xs
xsm
sm
md
lg

“ต้าวหยอง ระเบียบวาทะศิลป์” ยันไม่เคยมีอภิสิทธิ์เหนือใคร โต้ได้มาลัยคืนละล้าน ภูมิใจสร้างบ้าน 2 ล้านเงินสด!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ต้าวหยอง ระเบียบวาทะศิลป์” โต้ประเด็นมีอภิสิทธิ์เหนือคนในวง บอกกำลังสร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่ วางงบ 2 ล้านจ่ายเงินสด เผยเคยได้มาลัยหลักล้านแค่ครั้งเดียวตอนวันเกิด ที่เหลือหลักพันหลักหมื่น วอนขอคนเมาให้มีสติหน่อย อย่าบุกจู่โจมหลังเวที แต่ยืนยันยังไม่ถึงขั้นมีสาวๆ มาตบแย่งตนกันหลังเวที

ช่วงนี้เกิดประเด็นกับเหล่านักร้อง-นักดนตรีกันบ่อย ล่าสุดก็คือหนึ่งในศิลปินวงระเบียบวาทะศิลป์ อย่าง “ต้าวหยอง” หรือ “ยุคลเดช ปัจฉิม” ฉายา เอวหวาน 4G แดนเซอร์เงินล้าน ที่มีประเด็นร้อนฉ่าออกมาว่าพอดังแล้วมีอภิสิทธิ์เหนือคนในวง แถมเป็นลูกเจ้าของวงด้วยยิ่งไปกันใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ที่อาคาร B ชั้น 3 ตึกอาร์เอส ถนนประเสริฐมนูกิจ พร้อมบอกว่าบ้านที่กำลังสร้างให้พ่อแม่กลางปีนี้น่าจะเสร็จแล้ว ด้วยเงินสดราคากว่า 2 ล้านบาท

“บ้านตอนนี้ก็เพิ่งลงเสาเอก เสาโทไปครับ รอทางช่างเข้ามาจัดการให้ทำที่บ้านเกิดครับ ที่จ.กาฬสินธุ์ครับ จริงๆ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตั้งใจว่าจะสร้างครับ แต่ก็คิดว่าสร้างบ้านให้กับพ่อกับแม่ดีไหม ตอนนั้นก็คิดว่าสร้างดีกว่า เพราะที่เก่าเป็นที่ตาบอด เป็นที่ผิดกฎหมาย ก็กลัวสักวันนึงเขาจะมาเอา แล้วเราจะไม่มีที่อยู่ ก็เลยตัดสินใจว่าไปสร้างในที่เราดีกว่า

3 ปีครับกว่าจะได้ขนาดนี้ บ้านหลังนี้ก็อยู่ที่ 1.4 - 1.5 ล้าน ยังไม่รวมเฟอร์นิเจอร์นะครับ แต่คิดว่าต้องเกินงบแน่นอนครับ แต่ก็มีเผื่อไว้บ้าง และช่วงนี้บ้านยังไม่เสร็จเราก็ทำงานเก็บเงินไปด้วยครับ ก็เตรียมลิมิตไว้ที่ 2 ล้านครับ เป็นเงินสดเลยครับ พ่อกับแม่ก็ดีใจครับที่มีบ้านอีกหลังนึงที่เป็นของตัวเอง ก็จะได้อยู่แบบสุขสบาย และมั่นใจว่าจะไม่มีใครมายุ่งกับเราได้แล้ว ตอนนี้บ้านเป็นชื่อของพ่อครับ แพลนช่างบอกว่าไม่เกิน 6 เดือนครับ แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่ปิดฤดูกาลพอดี ก็น่าจะช่วงกลางปีนี้ครับ”

โต้ข่าวมีอธิสิทธิ์ในวง ยืนยันไม่เคยทำแบบนั้นแน่นอน
“ก็โดนมาตลอดครับ อันไหนที่ผิดนิดผิดหน่อย ผมก็จะโดนตลอด แม้จะทั่งที่มีคนออกไปก็เพราะผมที่ดูแลไม่ทั่วถึง ก็กลายเป็นเราอีกแล้วเหรอ (หัวเราะ) ก็ไม่เป็นไรครับ แต่ถามว่าผมมีอภิสิทธิ์เยอะไหม ในส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าผมเป็นลูกหัวหน้า ผมต้องใหญ่กว่าคนอื่น ผมก็ทำตัวปกติทุกอย่าง กินก็กินตามที่แดนเซอร์ทั่วไปกินกัน

