“ดู๋ สัญญา” เผย “เอม สรรเพชญ์” ลูกชายบินกลับไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้ว เพิ่งได้ชิมลางถ่ายแบบคู่ “วิว วรรณรท” ก่อนหน้านี้ลูกชายถอนตัวละครดวงใจเทวพรหม ยันสนใจงานแสดง แต่ไม่ดันและไม่คาดหวัง ขอบคุณชมหล่อ เผยสิ่งที่ต่อให้เป็นลูกมหาดาราก็ไม่รอด!
เรียกว่าหล่อออร่าพุ่งเลยทีเดียว สำหรับ “น้องเอม สรรเพชญ์” ลูกชายพิธีกรชื่อดัง “ดู๋ สัญญา คุณากร” ที่ล่าสุดได้ชิมลางงานในวงการบ้างแล้ว ด้วยการถ่ายแบบให้นิตยาสาร Bride คู่กับดาราสาว “วิว วรรณรท สนธิไชย” โดยดู๋ สัญญา ได้เปิดใจกลางงานบวงสรวงละคร “ไฟลวง” เผยลูกชายเกือบได้แสดงละคร “ดวงใจเทวพรหม” ภาคต่อ สุภาพบุรุษจุฑาเทพ แล้ว
“ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่เมืองไทย เพิ่งกลับไปเรียนเมื่อต้นปีครับ จริงๆ เขาเรียน 4 ปีครึ่ง แล้วตอนปี 1 เขาย้ายเมเจอร์จากฝั่งศิลป์ไปวิทยาศาสตร์อยู่ Biology ชีววิทยา ก็เลยเรียนนานขึ้น 4-5 ปี กำลังจะเรียนจบเดือนพฤษภาคมนี้ครับ ตอนนี้อยู่อเมริกา”
เผยลูกชายถ่ายแบบนิตยสาร Bride ชิมลางงานในวงการ
“ถ่ายเมื่อปลายปีที่ผ่านมาครับ คือเขากลับมาได้ประมาณเดือนหนึ่ง ผมก็ไม่รู้ว่าผู้จัดการเขาชวนไปถ่ายแบบ ผมก็บอกลูกว่าตัวเขาใหญ่ กล้ามใหญ่เกินไป ต้องลีนลงมาให้ได้ ก็ลดลงมาเยอะมาก แต่เขาให้ใส่สูทเลยไม่เห็น เหมือนชิมลาง งานทดลอง ผมเชื่อว่างานแสดงจากที่ผมเจอมาเขาต้องฝึกทักษะอีกพอสมควรเลย เพื่อให้ได้ทำงานได้ดีแบบมืออาชีพกับน้องๆ ทีมงาน”
รับลูกชายสนใจงานแสดง แต่ถามว่ามีแววไหม คิดว่าอนาคตดูยาก
“เขาก็สนใจ และพยายาม แต่ถามว่ามีแววไหม ในภายภาคหน้าคิดว่าดูยากครับ เพราะว่าจริงๆ ในยุคสมัยปัจจุบันทุกคนสามารถเป็นนักแสดงผ่านช่องทางของตัวเองในสื่อโซเชียลกันมากมายแล้วแต่ว่าใครจะออกแบบมาเป็นอย่างไร ฉะนั้นเมื่อช่องทางมากมาย มากกว่าช่องโทรทัศน์หรือช่องอื่นๆ ก็แปลว่าบุคลากรก็จะมากมาย แน่นอนอันดับที่ 1 ความพยายามที่เหนือกว่าจะเอาชนะความพยายามที่ด้อยกว่าเสมอทุกเรื่อง ทุกคนก็มีโอกาสทำได้ดีแหละครับ เขาก็น่าจะมาสายนักแสดง
ถามว่าช่วยติวไหม เวลาขับรถ อย่าให้พ่อสอนมันจะสอนยากกว่าคนอื่น คนอื่นมันจะตรงไปตรงมาในเรื่องการสอน แต่พอเป็นครอบครัวเดียวกัน มันจะกลายเป็นว่าทำไมพ่อต้องพูดแบบนี้ล่ะ ก็จะลำบาก ก็มีช่วงหนึ่งครับที่ผมเคยให้เขาได้ลองเป็นผู้ดำเนินรายการ ตอนสัมภาษณ์ชาริล ชับปุยส์ เป็นภาษาอังกฤษ รายการที่นี่หมอชิต ผมก็ให้เขาทำนะ คุณรู้ไหมข้อแม้แรกที่เขาบอกว่าจะทำ เขาบอกว่าตอนถ่ายทำ ผมต้องออกไปจากกองถ่าย ไม่ให้อยู่ดู เขาก็ทำได้ในระดับหนึ่ง”
