เป็นคู่รักที่อยู่ในกระแสโซเชียลที่หลายคนชื่นชอบสำหรับ “ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา อรุณวัฒนชัย” และ”กวินท์ ดูวาล” ที่มีแฟนๆ ติดตามชีวิตรัก ไลฟ์สไตล์มาตั้งแต่คบหากันเป็นแฟน จนแต่งงานมีลูกรวมๆก็ 8 ปีแล้ว
ล่าสุด กวินท์ ได้มานั่งพูดคุยถึงเรื่องความรักของตัวเองกับ ปุ้มปุ้ย ในรายการคนอวดผัว โดย กวินท์ ยอมรับว่าชีวิตไม่ได้มาถึงจุดนี้ได้เพราะพ่อแม่ แต่ตนมาถึงจุดนี้ได้เพราะว่าความขยันและมีเมียที่ดี
กวินท์ : “เป็นอะไรกัน คนชอบคิดว่าผมรวยมาก มาดูบัญชีผมไหม มีแค่ 77 บาท พ่อผมรวย ผมไม่เถียง แต่ไม่ได้แปลว่าผมรวยนะ เพราะพ่อไม่ให้ คนชอบคิดว่าเราได้ตังค์มาง่ายๆ เราเรียนโรงเรียนอินเตอร์ โอเคว่าผมอาจจะเกิดบนหมอนค่อนข้างดีหน่อยมันก็เป็นอย่างนั้นตอนผมเด็ก แต่ฝรั่งเขาจะเลี้ยงแบบปล่อย พออายุประมาณ 20 ปีเขาก็จะบอกว่าตอนนี้ยูเป็นแมนแล้วนะ ยูต้องดูแลตัวเอง ทุกวันนี้ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่ได้มาถึงจุดนี้ได้เพราะพ่อแม่ แต่ผมมาถึงจุดนี้ได้เพราะว่าผมขยันและมีเมียที่ดี เมียช่วยทุกอย่าง”
“กวินท์” ขอบคุณ “ปุ้มปุ้ย” ที่ให้บทเรียนชีวิต แต่ก่อนปุ้มปุ้ยเลี้ยงดูกวินท์ ตอนที่กวินท์ไม่มีอะไรเลย แต่กวินท์เอาเงินไปใช้สุรุ่ยสุร่าย แทนที่จะเอาไปกินข้าวกลับเอาไปเติมเกม ไปเล่นยิงเลเซอร์
กวินทร์ : “ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถามว่าเงินหมดไหม หมดครับ”
ปุ้มปุ้ย : “พอเราให้แล้วเรามารู้ว่าเอาเงินไปเล่นเกม ก็เลยไม่ให้อีกแล้ว เธอต้องหาเงินเองแล้วนะ”
กวินทร์ : “เงินหมดก็ไปขับแกร็บ พ่อแม่ก็ไม่ส่งให้แล้ว ตอนไปขับแกร็บได้วันละพันกว่าบาท ก็เห็นคุณค่าของเงิน ก็เริ่มเก็บ ต้องหาอย่างอื่นทำเพราะไม่อยากขับแกร็บไปตลอดชีวิต ก็เลยเริ่มทำเพลง เป็นสิ่งที่เราถนัดและรักที่เราทำมาตลอด”
ปุ้มปุ้ย : “พอได้เงินมาง่ายๆ มันก็จะใช้ไปเรื่อย แต่พอได้ไปหาเงิน มีเงินเป็นของตัวเองก็ไม่เอาเงินตัวเองไปยิงเลเซอร์”
กวินทร์ : “(ยกมือไหว้ปุ้มปุ้ย) ขอบคุณมากที่สอนเราที่รัก เรื่องเงินเมียช่วยในช่วงที่ไม่มี ให้ผมวันละ 100-200 ให้ค่ากินข้าว ขับแกร็บเสร็จกลางวันนั่งกินข้าวไปร้องไห้ไปด้วย ส่วนปุ้ยตอนนั้นทำงานทุกวัน ขยันมาก ไม่มีวันหยุด ถ่ายแบบทุกวัน”
ปุ้มปุ้ย : “ช่วงนั้นเป็นช่วงขาขึ้นของปุ้ยในวงการนางแบบเสื้อผ้า”
