xs
xsm
sm
md
lg

“ตุ๊ก ดวงตา” เปิดเคล็ดโกงแก่ในวัย 70 พร้อมเผยเทคนิคสลัดคาแรกเตอร์ฉบับตัวแม่ แต่ต้องพึ่งหลวงพ่อ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ตุ๊ก ดวงตา” ดีใจหวนคืนเล่นละครช่อง 7 ในรอบหลายปี เผยที่ผ่านมาไปเล่นช่องอื่น มีงานต่อเนื่องจนไม่ได้กลับมาช่อง 7 พร้อมบอกเคล็ดลับสวยเฟี้ยวในวัยใกล้ 70 ดูแลเรื่องอาหารการกิน หลับให้เพียงพอ กินอาหารเสริมตั้งแต่สาวๆ ไม่ปล่อยตัวอ้วน ลั่นอยากลดให้เหลือ 50 กิโล ส่วนบทดรามาไม่มีผล ได้เทคนิคจากหลวงพ่อ คัตปุ๊บตัดเลย สอนเด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่อยากเป็นโรคซึมเศร้าต้องฝึก อยากเหมือน “มี้ พิสมัย” ทำงานไปเรื่อยๆ

เป็นนักแสดงรุ่นแม่ที่คิวทองสุดๆ ล่าสุด “ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี” ล่าสุดหวนกลับมาร่วมงานกับช่อง 7 สี หลังทิ้งห่างไปนานหลายปี งานนี้ ตุ๊ก ดวงตา เผยว่าเป็นเพราะเล่นละครช่องอื่นแล้วมีงานต่อเนื่อง คิวก็เลยรันไปเรื่อยๆ แต่ก็ดีใจที่วันนี้ได้กลับมาทำงานกับช่อง 7 อีกครั้ง

“หลายปีเหมือนกันนะ วนเวียนๆ ค่ะ แต่เมื่อก่อนอยู่ช่อง 7 ก็ยาวเลย ตั้งแต่ 4 ทุ่มสแควร์ แล้วก็เล่นละครอยู่ช่อง 7 พอไปช่อง 3 ก็ไม่ได้กลับมาช่อง 7 เลย เพราะมันมีงานต่อเนื่อง ไปอยู่ตรงไหนมันก็มีงานต่อเนื่องตรงนั้น คิวมันก็ยาวไป แต่ก็ดีใจได้กลับมา เพราะว่าแฟนๆ คลับช่อง 7 ก็นึกว่าเราเลิกเล่นละครไปแล้ว เพราะเราไม่มีละครออนแอร์ช่อง 7 บางคนก็เขียนมาถามว่าทำไมเลิกเล่นละคร เราก็บอกว่าไม่ได้เลิกเลย แค่ไปอยู่ช่องอื่น

หงส์ในกรงกาบทหนักเหมือนกัน กบ (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) เขาก็บอกว่าทางช่อง 7 บอกเอาดวงตามาเล่นต้องใช้เขาให้คุ้ม (หัวเราะ) เขาก็ใช้คุ้มจริงๆ พูดเยอะ แอ็กติ้งเยอะ ร้องไห้เยอะ แอ็กทีฟมากเรื่องนี้ คือส่วนใหญ่เราก็จะเล่นเป็นแบบคนแก่มีฤทธิ์น่ะ รังแกเขา ทำร้ายเขา (หัวเราะ) แต่เรื่องนี้บทมันก็คล้ายๆ เรื่องอื่นทั่วๆ ไปที่เป็นตัวก่อเหตุ เป็นตัวต้นเรื่อง ถ้าไม่มีเราก็ไม่มีเรื่อง แต่ที่ต้องร้องไห้เยอะ ก็เพราะมันมีเรื่องของดรามา กับที่ต้องร้องแสดงละครตบตาคนอื่น แกล้งดรามาก็มี ดรามาจริงๆ ก็มี (หัวเราะ)

การทำงานเรื่องนี้ก็สะดวกสบาย ไม่มีอะไรยากสำหรับเรา เพราะเราเล่นมาเยอะแล้ว ประสบการณ์ในการเล่นละครก็เยอะนะ มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแต่บางทีเราก็จะกังวลบ้างว่าเราจะร้องไห้ได้ไหม แต่ก็ไม่เป็นไร ร้องได้ก็ได้ ร้องไม่ได้ก็ไม่ได้ ไม่เครียดแล้วกัน แต่ปรากฏว่าถึงเวลามันก็ได้เอง และบรรยากาศในกองก็สนุกสนาน กบเขาก็เป็นผู้จัดง่ายๆ มาก น่ารักมาก เป็นคนเฮฮา บรรยากาศในกองไม่ซีเรียสเลย”

