“ณวัฒน์” ประกาศชัดไม่ขอเอานางงามจากเวที MUT และ นางสาวไทย เข้าประกวดเวทีของตนตั้งแต่นี้เป็นต้นไป บอกเบื่อเต็มทนกับการที่เอาตนไปด่า แถมยังเอาผลงานและสมบัติที่ตนอุตส่าห์สร้างมาไปอีก บอกถ้าอยากทำก็ให้สร้างเอาเองบ้าง
หลังจากที่เวทีกองประกวด Miss Grand Thailand ของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ออกจดหมายประกาศชัดเจนว่าจากนี้จะไม่รับนางงามที่มาจากเวที Miss Universe Thailand ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป และ นางสาวไทย ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไปเข้าประกวดเวทีตนเด็ดขาด ล่าสุดเจ้าตัวมาออกรายการคนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 8 ณ อาร์เอส กรุ๊ป ถนนประเสริฐมนูกิจ ย้ำชัดถึงสาเหตุว่าเบื่อกับการที่ต้องทนถูกอีกฝ่ายด่าทออยู่บ่อยๆ แถมล่าสุดยังมาฉก PD ของตนไปอีก
“ก็ชัดเจนนะครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่อยากมีปัญหากระทบกระแทกจุกจิก เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาเราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรที่สัมพันธ์กันโดยที่มีการขัดแย้งตลอด มันก็มาต่อเนื่องนะครับ อย่างเช่นคณะกรรมการพิเศษที่ไปเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เวลาไปสัมภาษณ์ก็ควรจะสัมภาษณ์ผู้เข้าประกวด แต่สัมภาษณ์ไปได้พักนึงก็มากระทบกระแทกด่าทอเวทีเรา ถึงแม้จะไม่เอ่ยชื่อเวที แต่ใครก็รู้ว่ากำลังว่าใครอยู่ เราก็รู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้นะครับ ด้วยปกติคนเราก็ต้องมีมารยาทด้วยกัน
จากนั้นเน็ตไอดอลคนนี้ก็ด่ามาเรื่อยๆ เราก็รู้สึกรำคาญ อย่างหงษ์ทองก็ไปถ่ายรูปกับเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวจะมีโปรเจกต์ใหม่ด้วยกัน เรามีความรู้สึกว่าเราจากกันไม่ได้เลยเหรอ มันก็เริ่มหงุดหงิด รำคาญ หลังๆ ก็จะมีระบบ 77 จังหวัดอีกในอีกหนึ่งเวที ก็ได้ไม่เป็นไร ทุกคนก็ทำได้ แต่บังเอิญว่ามีการไปติดต่อ PD เราตลอดเวลา
คือเราอยากอยู่ของเรา เราสร้างมาด้วยความยากลำบาก เราก็ไม่อยากกระทบกระเทือนกัน เราเลยตัดสินใจว่านางงามที่จะประกวดเวทีมิสแกรนด์ เราก็ระบุว่าถ้าไป 2 เวทีนี้เราจะไม่รับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดนะครับ มันยังมีเวทีอีกเยอะแยะมากมายในประเทศไทย เพียงแต่เราเหนื่อยแล้วที่จะถูกการกระทบกระแทกและถูกการใช้งานในวัตถุดิบที่มันใกล้เคียงกันเกินไป”
บอกทุกคนมีทางเลือก ตนก็มีสิทธิเลือกเช่นกัน
