เป็นข่าวที่ทำเอาทาสแมวปวดใจไปตามๆกัน เมื่อสัตวแพทย์ได้ออกมาแฉว่ามีคนดังที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศนำแมวมารักษา ก่อนพบว่าถูกถอดกรงเล็บออกไปหมด เหตุเพราะกลัวโดนข่วนหน้ามีผลต่ออาชีพการงาน ทำเอาสัตวแพทย์โกรธจัดเพราะเป็นการทารุณสัตว์ ด้านชาวเน็ตพากันตามหาว่าคนใจร้ายคือใคร
คิมมยองชุล สัตวแพทย์แมว และยูทิวเบอร์ชาวเกาหลีใต้ ได้อัปโหลดวิดีโอลงในช่องของตนเองพร้อมแฉว่า มีคนดังเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนรู้จักทั่วประเทศ นำแมวมารักษาที่คลินิกของตน ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นว่าแมวตัวนั้นโดนถอดกรงเล็บออกหมด
“มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้เจอแมวที่คลินิก ซึ่งมันเป็นแมวของคนดังที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วประเทศ มันทำให้ผมปวดใจมาก แมวตัวนั้นโดนถอดกรงเล็บออกหมด เดาซิว่าทำไม? คนดังคนนั้นถอดเล็บแมวเพราะไม่อยากเสี่ยงโดนแมวข่วนหน้า”
ซึ่งสัตวแพทย์ ได้อธิบายต่อไปด้วยว่า การถอดกรงเล็บแมวเป็นการสร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสให้กับแมวตัวนั้น เหมือนกับเป็นการตัดปลายนิ้วของแมวเพื่อไม่ให้เกิดการงอกขึ้นของเล็บอีก “การถอดกรงเล็บแมวก็เหมือนกับการตัดนิ้วมือมนุษย์ มันตัดที่ข้อต่อออกเพื่อป้องกันไม่ให้เล็บงอกขึ้นมาอีก”
ในฐานะสัตวแพทย์ เขาได้แสดงความเห็นว่า พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์ ในระหว่างที่ถูกถอดและหลังจากถูกถอด แมวตัวนั้นต้องทึกข์ทรมานแสนสาหัส และยังเป็นการสูญเสียความสามารถในการป้องกันตัวซึ่งเพิ่มความเครียดให้กับแมวเป็นอย่างมาก
“ผมเคยทำการถอดกรงเล็บมาก่อน แต่ทำเฉพาะเล็บที่มีปัญหาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่สำหรับบางคนเลือกที่จะถอดกรงเล็บแมวเพราะต้องการป้องกันไม่ให้เกิดรอยข่วนที่เฟอร์นิเจอร์หรือป้องกันรอยข่วนที่ใบหน้าตนเอง ยิ่งคิดถึงเหตุผลพวกนี้ยิ่งทำให้ผมโกรธมาก”
งานนี้บรรดาผู้ชมและชาวเน็ตต่างพากันคาดเดาว่าเจ้าของแมวตัวนั้นคือใคร ซึ่งหลายคนต่างอยากให้มีการเปิดเผยชื่อของคนดังคนนั้นให้อับอายเนื่องจากเป็นการทารุณกรรมสัตว์อย่างเห็นได้ชัด
“แมวต้องผ่านความเจ็บปวดมามากแค่ไหน พวกเขาคิดว่าแมวเป็นตุ๊กตาหรือไง ฉันหวังว่าทุกอย่างที่พวกเขาทำจะถูกทำลาย คนดังเลวๆคนนี้คือใครกัน” , “ว้าว นี่เป็นการรู้เรื่องการถอดกรงเล็บแมวเป็นครั้งแรกเลย มันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง รู้สึกเศร้าใจมาก”, “พวกเขาบอกว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา แต่สุดท้าย พวกเขาก็เลี้ยงพวกมันเป็นเหมือนเครื่องประดับเพื่อความพอใจของตัวเอง”, “โรคจิตชัดๆ เลิกเลี้ยงแมวได้แล้ว ปล่อยให้มันโตริมถนนยังดีกว่าถูกทารุณแบบนี้”