แต่ที่ทำให้รู้สึกนอยด์ก็คือเรื่องที่พี่ท็อป นรากร ออกไปนี่แหละ คนก็งงว่าพี่ท็อปออกไปเพราะอะไร ผมก็โดน แต่จริงๆ ไม่มีอะไรครับ ก็มีน้อยใจบ้างครับ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส ก็มีพ่อเป็นที่ปรึกษาครับ ถามว่ามีคนอิจฉาหรือหมั่นไส้ไหม มันก็มีบ้างครับช่วงแรกๆ แต่ทุกวันนี้ก็ร่าเริงกันปกติครับ เพราะช่วงนั้นเขาอาจจะยังไม่รู้จักเรา เราก็พยายามสนิทกับทุกๆ คน ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้วครับ

พิสูจน์ตัวเองยังไงเหรอ ก็อย่างเวลามีแฟนคลับเอาของมาให้ ถ้าผมเอากลับไปคนเดียว มันกินไม่หมดอยู่แล้ว ผมก็แบ่งปันให้กับทุกคน บางคนไม่ได้ทิปเลยก็มี ผมก็เอาไปใส่มือให้เลยก็มีครับ”

ยอมรับไม่ถนัดเรื่องร้องเพลง แต่ก็จะพยายามให้มากขึ้น
“เรื่องที่โดนบูลลี่เรื่องเสียงก็มีครับ แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าผมร้องเพลงเพราะ ร้องเพลงเก่ง ก็แค่พอไปได้ ก็เรียนรู้ประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ครับ เคยไปเรียนร้องเพลงอยู่คอร์สนึงครับ แต่ก็ฝึกกับคุณพ่ออยู่ตลอดครับ พ่อก็แนะนำให้ร้องให้ชัดครับ ถามว่าโดนบังคับร้องเพลงไหม ก็เหมือนโดนบังคับด้วย เพราะผมก็ไม่ได้ชอบร้องเพลง ไม่ได้ชอบเต้นด้วย ผมเข้ามาเพราะโดนแม่บังคับมา แต่พอทำๆ ไปเราก็รู้สึกว่ารักการร้อง การเต้นมากขึ้น เพราะมันฝังในใจไปแล้ว เพราะเราเต้นทุกวัน เราทำงานทุกวัน มันเป็นอาชีพที่เราต้องทำด้วยครับ

พอมีคนบอกว่าเราร้องเพี้ยน ก็มีนอยด์เหมือนกันครับ อย่างพอถึงคิวเราต้องร้อง ก็รู้สึกไม่อยากร้อง เพราะเดี๋ยวก็มีคนมาตำหนิเราอีก ก็เคยโดนโห่ใส่เหมือนกันครับ หน้าก็เสียเลย แต่ก็ยิ้มกลบเกลื่อนไปครับ”

เผยเคยได้มาลัยเงินสดเกินหลักล้านแค่ครั้งเดียว
“เคยได้ 1.4 ล้านครับ เนื่องในโอกาสวันเกิดครับ แต่รายได้เฉลี่ยต่องานก็แล้วแต่ครับ บางที่ก็อยู่ 5-6 พัน บางที่ 2-3 หมื่นก็มี ทิปที่ได้ก็เข้าเราคนเดียวครับ เพราะแฟนๆ เขาให้เรา แต่บางทีผมก็แอบพ่อเอาตังค์ไปให้คนในวงบ้าง อยากให้ทุกคนได้ เพราะคนที่ไม่ได้ก็มี แต่พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ เรามีเราก็แบ่งปัน เพราะเราเข้าใจคนที่ไม่มีตังค์ เพราะเราเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน เราก็เลยเข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่มี”

ยอมรับพอมีเงินเยอะก็เผลอใช้เยอะ จนต้องฝากพ่อเก็บให้
“ช่วงติดเกมเหรอครับ คือแต่ก่อนเงินแค่พันเดียวมันเยอะมากสำหรับคนที่ไม่มีตังค์เลย แต่พอเราเห็นแล้วเหมือนเด็กๆ ที่เห็นนั่นนี่แล้วก็อยากได้ พอเห็นเงินก็อยากซื้อ บางทีก็มีเติมเกมไป 3 พัน 6 พันบ้าง แต่ไม่ถึงแสนครับ ตอนนี้ก็เป็นคุณพ่อดูแลเรื่องเงินให้ครับ ผมเป็นคนบอกให้พ่อเก็บให้เอง เพราะเคยลองเก็บเองแล้วมันเก็บไม่อยู่ (หัวเราะ)”