“ก็ต้องยอมรับว่าเวทีมิสแกรนด์เป็นเวทีที่ชัดเจนที่สุด อะไรที่อยากได้ ไม่อยากได้ เราก็จะบอกชัดเจน เคสนี้เราก็บอกชัดเจนว่าเราอยากจะอยู่ของเราตามลำพัง ไม่อยากเกี่ยวข้องกับใคร โดยเฉพาะ 2 เวทีที่เราประกาศไป เพราะหลังๆ มานี่เราก็ลงทุนและทำงานของเราค่อนข้างหนัก ใครจะทำเวที 77 จังหวัดยังไงเราก็ได้หมด บางคนบอกว่าเราออกกฎมาเพื่อบังคับไม่ให้ผู้หญิงมีทางเลือกบ้าง เราไม่ได้บอกว่าห้ามไปนะครับ บางคนพูดเอาแต่ได้ เราไม่เคยที่จะบอกว่าห้ามไป แต่เราบอกว่าให้เลือกไป จะเลือกไปที่ไหนก็ได้ทุกเวทีในประเทศไทย แต่ถ้าเราบอก 2 เวทีนี้ คุณจะเลือกไปก็ได้
ไม่เลือกเราก็ไม่ใช่เรื่องผิด เราไม่ได้สั่งห้ามเลือก เราก็มีสิทธิที่จะเลือกคุณสมบัติในสิ่งที่เราต้องการได้ คุณเองมีโอกาสที่จะเลือก คุณก็เลือกเวทีที่คุณต้องการได้ ผมว่ามันก็แฟร์พอสมควร แต่ถ้าจะให้เรายอมรับทุกอย่าง ต้องยอมอดทนทุกอย่าง ต้องถูกกระทบกระแทก ไม่ว่าจะเป็นสปอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นกรรมการที่เชิญใครมานั่งด่าเรา แล้ว 77 จังหวัดจะต้องมาตอด PD เราแล้วนางงามมันก็วนอยู่แบบนี้ เราก็เบื่อ เพราะว่าเวทีเรากว่าจะเทรนด์นางงามมาได้ ต่อให้เขาตกรอบ แต่เราก็ต้องใช้เวลาในการเทรนด์มีต้นทุนอยู่ด้วยกันเกือบเดือน พูดง่ายๆ ว่าเบื่อครับ”
ตั้งกฎห้าม PD ของตนไปเกี่ยวข้องเด็ดขาด
“ถามว่าทำไมถึงต้องเป็น 2 เวทีนี้ ก็เวทีอื่นเขาไม่ได้มีอะไร คือการเชิญเน็ตไอดอลคนนึงมาเป็นกรรมการ ควรจะพูดถึงการสัมภาษณ์นางงามที่จะให้ผ่านเข้ารอบ แต่กลับลุกขึ้นมาด่าเวทีผม ต่อให้ไม่พูดชื่อเวที 100 คน ล้านคนที่ฟังอยู่ก็รู้ว่าด่าใคร อันนี้ผมว่ามันไม่แฟร์ ควรที่จะมีการห้ามปราม ห้ามทำหรือสั่งอะไรใดๆ กลับเป็นที่สนุกสนานร่าเริงของคณะกรรมการและเจ้าของเวที เป็นอะไรเหรอ เห็นเราเป็นมิสแกรนด์บันเทิงศิลป์หรือยังไง บอกตรงๆ ว่าเราเบื่อ เราไม่อยากเกี่ยวข้อง ที่ออกมานี่บอกตรงๆ ว่าเบื่อ ไม่อยากยุ่ง ก็เท่านั้นเองครับ
อีกเวทีนึงก็ 77 จังหวัดเหมือนกัน และยังติดต่อ PD เราเยอะมาก เราเวียนหัว ถึงต้องออกกฎว่าห้ามมี PD เข้าไปเกี่ยวข้อง กว่าจะสร้าง PD ได้ทุกคนต้องเข้าใจนะครับว่ามิสแกรนด์ปีนี้ปีที่ 11 ระบบจังหวัดมีมา 8 ปี บางคนอยู่กับเรามาตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีนี้ อย่างเช่นภูเก็ต เชียงใหม่ ใครที่เก่งๆ ใครที่มีนางงามสวยๆ ใครที่มีฐานะหรือมีความคล่องตัวในการจัดการประกวดที่ดี แน่นอนมันก็เป็นเป้าหมายของทุกคน แต่อยากให้ทุกคนเคารพในสิ่งที่เราสร้าง ทุกคนสามารถสร้างด้วยตัวเองได้ เพราะฉะนั้นคุณต้องใช้ความสามารถในการสร้าง ไม่มีอะไรดีหรอกครับถ้าคุณจะไปเอาของใครเขามา แต่ว่าสร้างจะอยู่กับเราตลอดไป
ผมอยากให้ทุกคนเรียนรู้วัฒนธรรมแบบนี้บ้าง ไม่ใช่เห็นใครดีก็อยากจะดีกับเขาด้วย มันก็ไม่เหมาะ มันก็ทำให้เราหงุดหงิด พอเราหงุดหงิดปั๊บถ้าเราไม่ประกาศไป 77 คน 77 จังหวัดก็อาจจะมีบางคนไปช่วยด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม มันก็ไม่ถูก และเวทีเราคนละสไตล์ วัตถุประสงค์ก็ไม่ใช่ และเราก็เน้นว่าเวทีมิสแกรนด์เป็นเวทีเพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น มันก็ชัดเจนอยู่แล้วครับ”