บอกเกร็งพ่อ
“เขาเกร็งครับ ผมมองว่าถ้าเริ่มต้นจากคนธรรมดา หนึ่งเขาก็ไม่ต้องกดดัน สองคนอื่นที่ร่วมงานด้วยก็ไม่ต้องบอกว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมที่ไม่ต้องบอกว่าฉันลูกใคร คุณจะทำอะไรก็ต้องดีด้วยตัวของคุณ รู้สึกแบบนั้นครับ ยุติธรรมกับทุกคนที่ร่วมงานด้วย”
เกือบได้เล่นละครเรื่องดวงใจเทวพรหม
“ใช่ครับ แต่ว่าตอนนั้นประเทศเราอยู่ในช่วงที่ยังกำหนดไม่ได้ว่าโควิด-19 จะหยุดไปแค่ไหน โรงเรียน มหาวิทยาลัย อยู่บ้านเรียนออนไลน์ไปนานแค่ไหน ซึ่งในแผนของผู้จัดเขาน่าจะคิดว่ามันจะนานกว่านั้น แล้วอยู่ๆ มันลดลงมา แผนที่เขาจะถ่ายทำมันก็ทำไม่ได้ ลูกผมก็ต้องกลับไปมหาวิทยาลัย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็บอกว่าหยุดระบบการสอนออนไลน์แล้วนะ คุณต้องกลับมาที่อเมริกาแล้วนะ ก็ต้องกลับไปเรียนเลยทำไม่ได้ครับ
ถามว่าอยากให้ลูกทำงานในวงการไหม ผมว่างานทุกงานจะในหรือนอกวงการ อะไรที่ยังไม่เคยทำแล้วเป็นสิ่งที่ดี มันเป็นโอกาส เป็นสิ่งที่ท้าทาย ถ้าถามเด็กๆ ทุกคน ผมจะเชียร์ให้ลองทำเพื่อจะได้รู้ว่ามันดี ไม่ดี เหมาะสมหรือเปล่า น้องยังไม่ได้ทำไง ยังไม่ได้ถ่าย ส่วนงานถ่ายแบบ เขาก็บอกว่าสนุกดี โชคดีว่าวิว (วรรณรท สนธิไชย) เคยเจอกันแล้ว เลยไม่ต้องตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่”
ขอบคุณชมว่าลูกหล่อ ไม่ดันและไม่คาดหวัง
“คือผมอยากให้เขาใส่ชุดที่มันเห็นตัวเขามากกว่า อันนี้ใส่สูทมันดูเป็นการเป็นงานมากครับ คนชมว่าหล่อมากเหรอ ขอบคุณครับ เราก็ไม่ดันและไม่คาดหวังด้วยครับ
ผมคุยกับนักแสดงหลายคนที่มีลูก และกำลังจะโตอยู่ในวงการ จริงๆ มันก็เหมือนลูกของทุกคนที่เป็นดารา และไม่เป็นดารา เอาจริงๆ มันก็พอๆ กัน ถ้าคุณเป็นดาราแล้วทุกคนเขารู้จักพ่อแม่คุณ แต่คุณทำไม่ดี คุณไม่ตรงเวลา คุณไม่พยายาม ไม่มีสมาธิ คุณอยากจะเล่นโทรศัพท์ เดินไปเข้าฉากแล้วก็จำบทไม่ได้ เล่นไม่ดี ต่อให้เป็นลูกมหาดาราก็ไม่รอด
ตอนนี้ถ้าเรียนจบแพลนเรียนต่อมี แต่ผมบอกเขาว่าถ้าอยากเรียนต่อให้ลองใช้ชีวิตก่อน สำหรับผมมองว่าโลกมันเปลี่ยนตลอดเวลา คุณจะอยู่ในมหาวิทยาลัย 4-5 ปี พอจบมาปั๊บ คุณจะกลับเข้าไปในสถาบัน แล้วยังไม่เห็นเลยว่าโลกใน 4-5 ปีที่ผ่านมามันเปลี่ยนไปแบบไหน อย่างไร ในโลกนี้คุณต้องการอะไร เดี๋ยวค่อยออกมาเรียนต่อก็ได้ ไม่ต้องรีบ”