เผยปีที่ผ่านมารับละครถึง 4 เรื่อง
“ปีที่แล้วรับเยอะ เพราะมันมีดวงใจเทวพรหมที่มี 5 เรื่อง แล้วก็มีเรื่องอื่นอีก ส่วนปีนี้ก็เล่นต่อเนื่องกันมา แต่ก็มีใกล้จะปิดกล้องแล้ว ก็จะมีละครที่ติดต่อมาใหม่อีกเรื่องนึง”

ขำๆ เป็นนักแสดงรุ่นแม่ที่คิวทองที่สุด บางเรื่องยังงง ตกลงเป็นนางเอกหรือเปล่า
“(หัวเราะ) เป็นเพราะว่าเราแยกส่วนได้ เพราะอย่างคิวนึง 3 วัน เราก็อาจจะให้สัก 2 เรื่อง อีกคิวนึง 4 วันเราก็อาจจะให้สัก 4 เรื่อง เราไม่ได้เป็นนางเอกไง นางเอกเขาคิวไหนก็ต้องคิวนั้น เพราะเขาเล่นเยอะไง แต่บางเรื่องแม่ก็เล่นเยอะพอกับนางเอกเลยนะ ก็ยังงงว่าตกลงฉันเป็นนางเอกหรือเปล่าเนี่ย (หัวเราะ)”

ดูแลสุขภาพ อยากมีแรงทำงาน
“ก็ต้องดูแล เพราะอยากมีแรงทำงานก็ต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรง เป็นคนชอบทำงาน เราก็จะดูแลเรื่องอาหารการกินนะ แล้วก็นอนหลับพักผ่อนให้มากๆ เราเป็นคนไม่ออกกำลังกายนะ ขี้เกียจ เพราะฉะนั้นการที่เราทำตัวแอ็กทีฟมันก็เหมือนเราได้ออกกำลังไปในตัว แต่เราจะดูแลเรื่องอาหารการกิน เรื่องการนอนหลับพักผ่อน และกินอาหารเสริม นี่ก็กินมาตั้งแต่สาวๆ ขอบอกว่าจำเป็นนะ มันจะมาเห็นผลตอนคุณอายุเยอะนี่แหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารเสริมเกี่ยวกับเข่า เกี่ยวกับข้อ 
 
ทุกวันนี้แม่ยังไม่มีปัญหาเรื่องเข่า แต่เพื่อนรุ่นเดียวกันไปหมดแล้ว เพราะเรากินอาหารเสริมมาตั้งแต่อายุ 40 ต้นๆ กินหลายชนิดมาก บำรุงสมองเอย บำรุงข้อเข่าเอย พวกเสริมสร้างภูมิต้านทาน บำรุงสายตา ทุกวันนี้ไปตรวจตาหมอบอกว่ายังไม่เห็นต้อกระจกพี่ตุ๊กเลย คือสายตายาวตาวัย เราก็ถามหมอว่าขี้เกียจใส่แว่นแล้ว เปลี่ยนเลนส์เลยได้ไหม หมอบอกจะเปลี่ยนได้ยังไง พี่ตุ๊กยังไม่มีต้อเลย

ส่วนรูปร่างก็ดูแลเรื่องอาหารการกินค่ะ แล้วก็นอนหลับพักผ่อนให้พอ ผิวมันก็จะดีเองนะ รวมกับอาหารเสริมที่เรากินเข้าไป มันก็จะเข้าไปช่วยกัน เรื่องอาหารก็คือสมมติวันนี้เรากินอะไรที่มันหวานจัด มันจัด เค็มจัด อีก 6-7 วันเราก็ต้องไม่กินแบบนี้ คือหมายความว่าไม่อดอะไรเลย วันนี้กิน อีก 7 วันไม่กินแบบนี้ คือดูเรื่องปริมาณสัดส่วน มันช่วยได้

เรื่องน้ำหนักก็ซีเรียสนะ เพราะว่าไม่อยากอ้วน ตอนนี้หนัก 53 อยู่ กำลังอยากจะลดให้เหลือ 50 แต่ทุกคนบอกว่าตอนนี้ดีแล้ว กลัวผอมเกินไป ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะลองดู ถ้ามันลดได้ก็ลด ลดไม่ได้ก็อยู่เท่านี้” 
 
อายุใกล้ 70 แต่ยังแต่งตัวเฟี้ยว วัยรุ่นมาก เพราะไม่แต่งตัวตามวัย
“เป็นคนไม่แต่งตัวตามอายุ ตามวัย (ยิ้ม) เพราะวัยเรามันเยอะแล้วนะ ถ้าเผื่อเราแต่งตัวตามวัยนี่เราเป็นคนแก่เลยนะ เพราะใกล้จะ 70 แล้วไง ปีนี้อายุ 69 แต่คนจีนเขาไม่ให้พูดเลข 9 ใครถามก็จะบอกว่า 68 แต่จริงๆ คือ 69 ปีหน้าก็ 70 แล้ว ธรรมเนียมจีนเขาไม่ให้พูดเลข 9 เขาบอกมันไม่ดี นี่แหละถ้าเราแต่งตัวตามวัย เราก็ควรจะแต่งตัวอีกแบบนึงถูกไหม แต่ในเมื่อรูปร่างเรายังแต่งได้ก็แต่งไป ไม่ต้องสนใจ ใครจะว่ายังไง ตัวเราอยากแต่งก็แต่ง เราก็ไม่ได้แฟชั่นจ๋าเกินเหตุหรือว่าน่าเกลียด

นัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ก็มี แต่ส่วนใหญ่จะปาร์ตี้กลางวันนะ เพราะเพื่อนๆ ก็หูตาไม่ค่อยดีแล้ว ขับรถกลางคืนก็ไม่ค่อยไหวแล้ว (หัวเราะ) ส่วนมากก็กินข้าวกันนั่นแหละ แล้วก็ไปเที่ยวธรรมชาติ”

บทดรามาแรงๆ ไม่มีผลเพราะคัตปุ๊บก็ตัดได้เลย ไม่ติดไปกลับบ้าน
“ไม่มีผล เพราะเป็นคนที่ตัดได้ พอสั่งคัตปุ๊บเราก็ตัดเลย เราเลิกจำอันนั้นไปแล้ว แล้วก็ไปจำอันใหม่ที่จะเข้าฉากต่อไป คือต้องตัดให้ได้ เราจะไม่เอาอะไรกลับบ้านเลย พอกลับบ้านไปเราต้องไปเตรียมตัวเพื่อพรุ่งนี้อีก เทคนิคที่ดีคือจะต้องตัดให้ได้ สมมติเมื่อกี้เราร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรอยู่ พอเขาสั่งคัตกลับมาเราก็ทะลึ่งตึงตังได้เหมือนเดิม เราก็ลืมเมื่อกี้แล้ว 
 
อันนี้ได้เทคนิคมาจากหลวงพ่อด้วยนะ หลวงพ่อเคยบอกว่าอย่าเอาตัวเองเข้าไปอินขนาดนั้น สมมติหนูเข้าไปเล่นในฉากที่กำลังโกรธใครอยู่มากๆ แล้วร้องไห้ เศร้าโศก เกิดนาทีนั้นหนูเส้นเลือดแตก แล้วตายล่ะ หนูลงข้างล่างเลยนะ ไปนรกอบายภูมิเลยนะ เพราะหนูร้องไห้เศร้าโศกอยู่ หนูกำลังโกรธอยู่ ก็จะลงนรกเลย เพราะฉะนั้นเราทำหน้าที่ของเราก็ทำหน้าที่ให้ดี พอเขาสั่งคัตปุ๊บ แสดงว่าเราหมดหน้าที่ตรงนั้นแล้ว เราต้องกลับมาเป็นตัวเรา

เมื่อก่อนไม่ได้ตัดได้เอง แต่เพิ่งมาเป็นตอนไปวัด ไปได้เทคนิคจากหลวงพ่อ หลวงพ่อกล้วยเป็นคนสอน หลวงพ่อสอนว่าอย่าเอาจิตตัวเองเข้าไปอินขนาดนั้น ก็ 10 กว่าปีแล้วนะ แล้วหลังๆ เราเล่นละครดีขึ้นด้วย และบทที่เราได้ก็ดีกว่าเมื่อก่อน คือเมื่อก่อนอาจจะไม่หลุด แต่ก็ไม่เคยเอาอะไรกลับบ้านนะ เพราะเราจะต้องไปเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเราเอาอะไรกลับบ้าน เราคงแย่เหมือนกัน เพียงแต่หลุดจากฉากไปแล้วอาจจะยังมีเศร้าอยู่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว พอสั่งคัตปุ๊บตัดได้หมดเลย”

ฝากนักแสดงรุ่นใหม่ต้องฝึก
“ส่วนที่นักแสดงรุ่นใหม่ๆ เขาเป็นโรคซึมเศร้าเพราะตัดไม่ได้ จริงเหรอ ไม่ได้นะ ต้องฝึก ต้องไปหัดนั่งสมาธิบ้าง ทำตัวเองให้สงบๆ บ้าง”

อยากให้เหมือน “พิสมัย วิลัยศักดิ์” ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่แรง
“ก็ไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีแรง ดูมี้ (พิศมัย วิลัยศักดิ์) สิ อยากให้เป็นได้อย่างมี้ แต่ที่ไม่อยากเป็นอย่างมี้เลยก็คือผ่าหลายๆ อย่าง มี้ผ่าตัดเยอะมาก ขอไม่เป็นอย่างมี้ตรงนี้ แต่ขอให้เป็นคนแอ็กทีฟ เป็นคนทำงานมีประสิทธิภาพ มี้ 80 กว่าแล้วนะ มี้ยังทำงานอยู่เลย บทก็ยังโอเคอยู่เลย แม่เองก็อยู่วงการมา 40 กว่าปีแล้ว ก็อยู่ไปเรื่อยๆ (ยิ้ม)”







กำลังโหลดความคิดเห็น