บอกแต่ละเวทีต้องสร้างคนของตัวเองบ้าง
“ตัดสินใจไม่นานครับ รำคาญสักพักก็ตัดสินใจได้เลยครับ ต่อไปนี้เราจะไม่ยอมทนใดๆ อีกแล้ว เพราะเราทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาของเรานะเราอยู่ในกรอบของเราตั้งแต่หลังจากมิสยูนิเวิร์สเปลี่ยนเจ้าของ เราไม่ได้โฟกัสในการแข่งขันกับเวทีอื่นแล้ว เราจะปกป้องทรัพย์สมบัติของเราที่เป็นแกรนด์ทุกอย่าง ไม่ให้ใครมารบกวนเรามาก แต่ถ้าใครจะเข้ามาเราก็จะบอกว่าให้ทุกคนหยุดอยู่แค่นั้น เราจะไม่ให้ใครเอาวัฒนธรรมอะไรเข้ามาในแกรนด์ เพราะว่าแกรนด์เราต้องการเป็นแกรนด์จริงๆ จากนี้เป็นต้นไปเราจะดูแลตัวเองหนักขึ้นครับ
ถามว่ามีออกเป็นลายลักษณ์อักษรไหมสำหรับ PD และคนที่จะเข้ามาประกวด ตามหลักก็แค่นี้ ประกาศไปแล้วเรียบร้อยครับ PD กับนางงามก็ประกาศแล้ว ว่าถ้าใครผ่าน 2 เวทีนี้มา PD ก็ห้ามรับเข้ามาเป็นผู้สมัครในจังหวัดนั้นๆ ถ้าเห็นหรือรู้ก็ขอให้สละสิทธิ์ทันที แต่ถ้าตั้งใจ PD ก็มีความผิดในฐานะขาดคุณสมบัติในการให้ความร่วมมือ
ส่วน PD สามารถส่งนางงามไป 2 เวทีนั้นได้ไหม ก็ประกาศไปแล้วครับ ส่งนางงามก็ไม่ได้ครับ PD ก็ต้องเป็น PD ของเราด้วย ใครก็หวงสมบัติของใครครับ สร้างมาตั้งแต่ไหนแต่ไหน อย่างภูเก็ตสร้างมาตั้งแต่ยังไม่เคยคิดทำนางงาม แต่สุดท้ายก็เห็นไปหลายเวทีอยู่เหมือนกัน ก็พอแล้ว ให้เวลายืมใช้พอแล้ว ทุกคนต้องสร้างเองกันบ้างนะ สังคมมันจะได้ถาวรครับ”
เผยขอพักแค่ 2 เวทีนี้ ส่วนเวทีอื่นยังมาได้ปกติ
“ไปได้ครับ ศาลตายายก็มาได้ คือมาได้หมด ผมบอกแค่ 2 เวทีนี้ มิสอะไรก็มีเยอะแยะ แค่ 2 อันนี้ตอนนี้ขอพักก่อน เพราะด้วยเราไม่อยากให้มีตำหนิไปมากกว่านี้ เอาจริงๆ แล้วเหตุผลใหญ่คือปล่อยให้กรรมการมานั่งด่าผมอันนั้นก็ไม่ควรครับ ผมไม่กล้าทำกับใคร ถามว่าอันนั้นคือฟางเส้นสุดท้ายไหม ไม่ครับ ฟางเส้นแรกครับ (หัวเราะ) ฟางเส้นแรกที่รู้สึกไม่โอเค
อนาคตจะมีเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ด้วยไหม ไม่ครับ ถ้ายังไม่มีผลกระทบอะไร ก็ไม่ได้หมายถึงทุกอัน ก็ยังไปด้วยกันได้ ไม่มีปัญหาหรอกครับ นี่ก็ไม่ได้มีปัญหานะครับ แต่มีความรู้สึกว่าอะไรก็โดนไปหมด อย่างเช่นเจ้าของเวทีโทรศัพท์มาหาผม เปิดสปีกเกอร์ ผมก็โดน ไม่อยากเล่นอะไรแล้ว ไม่ได้โกรธเป็นส่วนบุคคลนะ แต่ว่าเราต้องรักษาเพอร์ฟอร์แมนซ์ของ MGI เพราะปีนี้เรามีแพลนที่จะเติบโตค่อนข้างเยอะครับ”
เผยตอนนี้ดำเนินการฟ้องไปบ้างแล้ว แต่ถ้ามีอีกก็ฟ้องอีก
