังสวน ถือเป็น Prime Area และสุดยอดปรารถนาทั้งของธุรกิจพัฒนาที่ดินและดีมานด์ (อุปสงค์) จากตลาด ทั้งนี้ จากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม “สโคป หลังสวน” ของ บริษัท สโคป จำกัด จึงถือเป็นโครงการที่น่าสนใจและต้องจับตา
ทั้งนี้ นาย ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด เปิดเผยว่า
“สโคป หลังสวน” เป็นโครงการคอนโดมิเนียม “ไฮ ไรซ์” (High Rise) สูง 34 ชั้น จำนวน 133 ยูนิต บนทำเลทองอย่างย่านหลังสวน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า “หลังสวน” เป็นย่านที่มีราคาที่ดินที่แพงที่สุดในประเทศไทย และถือเป็นทำเลที่มีระดับและเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ อยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งที่ดีที่สุด แวดล้อมไปด้วยสถานทูต สถานศึกษาชั้นนำ โรงพยาบาล และโรงแรมระดับ 5-6 ดาว ที่สำคัญ ปัจจุบันโครงการ “สโคป หลังสวน” ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมทยอยโอนห้องให้แก่ผู้อยู่อาศัยประมาณปลายเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา อีกทั้งพร้อมส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สวยงามอย่างเหนือระดับแล้ววันนี้”
3 ความโดดเด่น “สโคป หลังสวน”
ด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างที่พักอาศัยคุณภาพมาตรฐานระดับพรีเมียม ในฐานะผู้บริหารมากประสบการณ์ นายยงยุทธ จึงให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การเลือกทำเลที่ตั้งยอดเยี่ยม, การออกแบบที่เป็นเลิศระดับโลก และการบริการที่เหนือระดับ
“โครงการ “สโคป หลังสวน” ตั้งอยู่บน Prime Area ที่ดีที่สุด ทั้งยังเป็นแบบ Freehold นั่นคือ ผู้ซื้อจะได้รับเอกสารสิทธิ์ ในขณะที่โครงการหลายแห่งในย่านนี้เป็นแบบ Leasehold หรือแบบสัญญาเช่าระยะยาว ขณะที่ “การออกแบบ” ของโครงการได้ยกระดับการออกแบบให้สง่างามเหนือกาลเวลา ด้วยการใช้ดีไซเนอร์ระดับโลกเป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบ อาทิ Kohn Pedersen Fox บริษัทสถาปนิกจากกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาให้เป็นที่ปรึกษาด้านสถาปัตยกรรมหลัก, Thomas Juul-Hansen อินทีเรียร์ ดีไซเนอร์ (มัณฑนากร) ระดับแนวหน้าของโลกมาเป็นผู้รังสรรค์การตกแต่งภายใน ทั้งนี้ โครงการฯ ได้เน้นใช้วัสดุที่มีคุณภาพระดับลักซ์ชัวรี และออกแบบพื้นที่ให้ลงตัวทุกตารางนิ้ว ทุกยูนิตมีความสูงจากพื้นถึงเพดานถึง 3.5 เมตร ด้วยการใช้กระจกทั้งบานตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เพื่อสามารถมองเห็นวิวกรุงเทพฯ และรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่”
นายยงยุทธกล่าวต่อไปถึงการบริการที่เหนือระดับ อันเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นของโครงการว่า
“เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ อาทิ บริการรักษาความปลอดภัยและ Valet Parking 24 ชั่วโมง, บริการแม่บ้านทำความสะอาดสัปดาห์ละ 3 ครั้งในทุกยูนิต, Private Theatre ที่มีเครื่องเสียงมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท, ห้องดนตรีที่มีเครื่องดนตรีเกือบทุกประเภท สำหรับเด็กๆ ในการฝึกซ้อมเล่นดนตรี รวมทั้ง Private Storage หรือห้องเก็บของส่วนบุคคล และ Garment Room ซึ่งเป็นห้องเก็บเสื้อหนาวที่ตอบโจทย์ผู้พักอาศัย, ห้องเก็บไวน์ และเพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟด้วย Private Dining บนชั้น 34 เพื่อให้ผู้พักอาศัยในโครงการสามารถมาใช้บริการในโอกาสพิเศษได้ด้วย”
ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มอินเตอร์พรีเมี่ยม นายยงยุทธกล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายของโครงการ “สโคป หลังสวน” ว่า
“เนื่องจากบริษัทฯ มุ่งสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยภายใต้คอนเซ็ปต์ Life at its Finest สำหรับโครงการฯ นี้ เรามุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในเซ็กเม้นท์ “อินเตอร์เนขั่นแนล พรีเมี่ยม” (International Premium) ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรสนิยม ต้องการที่พักอาศัยที่ดูดีมีสไตล์ และเป็นกลุ่มที่มีโอกาสได้ออกไปท่องโลกกว้าง มีโอกาสได้พบเห็นที่อยู่อาศัยดี ๆ ทั่วโลก ดังนั้น กลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่มีความเฉพาะตัวสูง และมิใช่กลุ่มลูกค้าที่ตรงกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อื่นๆ เป็นกลุ่มที่ยังไม่มีใครทำ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่เราจะสามารถเข้าไปปักหมุดในเซ็กเม้นท์ได้ได้เป็นรายแรกๆ”
ทั้งนี้ ด้วยความเชี่ยวชาญ บวกกับความมุ่งมั่น ทุ่มเท พร้อมใส่ใจรายละเอียดในทุกตารางนิ้วของที่พักอาศัย “สโคป หลังสวน” จึงโดดเด่นทั้งคุณภาพ ทำเล การออกแบบ และการบริการ ซึ่งสามารถมั่นใจได้ว่า โครงการได้คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง
ร่วมสัมผัสความเหนือระดับกับโครงการที่พักอาศัยระดับเวิลด์คลาส “สโคป หลังสวน” ได้แล้ววันนี้ https://www.scopecollection.com IG: scopecollection Facebook: scopecollection หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 028 9788