“แอนชิลี” ซัพพอร์ต “แอนนา เสือ” บอกพัฒนาตัวเองขึ้นเยอะมาก วิเคราะห์เรื่องดราม่าไบโอ ไม่ได้ทำให้ตกรอบ แต่หน้างานเป็นสิ่งสำคัญกว่า ส่วนดราม่าเรื่องชุด คงจะให้นางงามมาออกแบบชุดเองคงไม่ได้ เพราะแค่เทรนด์ทั้งวันก็หมดเวลาแล้ว
เป็นรุ่นพี่นางงามอีกคนที่โดนดราม่ามาก็ไม่น้อย สำหรับ “แอนชิลี สก็อต-เคมมิส” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2564 ซึ่งก็ได้มาร่วมงานมีทติ้งแฟนนางงามของ “แอนนา เสืองามเอี่ยม”ด้วย โดยเจ้าตัวบอกว่า ภูมิใจในตัวแอนนามากๆ พร้อมพูดถึงดราม่าไบโอหรือประวัติที่แอนนาส่งให้กองประกวดมิสยูนิสเวิร์ส ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า "เหมือนละครฟ้ามีตา" นั้น เจ้าตัวบอกว่า ไบโอเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการประกวด แต่หน้างานสำคัญกว่า และเชื่อว่าแอนนาทำดีที่สุดแล้ว
“ภูมิใจมากๆ เลย แอนดูการประกวด คือเข้าใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงตื่นมาดู มันสนุกมากเลยค่ะ จากวันที่ได้เห็นแอนนาวันแรกจริงๆ จนถึงวันนี้เขาพัฒนาได้เยอะมาก ถามว่าตอนที่ประวกดเราได้มีส่วนเขียนไบโอ(ประวัติของตนเองส่งให้กองประกวด)ของเราเองไหม คือเราก็มีทีมที่จะช่วยเขียน เราทำด้วยกัน บางอย่างแอนก็ขออนุญาตว่าใส่อันนี้แทน ใส่อันนี้เพิ่ม ก็มีสิ่งที่เป็นเรา และคนที่รู้เรื่องการเขียนก็จะช่วยเหลือกัน"
"แต่ส่วนตัวยังไม่ได้เห็นประวัติของน้องที่เขียนเลยค่ะ ถ้าถามว่าส่วนตัวคิดว่า ไบโอมันสำคัญขนาดไหน เราแค่คิดว่าไบโอมันเป็นแค่อะไรย่อๆ เอง คนเรามันมีมากกว่า 500 คำเนอะในการที่จะอธิบายว่าเราเป็นคนยังไง ก็คิดว่าช่วยระดับนึง แต่ที่สำคัญก็คือหน้างานของส่วนบุคคลมากกว่า”
บอกเราไม่ได้เกิดมาพร้อมกับภาษาอังกฤษ แค่สื่อสารได้ก็เก่งแล้ว
“แอนนาเป็นคนที่ไม่ได้เกิดมาด้วยภาษาอังกฤษ มันเขียนไม่ถนัดอยู่แล้ว คือตอนแอนนาเข้ากองแรกๆ ภาษาเขาพัฒนาเยอะมากเลย แล้วเขาสื่อสารได้ขนาดนี้กับเวทีใหญ่เวทีแรก เราควรกลับมามองว่า เขาทำได้ดีนะ เขาพัฒนาได้เยอะมากๆ เลย แอนเชื่อว่าเป็นเพราะความพยายามมากกว่า คือห้องดำเป็นห้องที่เราไม่รู้เลย เดินออกจากห้องเราจะไม่รู้ว่าเราทำดีหรือไม่ดี แอนพูดได้จากประสบการณ์แล้วกันนะคะ ห้องดำเดายากมากค่ะ"
"แอนคิดว่าภาษาก็มีความจำเป็นที่มันก็ต้องมีระดับนึง เพราะเราก็ต้องสื่อสารกับคนทั่วโลกอยู่แล้ว แต่แค่เราสื่อสารอะไรออกมาแล้วเขาเข้าใจ แอนคิดว่าก็พอแล้ว ประเทศไทยก็ไม่ใช่ประเทศที่เกิดมากับภาษาอังกฤษ ก็ต้องมีออกไปเรียนและไปคุยภาษาบ้าง แอนคิดว่าสื่อสารได้ก็พอแล้ว”
แอนนา สตรองมาก
“ยังไม่ได้เจอเลยค่ะ ชวนหลายครั้งแล้ว แต่คิวแน่นมาก (หัวเราะ) เราก็บอกว่าพร้อมเสมอนะ มีอะไรก็ถามได้ พูดคุยกันได้ แต่แอนนาเขาสตรองค่ะ ต้องยอมรับว่าสตรองกว่าแอนอีก ก็มีพูดคุยกันบ้างนิดหน่อยค่ะ ส่วนเรื่องชุดที่โดนวิจารณ์เยอะๆ คือมันเป็นชุดที่ทำมาได้สวยงามมากๆ แต่สิ่งที่คนมองข้าม มันเป็นสตอรี่ แต่แอนยังไม่เห็นชุดนั้นเลย อยากเห็นมาก คือชุดในการประกวดมันต้องเป็นชุดที่เข้ากับตัวเราเอง เพราะมันโชว์ว่าเราตั้งใจ เรามีแผน แอนว่าชุดก็สำคัญเลยแหละ"
"ส่วนใหญ่ดีไซน์เนอร์ก็จะดีไซน์ในสิ่งที่เขาอยากทำ แต่เราก็สามารถช่วยดีไซน์ว่าเราอยากได้ตรงนี้ เราอยากเปลี่ยนตรงไหน เขาก็จะอธิบายว่าชุดนี้มันมาแบบนี้ มีความหมายแบบนี้ เราก็เสริมพลังในตัวเราเข้าไป เราก็ต้องให้เกียรติศิลปะที่ดีไซเนอร์เขาออกแบบออกมาด้วยค่ะ แต่ถ้าจะให้นางงามไปออกแบบชุดเองเพื่อสยบดราม่า คงไม่ไหวค่ะ เพราะว่าเทรนด์ก็ทั้งวันแล้ว และต้องเข้าใจว่าบางคนก็ไม่ได้มาจากสายแฟชั่นด้วย เราไม่รู้เรื่องคัตติ้ง เรื่องสี เราให้ความร่วมมือดีกว่า”