บอกตนเองก็เคยเจอคนเมามาขอถ่ายรูป เข้าประชิดตัวบ่อยๆ
“ผมก็เคยครับ ล่าสุดมีมาขอถ่ายรูป ผมก็ยื่นมือจะไปจับโทรศัพท์เขามาถ่ายให้ แล้วเขาก็ยื่นมือมาจับที่แขนผม อีกมือก็ดึงตัวผมไป คือตอนนั้นผมใส่ชุดลิเก ชุดเพชรอยู่ ก็เลยจะขยับยาก แล้วทีนี้ข้างหน้ามันเป็นรั้วกั้น แล้วอีกคนนึงก็จะเข้ามา แล้วผมกลัวไปเหยียบแขนเขา ผมก็เลยเอาเท้ายันไปที่รั้ว ก็ไปโดนแขนเขา แต่ผมไม่ได้มีเจตนา

ก็มีแบบนี้มาหลายรอบครับ บางคนก็มีดึงตัวผมเข้าไปหาตัวเองแล้วก็ไม่ปล่อย ก็กลัวเหมือนกันว่าจะโดนหนักกว่านี้ แต่พอเราโดนดึงเราก็หน้าเสีย ใจมันสั่นตุ๊บๆ เลย แต่วงของเราไม่ได้มีการ์ดด้วยครับ ก็ต้องแก้สถานการณ์กันเอาเอง ก็จะมีแค่เจ้าหน้าที่ที่คอยมาสกัดเวลามีคนตีกันหน้าเวทีครับ คือคนเมาอยากทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าเมาแล้วก็อยากให้ทุกคนมีสติ บางทีคนเมาเอาเงินในกระเป๋าออกมาโยนให้เราหน้าเวที มันก็ไม่ใช่ครับ ทุกคนต้องให้เกียรติกัน คือทุกคนก็อยากมาแสดงให้ทุกคนได้เห็น มาแล้วไม่เสียเวลา ไม่เสียค่าบัตรเปล่าๆ โดนลวมลามยังไม่เคยครับ มีแต่คำพูดว่าขอจับได้ไหม (หัวเราะ) จับมือครับ เราก็ยิ้มอย่างเดียวครับ

ปัดไม่เคยมีสาวๆ มาตบกันหลังเวทีอย่างที่มีข่าวลือแน่นอน
“อันนี้ยังไม่มีนะครับ (หัวเราะ) แต่มีแฟนคลับบุกไปหลังเวทีก็มี บางทีผมนั่งแต่งตัวอยู่ บางคนเข้าไปเหมือนจะโอบกอด ผมก็งงว่าทำไมเข้ามาแล้วต้องมาทำแบบนี้ บางทีคนเมาด้วยครับ คนบอกอะไรเขาก็จะไม่สน เขาจะเข้ามาอย่างเดียวเลย เปิดม่านแล้วเข้าไปนั่งเลยก็มี แต่ตบตีแย่งกันยังไม่มีนะครับ 

ก็อยากฝากบอกแฟนๆ ว่าเราก็จะมีเวลาที่ออกมาถ่ายรูปอยู่ อาจจะเรียกเราอยู่ข้างนอกก็ได้ เราได้ยินเราก็จะออกมาหาเอง แต่บางคนพอเมาก็ไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ) ก็อยากให้เมาอย่างมีสติครับ แต่ไม่เคยคิดจะจ้างการ์ดมาดูแลนะครับ เพราะถ้าจ้างก็จะโดนอีกหาว่าใหญ่โตมาจากไหนที่จะมาจ้างการ์ด กลัวโดนดรามาอีก

บอกอยากมีเวลาเล่นดนตรีและกีฬาที่ชอบบ้าง
“อยากเรียนดนตรีครับ เพราะมันเกี่ยวกับเราพอดี เครื่องดนตรีชิ้นไหนที่เราเล่นได้ก็อยากเล่น แต่ที่อยากเล่นคือกลองชุดครับ จริงๆ ตอนนี้ผมจบม.ปลายนะครับ ก็อยากไปเข้าสโมสรกีฬา เพราะผมชอบเล่นกีฬา อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับกีฬา ผมชอบเล่นกีฬามาก จะไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ ผมชอบเล่นฟุตบอลก็ได้ ฟุตซอลก็ได้ แบดมินตัน ตะกร้อ วอลเล่ย์บอล ปิงปอง ได้หมดเลยครับ”







กำลังโหลดความคิดเห็น