“จิ๊บ คีตภัทร” ควง “ทนายตั้ม” ฟ้องคนกุข่าวเปิดประเด็นนางเอกซื้อกิน เว็บโป๊นำชื่อไปเรียกยอดวิว ลั่นแรงเกินไปมาก ตอนแรกอยากปล่อยผ่าน แต่ครอบครัวแฟนอยากให้ออกมาชี้แจง อัดถึงคนกุข่าวปิดแอ็กเคานต์หนี แต่ต้องได้รับผลกับสิ่งที่ทำ ทนายจี้คนเมนต์คนแชร์ลบหรือแก้ข่าวให้จิ๊บด้วย ก่อนถูกดำเนินคดี ย้ำจิ๊บไม่มีรอยสัก
กรณีที่ผู้ใช้ติ๊กต๊อกรายหนึ่ง ได้โพสต์อักษรย่อ ระบุ นางเอก จ. ช่องมากสี แอบไปซื้อกินหนุ่มนอกวงการ แต่ถูกผู้ชายแบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน และขู่นำคลิปไปขายเว็บโป๊ มีการคอมเมนต์พุ่งเป้าไปที่นางเอกดัง “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” จนเจ้าตัวออกมาชี้แจงผ่านอินสตาแกรมว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง พร้อมเอาผิดคนกุข่าว แต่ก็ยังถูกเว็บโป๊นำชื่อของของจิ๊บไปหากินหลอกคน
ล่าสุดวันนี้ (8 ก.พ.) จิ๊บ ได้ควง “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” แจ้งความยืนยันว่าไม่เป็นความจริง วอนทุกคนใช้วิจารณญาณ เสพข่าวอย่างมีสติ ส่วนคนที่โพสต์พุ่งเป้าทำให้คนเข้าใจผิด ถ้าไม่ลบหรือแก้ไข ก็ต้องดำเนินคดีกันต่อไป
ทนายตั้ม : “เคสนี้น้องจิ๊บมาปรึกษาผมตั้งแต่ก่อนผมเดินทางไปยุโรปว่ามีติ๊กต๊อกคนนึง อยู่ๆ ก็ไปเปิดประเด็นว่ามีดาราสาวคนนึงมีอะไรกับผู้ชาย แล้วถูกผู้ชายแบล็กเมล์ หลังจากนั้นก็มีคนชี้เป้า มาเป็นตัวย่ออะไรบ้าง ในที่สุดก็มาชัดเจนว่าเป็นน้องจิ๊บ ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง น้องจิ๊บก็ปรึกษาว่าจะทำยังไงดี ก็บอกว่าให้รอพี่กลับมาจากยุโรป เดี๋ยวมาดำเนินคดีกัน
วันนี้ก็มาดำเนินคดีกับคนที่เปิดประเด็นก่อน เพราะคนๆ นี้ เอายอดไลก์ ยอดแชร์ ให้คนติดตามเขาเยอะๆ แล้วก็คนที่มาคอมเมนต์ หรือคนมาชี้เป้าว่าเป็นน้องจิ๊บ และที่ร้ายที่สุดคือพวกเว็บโป๊ต่างๆ เอาภาพน้องจิ๊บไปขึ้นเป็นปก และบอกว่าเป็นคลิปน้องจิ๊บเพื่อเรียกคนเข้าไปแหละ พอน้องจิ๊บมาปรึกษา ผมก็เข้าไปดู มีคนจีนบ้าง เกาหลีบ้าง แต่ไม่ใช่น้องจิ๊บเลย มีอันนึงมีรอยสักอยู่ข้างหลัง ซึ่งน้องจิ๊บไม่มีรอยสักอยู่แล้ว เอามาหลอกคนให้เข้าไปดู แล้วตัวเองก็เอาไปทำเรื่องพนันออนไลน์ต่อ อย่างนี้เดี๋ยวมาแจ้งความกับกองปราบเรื่องพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แล้วหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
จริงๆ อยากฝากพี่ๆ นักข่าวนิดนึง ตอนที่มีคนชี้เป้าตัวย่อน้องจิ๊บแล้ว ปรากฏว่าหลายสำนักข่าวมาเปิดวาร์ปน้องว่าประวัติน้องคือยังไง ทำให้คนเข้าใจว่าหรือว่าเป็นน้องจิ๊บจริงๆ น้องก็ไม่ได้ต่อว่าผู้สื่อข่าวหรอก เข้าใจว่าทำตามหน้าที่ แต่วันนี้อยากให้ช่วยแก้ข่าวให้น้องหน่อย เพราะน้องก็ได้รับความเสียหายเยอะ ตอนเกิดเหตุน้องไม่ได้อยู่เมืองไทยด้วย ตอนที่มีคนมาอ้างว่าเป็นน้อง เพราะน้องอยู่อเมริกา”