กวินทร์ : “บางวันเขามีชวนให้ผมไปใส่เสื้อผ้าให้ด้วยนะ เขาให้วันละ 3,000 บาท”
“ปุ้มปุ้ย” ที่ไม่คิดอยากจะเลิกกับ “กวินท์” เพราะชอบคนหน้าตาดี
ปุ้มปุ้ย : “เราชอบคนหน้าตาดี ที่ทำมาทั้งหมดเพราะหน้าตา คนเราเติบโตมาไม่เหมือนกัน ปุ้ยเป็นคนที่ทำงานและดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ต้องดูแลรับผิดชอบครอบครัว ก็เลยติดนิสัยแมนๆ เหมือนเป็นผู้ดูแล ผู้รับผิดชอบ ที่ตอนนั้นไม่หนีและทิ้งเพราะว่ามันชินมั้ง เรารู้สึกว่าคบดารามันมีราคาที่ต้องจ่าย ก็คิดซะว่านอนกับดารา เหตุผลบนโลกมีเป็นร้อยที่จะทำให้ปุ้ยเลิกกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่เพราะความลำบาก”
กวินท์ : “เราก็เลยแต่งงานกับเขาเลย”
รับสายเปย์ ซื้อของหรูให้เมีย แต่เป็นระบบผ่อน
กวินทร์ : “ไม่ได้ผ่อนทุกอย่าง แต่อะไรที่แพงมากๆ ใช่ อย่างกระเป๋าชาแนล ใช้ระยะเวลาผ่อนประมาณ 8 เดือน คือไม่อยากรีบจ่ายไง ผมมีค่าใช้จ่ายเยอะ ปุ้ยกับผมแยกกันคนละกระเป๋า และช่วยกันดูแลทั้งบ้าน ผมก็พยายามจะออกให้เยอะขึ้นเพื่อที่จะได้ดูเป็นผู้นำในครอบครัว แต่ก็เป็นผู้นำตัวเล็กๆ รถออดี้ก็ผ่อน ไม่ได้ให้ปุ้ยผ่อนนะ ผมไปดาวน์แล้วผ่อนกับธนาคาร ผมมีค่าใช้จ่ายที่จะต้องส่งให้เมีย ค่าบ้านอีก ผมไม่ค่อยเหลืออะไรหรอกในแต่ละเดือน ผมก็ไม่คิดมากหรอก ผมแฮปปี้ ผมภูมิใจที่ได้เป็นผัวปุ้ย
ล่าสุด ปุ้ย โปะค่าบ้าน คือนั่งคุยกันตอนกลางคืนว่าจะทำยังไงดีกับค้าบ้านเพราะว่าดอกเบี้ยมันสูงมาก 3 ปีที่ผ่านมาที่เราจ่าย มันเหมือนเป็นการผ่อนดอกเบี้ย เงินต้นลดไปแค่นิดหน่อย”
ปุ้มปุ้ย : “คืนนั้นก็ไม่ได้มีบทสรุปอะไร แค่พูดขึ้นมาลอยๆ ว่าคงจะต้องโปะบ้าน แล้วก็แยกกันไปนอน พอตื่นเช้าขึ้นมาสิ่งแรกที่ปุ้ยทำเลยก็คือกดไปดูยอดเงินบนแอปฯ ธนาคาร รู้สึกว่าโปะบ้านดีกว่าแล้วก็กดเงินในบัญชีโปะบ้านแล้วก็ส่งสลิปให้กวินท์ แล้วตอนเย็นก็ปุ้ยนั่งกินมาม่า (หัวเราะ) สงสารตัวเอง”
สำนึกว่าเมียเราดีจังตอนช่วงเกณฑ์ทหาร แต่พอปลดประจำการออกมาก็ขอเลิก จนสุดท้ายสำนึกได้เลยกลับมาง้อ
กวินท์ : “ตอนที่จะเกณฑ์ทหาร คิดว่าปุ้ยจะต้องเลิกแน่ๆ เพราะตอนนั้นไม่มีอาชีพ ไม่มีเงิน ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่ามีอนาคตของเรา แต่เขาอยู่ เลยรู้สึกว่าคนนี้แหละคือคนที่จะอยู่กับเรา คนที่เสียสละที่จะอยู่กับคนที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเรา”
