xs
xsm
sm
md
lg

“ตะวัน ณวินวิชญ์” รับน้อยใจ “น้ำตาล ชลิตา” บอกไม่ได้คบ! แต่ไม่เป็นไร เป็นสเปเชียลวันของกันและกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ตะวัน ณวินวิชญ์” ยอมรับศึกษาดูใจกับ “น้ำตาล ชลิตา” น้อยใจอีกฝ่ายบอกไม่เคยคบ แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยพูดขอกันเป็นแฟน และมีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด ยกสถานะเป็นสเปเชียลวันซึ่งกันและกัน บอกอนาคตถ้ามีโอกาสอาจขอเป็นแฟน

ออกมาเปิดใจบ้างแล้วสำหรับหนุ่ม "ตะวัน ณวินวิชญ์ กิตติชนวิทย์" นักแสดงหน้าใหม่ดีกรีอดีตนักแบดมินตันทีมชาติ หลังจากที่ฝั่งสาว “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” ออกมาปัดความสัมพันธ์ว่าไม่ได้คบหากัน แต่สนิทกันในฐานะเพื่อน ซึ่งหนุ่ม ตะวัน ก็เผยว่าเป็นคนคุยที่พิเศษจริงๆ แต่ที่สถานะไม่คืบ เพราะไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน

"ขอใช้คำว่าเป็นคนพิเศษแล้วกัน เราก็คือคนคุยคนพิเศษก็คุยมาสักพักใหญ่แล้ว 2-3 ปีประมาณนี้เราก็ให้เกียรติเขาในความสัมพันธ์ด้วย เพราะต่างคนก็ต้องต่างทำงานในวงการด้วย ถามว่าทำไมสถานะยังไม่คืบหน้า คือในมุมหลายๆ อย่างก็คือหน้าที่การงานเราด้วย เราก็ทำงานในวงการบันเทิงอยู่ บวกกับเวลาที่ไม่ค่อยได้เจอกันเหมือนเมื่อก่อน อย่างช่วงโควิดกว่าจะได้เจอกันก็ใช้เวลานานมาก เพราะพ้นโควิดมาเราก็ทำงานกันต่อเลยอาจจะด้วยเรื่องเวลาด้วย

ถามว่ากดดันไหมที่ถูกจับตามอง ตัวผมรู้สึกว่าปกติ คือเราไม่ได้ตื่นเต้นหรือต้องหวาดระแวงอะไร เพราะเราคุยกัน เราติดต่อกันด้วยความจริงใจอยู่แล้ว คือถ้ามันจะมีข่าวอะไรที่ดีหรือไม่ดีเราก็คุยกันตลอดว่ามันเป็นแบบนี้นะ แต่ถ้าใครถามเราก็สามารถอธิบายให้เขาฟังได้ ถามว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน เราไม่ได้คุยระยะเวลาเลย เพราะเราเริ่มต้นจากการที่ไม่ได้มีการเข้าไปจีบกัน คือเราเริ่มจากการที่เราสนิทกันเป็นเพื่อนกันและไปทำกิจกรรมด้วยกันประมาณนี้ เลยไม่ได้มีการวางแผนว่าตอนนี้เวลานี้แบบไหนถึงจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ก็คุยคนเดียวครับ"

บอกความสัมพันธ์สเปเชียลวันของกันและกัน
"ก็มีโอกาสเห็นข่าวแล้ว ไม่ได้รู้สึกเฟลอะไร เพราะเราสองคนก็ติดต่อกันอยู่แล้ว และเราก็ดูการตอบคำถามหรือในสิ่งที่เขารู้สึกกับเราเป็นยังไง ตั้งใจะขอเป็นแฟนไหมเหรอ คือตอนนี้เราทั้งคู่ยังไม่ได้มีใครที่จะมาขอเป็นแฟนใคร คือเราคบด้วยความสัมพันธ์ที่รู้สึกดีมากๆ เหมือนเราลืมคำว่าต้องขอเป็นแฟนไปแล้ว

ความสัมพันธ์ตอนนี้ใช้คำว่าสเปเชียลวันแล้วกัน เราสามารถคิดเรื่องงานปรึกษากันได้ หรือเป็นการตัดสินใจร่วมกัน ว่าเราอยากทำอันนี้ด้วยกัน เราอยากไปไหนมาไหนด้วยกันไป ดินเนอร์หรือไปกินข้าวด้วยกัน เป็นสเปเชียลวันแล้วกัน แต่ถามว่าทั้งคู่จะไม่ไปมีใครไหม อันนี้เราก็ยังไม่เคยถามเขาเหมือนกันนะ คือเราคุยกันเข้าใจทุกเรื่อง คือมีปัญหาก็ช่วยกันแก้ไข อย่างเรื่องงานถ้าเราแสดงไม่ถึง หรือมีปัญหาอะไรเขาก็มีให้คำแนะนำกับเราว่าควรจะทำแบบนี้ๆ"

เผยการเปิดตัวเรื่องแฟนสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว
"สำหรับเรามันก็ไม่ใช่เรื่องแย่และไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะเราอยู่ในยุคสมัยใหม่แล้ว ในการมีแฟนมันไม่ใช่เรื่องผิด มันเป็นเสรีหมดแล้ว ถ้าวันนึงทุกอย่างมันลงตัว ก็ไม่มีอะไรที่จะไม่กล้าพูดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ถามว่ามีน้อยใจที่เขากับคำถามของเขาไหม น้อยใจก็มีบ้างเหมือนกันครับ แต่เราใช้คำว่าเวลาเราทำกิจกรรมด้วยกัน หรืออยู่ด้วยกันมันมีความสุขมากกว่าที่จะไปฟังเสียงตอบรับจากคนข้างนอก

ก็ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ครับ เราก็บอกเขาว่าแอบน้อยใจนิดหน่อย เขาก็บอกว่าเดี๋ยวพาไปกินข้าวไปเที่ยวกัน ถือว่าเป็นการเอาใจเป็นพิเศษ เพราะเรากับเขาก็ดูแลกันมาดี และดูแลกันมาตลอด อย่างในช่วงที่เขามีวิกฤตเราก็อยู่ข้างเขา อย่างตอนที่เรามีวิกฤตเขาก็อยู่ข้างเราเหมือนกัน ก็เป็นกัลยาณมิตรเป็นสเปเชียลวันที่ดีมากๆ ครับ"

บอกสักวันอาจจะมีโอกาสขอเป็นแฟน
"ภาพขอเขาเป็นแฟน เรานึกภาพตรงนั้นไม่ออกเลยครับ เหมือนพอมันเริ่มโตเราก็มีความเขิน เพราะเราไม่ได้พูดว่าจะเป็นแฟนกันไหม เราไม่มีความสัมพันธ์ในการที่สื่อสารด้วยความรู้สึกกับเขามากกว่า อาจจะไม่มีคำนี้ด้วยซ้ำ ถามว่ากลัวเขาน้อยใจไหม อันนี้ผมก็ลืมคิดเหมือนกันนะ เดี๋ยวต้องลองกลับไปถามก่อนว่าถึงเวลาตรงนั้นและทุกอย่างมันเหมาะสม อาจจะมีโมเมนต์นั้นก็ได้ ซึ่งเราก็ไม่เคยถามเขา ไม่เคยพูดตรงๆ กับเขา เพราะก็ยังมีอาการเขินอยู่ที่จะคุยกับเขาในเรื่องนี้ แต่ถ้ากลับไปรอบนี้เดี๋ยวต้องลองถามดู"









กำลังโหลดความคิดเห็น