จิ๊บ : “รู้สึกว่าข่าวแรงเกินไปมากๆ ค่ะ งงที่ว่าข่าวไม่มีมูลความจริงอยู่เลย แล้วทำไมข่าวไปไกลขนาดนั้น ตัวจิ๊บเองก็ไม่ได้อยู่เมืองไทย จิ๊บไปหาครอบครัว 3 เดือน ตอนแรกเราคิดว่าข่าวไม่จริงเดี๋ยวคงผ่านไป แต่หลังๆ เริ่มโยงแรงขึ้น ส่งผลถึงตัวจิ๊บ แฟน ครอบครัวแฟนจิ๊บ เขาก็อยากให้ออกมาชี้แจงว่ามันไม่ใช่ความจริง
ปกติถ้าไม่ใช่เรื่องจริงจะผ่านไป แต่อันนี้มันไม่หยุด เลยจำเป็นต้องชี้แจงและกลับมาดำเนินเรื่อง เพราะผลกระทบที่ได้รับมันเยอะมากๆ ถามว่าได้ทักคนปล่อยข่าวไหม ตอนนี้เขาปิดแอ็กเคานต์ไปแล้ว ตอนแรกมีคนส่งมาก่อน อักษรย่อเราก็ไม่ได้สนใจ เพราะไม่ใช่เรื่องจริงอยู่แล้ว แต่มันพอรุนแรงขึ้น คนไลน์มา ดีเอ็มมาเยอะมาก จนเราก็ต้องกลับมาเคลียร์ที่ประเทศไทยค่ะ
หนูอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมมันไปได้ไกลขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เป็นความจริงอะไรเลย อาจเป็นจังหวะที่นักข่าวเปิดวาร์ปหนู ลงข่าวหนูดีๆ แหละ แต่ว่าคนก็อาจเข้าใจว่าเป็นเราได้ จิ๊บว่าทุกวันนี้โลกโซเชียลข่าวปลอมเยอะ และข่าวมันไปไกลมาก อยากให้คนมีวิจารณญาณในการแชร์ข่าวหรือคอมเมนต์ที่ทำให้คนที่ได้รับผลกระทบเสียหาย เคสนี้อยากให้เป็นตัวอย่าง เพราะเราก็ดำเนินเรื่อง จะดูข่าวหรือแชร์ข่าวอะไรก็ให้ระวังกัน ส่วนคนแรกที่กุข่าวในติ๊กต๊อกก็ต้องดำเนินเรื่องกับเขา เขาต้องได้รับผลกับสิ่งที่เขาทำ”
ทนายตั้ม : “วันนี้ที่แจ้งข้อหา มีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กุเรื่องไม่เป็นความจริง หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ให้ตร.ประสานไปกับไอซีที ให้ปิดพวกที่เอาภาพคุณจิ๊บไปใช้หลอกลวงคนด้วย เพราะพวกนี้มันเว็บลามก อนาจารอยู่แล้ว ส่วนที่ปิดแอ็กเคานต์ไปแล้ว เดี๋ยวประสานกับตร.ว่าจะตามได้ไหม แต่เราได้ส่งหลักฐานเบื้องต้นไปกับทางตร.แล้ว เดี๋ยวต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ตร.ทำได้แค่ไหน
แต่ว่าสำหรับคนที่เคยไปคอมเมนต์หรือแชร์ข่าวแล้วยืนยันว่าเป็นคุณจิ๊บ วันนี้บอกเลยแล้วกันว่าช่วยลบออกและแก้ต่างให้คุณจิ๊บด้วยแล้วกัน เพราะจริงๆ คุณจิ๊บไม่ได้อยากดำเนินคดีหรอก แต่ที่ออกมาวันนี้เพราะคุณจิ๊บได้รับความเสียหายมาก ทั้งคนกุข่าวและคนคอมเมนต์เดี๋ยวก็ต้องดำเนินการ ถ้ายังไม่ยอมลบออก เรายังไปเห็นแล้วทำให้คนเข้าใจผิด วันนี้เราดำเนินคดีคนที่เป็นหลักๆ ในการไปแชร์ และพูดยืนยันว่าเป็นคุณจิ๊บ เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง อย่างนี้ต้องดำเนินคดี วันนี้คัดมา 4-5 ราย”
จิ๊บ : “ก็ยังงงอยู่กับเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง มันมาได้ไกลขนาดนี้ แต่อย่างที่บอกอยากให้ทุกคนมีวิจารณญาณในการเสพข่าว และนึกถึงผลกระทบคนที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ต้องมาเดือดร้อนกันอย่างนี้ ก็อยากให้ระวังกันนิดนึง ก็จะดำเนินการเต็มที่ค่ะ”