ปุ้มปุ้ย : “ตอนที่มันปลดประจำการมันเลิกเลย มันอยากเป็นอิสระ ไปเป็นทหารมานางเก็บกด นางจะเที่ยวให้ได้เลย ตอนนั้นเราเองก็ป๊อปในหน้าที่การงาน เราเที่ยวได้ถึงเที่ยงคืน เพราะต้องรีบตื่นแต่เช้าไปทำงาน 6 โมงเช้า แต่เขาจะไปต่อที่สองที่สาม”
กวินท์ : “สุดท้ายผมก็ไปง้อเขาที่บ้าน ตอนนั้นรูปไอจีรูปดอกกุหลาบที่เราเก็บใส่สมุดทับเอาไว้มันเด้งขึ้นมา เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจผิด เลยกลับไปง้อเขา ตอนที่จะแต่งงานกันเราคุยกันสองคน พ่อแม่ผมก็ไม่ได้ปรึกษา”
ปุ้มปุ้ย : “เหมือนคนรอบตัวกวินท์เขาก็ยังไม่อยากให้กวินท์แต่งงาน เขารู้สึกว่าทำไมกวินท์ต้องรีบแต่ง ตัดสินใจเร็วจัง ไม่อยากให้กวินท์รีบมีชีวิตครอบครัว คือที่กวินท์ตัดสินใจแต่งงานเพราะว่าเขานึกถึงเราเป็นหลัก ด้วยความที่ปุ้ยโตกว่ากวินท์เขาก็ดูจากอายุเราที่ 30 แล้ว ก็ไม่ควรเกินนี้ ถ้าแต่งงานสักวันก็ต้องมีลูก ถ้าเขาไม่ขอเราตอนนี้มันจะเป็นการเอาเปรียบเรา ตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว เขาคิดแบบนี้”
รีวิวชีวิตรักหลังมีลูกด้วยกัน ยกให้ลูกสำคัญที่สุด รองลงมาเป็นเงิน แล้วค่อยเรื่องเซ็กส์
ปุ้มปุ้ย : “ตั้งแต่มีลูกปุ้ยดีขึ้นเรื่องการแต่งตัว แต่งตัวโป๊น้อยลงเพราะไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านเลี้ยงลูก กวินท์เองก็ไม่ชอบให้ปุ้ยแต่งตัวเซ็กซี่อยู่แล้ว”
กวินท์ : “เรื่องเซ็กส์ปุ้ยก็อาจจะไม่เยอะเท่าเมื่อก่อนเพราะไม่สะดวก เรื่องนัดกันมันก็ไม่ดีเท่าเซอร์ไพรส์ เซอร์ไพรส์จะมันส์กว่า ผมไม่ค่อยชอบอะไรที่มันฟิกซ์ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าอันนั้นดี อันนี้ไม่ดีนะ แต่ถ้ามีความโรแมนติกหรือเป็นเซ็กส์ไลฟ์ที่ดี ผมแฮปปี้ เอาตามอารมณ์และความเหมาะสมในช่วงนั้นดีกว่า”
ปุ้มปุ้ย : “พอเรามีลูก แล้วเราก็เลี้ยงลูกกันเองด้วย พอเราจะคาดหวังว่าฟิลลิ่งจะต้องมาตอนนี้ มันไม่ได้ไง บางทีฟิลลิ่งมาแต่ลูกอึ ก็ต้องไปเช็ดอึลูกก่อน ก็ต้องปรับไปตามสถานการณ์ชีวิตบริบท ณ ตอนนั้น พอมีลูกแล้วรู้สึกว่าลูกสำคัญที่สุด เงินรองลงมา รองจากเงินค่อยเซ็กส์”
“กวินท์” บอกถ้าไม่ได้คบ “ปุ้มปุ้ย” ชีวิตคนเป็นคนเร่ร่อนอยู่ประเทศอังกฤษ ส่วนปุ้มปุ้ยเอง คงเป็นซ้อ นั่งกินนอนกินเลี้ยงลูกอยู่บ้าน
กวินท์ : “ถ้าวันนี้ไม่ได้คบกับปุ้ย ชีวิตผมคงไปอยู่เมืองนอก น่าจะอยู่ใต้สะพานที่อังกฤษ เร่ร่อน”
ปุ้มปุ้ย : “คงไปนั่งอยู่ร้านทอง เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก นั่งเฉยๆ นั่งกิน นอนกิน ซึ่งเป็นชีวิตที่เราไม่ต้องการ เราชอบความลำบาก”
กวินท์ : “คนภายนอกอาจจะมองว่าปุ้ยเป็นคนแรง แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนดูแลครอบครัวของเขา ของผม ที่เราสร้างมาด้วยกัน เขาเป็นคนที่เก่งมากๆ เพราะฉะนั้นคำถามที่คนชอบถามว่าทำไมถึงเลือกคนนี้ ผมไม่ได้ใช้เหตุผลเยอะ แต่การกระทำและสิ่งที่เราผ่านกันมามันบ่งบอกถึงความสุดยอดของคนคนนี้ อยากจะบอกว่า รักนะ ขอบคุณที่ทำให้เราเป็นพ่อแล้ว”
เป้าหมายต่อไป พร้อมเผยข้อคิดชีวิตคู่ อยู่กับความธรรมดาในแต่ละวันให้ได้แล้วจะอยู่กันได้ยาว และการที่เมียดุด่า ถือเป็นการทดสอบว่าเราจะเป็นผัวที่ดีได้ไหม
กวินท์ : “เป้าหมายต่อไปคือลูกสาว และบ้านหลังใหม่ที่ปุ้ยจะไม่ใช่คนโปะ สำหรับชีวิตคู่ จริงๆอยากจะบอกว่าต่างคนต่างมีนิสัย ความเป็นตัวเองที่ค่อนข้างต่างกันค่อนข้างสูง ฉะนั้นคุณไม่ควรบังคับหรือเปลี่ยนแปลงคนอื่น แต่คุณควรสนับสนุนให้เขาเป็นคนที่ดีขึ้น ได้เป็นตัวเองมากขึ้น แม้ว่าความสัมพันธ์มันอาจจะไม่เวิร์กก็ตาม”
ปุ้มปุ้ย : “ปุ้ยรู้สึกว่าชีวิตคู่มันไม่มีสูตรสำเร็จเราแค่จะต้องหาบาลานซ์ของคู่ของเราให้เจอ ปุ้ยมองว่ายุคนี้มันเป็นยุคโซเชียลที่เรามักจะมองคนอื่นมากกว่าตัวเอง มันทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบ ทำให้เกิดภาพฝันหรืออะไรก็ตามที่เราดูแล้วอยากเป็นแบบนั้นจังเลย พยายามหาความสุขของตัวเอง ของคู่เราว่าเรามีความสุขกับอะไร อยู่กันวันต่อวัน ทำแต่ละวันให้มันดี หรือถ้าวันนี้มันเป็นวันที่ไม่ดีก็พยายามทำความเข้าใจว่าคนเราไม่ได้มีความสุขในทุกๆวันหรอก โลกนี้มันมีบาลานซ์มันมีทั้งความสุขและความทุกข์ อยู่กับความธรรมดาในแต่ละวันให้ได้แล้วมันจะอยู่กันได้ยาว”
กวินท์ : “อยากจะแนะนำผู้ชายหลายๆ คนที่มีเมีย หรือแฟน เวลาที่เขาด่าเรามากๆ มันเป็นการทดสอบ การที่เขาดุเรา ว่าเรา และมีคำถามบ่อยๆ ไม่ได้เป็นการที่เขาจู้จี้นะ แต่เป็นการทดสอบว่าเราจะเป็นผัว หรือเป็นแฟนที่ดีขึ้น คือสิ่งที่ควรทำตามครับ”