“มันก็ไม่ได้พาดพิงถึงขนาดผิดกฎหมายหรอกครับ เราก็ทนฟังต่อไป ถ้าอะไรที่มันจะทำให้ผลประกอบการของเราจะต้องมีเกี่ยวข้อง เราก็ออกกฎกติกาไปเรื่อยๆ ก็เท่านั้นเอง แต่ส่วนคนที่ถึงขนาดเข้าข่ายหมิ่นเหม่ผิดกฎหมาย เราก็ดำเนินการอยู่แล้วในช่วงนี้ ซึ่งก็ต้องโดนอยู่แล้วครับ
ตอนนี้ได้แจ้งความแล้วเป็นที่เรียบร้อยในบางส่วน คือต้องบอกว่ามันมีทั้งต้องฟ้องที่โรงพัก และฟ้องที่ศาลด้วย ที่โรงพักตอนนี้ก็ได้มีการฟ้องไปในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนความคืบหน้าเดี๋ยวจะอัปเดตให้ เพราะว่าผมไม่ได้เป็นสไตล์ที่ฟ้องแล้วเอามาโชว์เพื่อให้คนต้องรู้ ผมรอตอนไปดำเนินการทางกฎหมายจริงๆ ครับ แต่ยืนยันว่าฟ้องแน่นอน และฟ้องแล้วด้วยครับ
เบื้องต้นฟ้องหมิ่นประมาท ก็ค่อนข้างชัดเจน เยอะมากในทุกเรื่อง และอย่างหมิ่นประมาทเพิ่มเติมก็ฟ้องอีก อย่างเช่นบอกว่าเกี่ยวข้องกับทอง 700 ล้าน ซึ่งวันนั้นก็พูดชัดเจนว่าองค์กรเราผิดจากคำพูดที่เรียกให้ทนายอีกคนนึงไปฟ้องมา มันก็เป็นการพูดที่ชัดเจน ด้วยกระบวนการของมันสมบูรณ์อยู่แล้ว เพิ่งเพิ่มเป็นโบนัสเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา คือถ้าจะเพิ่ม เพิ่มได้ทุกวันแหละครับ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะหยุดกันสักที ก็ไม่เป็นไรครับ สำหรับผมก็ไม่ได้ซีเรียส แต่เสียเวลาที่จะต้องไปศาลกัน”
บอกที่ทำเพื่อปกป้องทรัพย์สมบัติของตัวเองเท่านั้น
“ไม่ได้ว่าเราออกกฎแล้วอยากได้นางงามใหม่ หรือพลิกโฉมหรอกครับ แต่เราหวงในทรัพย์สินและทรัพย์สมบัติของเราที่เราต้องฟื้นฟูและพัฒนามันมา เราก็เลยอยากที่จะปกป้องเอาไว้แค่นั้นเองครับ และไม่อยากให้เกี่ยวข้องครับ คือนางงามของเราจะไปไหนก็ได้นะครับ ผมไม่ว่า แต่ถ้าไปแล้วก็ไม่ได้กลับมาเท่านั้นเองครับ อีกอย่างถ้าเวทีไหนจะออกกฎว่าไม่รับนางงามที่มาจากแกรนด์ก็ได้นะครับ มันก็เป็นสิทธิเสมอภาค ทุกคนทำได้ ใครคิดว่าคุณสมบัติข้อนึงก็คือต้องไม่เคยสมัครเวทีมิสแกรนด์มาก่อน ก็บอกได้ครับ ไม่มีปัญหา
ความหนักใจไม่ตกอยู่ที่ผู้ประกวดหรอกครับ ยุคนี้เขาต้องเลือก เขาอยากเป็นใคร เขาอยากอยู่กับใคร เขามีสิทธิในการเลือก เพราะฉะนั้นตอนนี้นางงามไม่ใช่แค่ว่าไปเดินเพื่อประกวด มันต้องใช้สมองในการคำนวณว่าอนาคตคืออะไรครับ เอาจริงๆ มันเป็นการให้เขาเลือกนะครับ ถ้าคิดว่าเป็นการจำกัดสิทธิ เราเป็นบริษัทเอกชน เราก็มีสิทธิที่จะเลือกว่าจะเอาหรือไม่เอาอะไรก็ได้ นี่เป็นสิทธิโดยสมบูรณ์ แต่ถ้าเราเป็นองค์กรของรัฐบาลมันก็อาจจะเป็นไปได้ครับ แต่นี่ด้วยหลักการของการทำงานเอกชน เราสามารถบอกคุณสมบัติได้ว่าเราจะไม่เอาอะไร เราจะเอาอะไร ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ”
บอกถ้าแฟนนางงามมองเรื่องสิทธิเสรีภาพในการสมัคร กฎของตนก็ถือว่าให้สิทธิเสรีภาพในการเลือกแล้ว
“ถามว่าแฟนนางงามบางส่วนมีความเห็นว่าข้อกำหนด 2 ข้อขัดแย้งกับสิทธิเสรีภาพในการสมัครเหรอ เข้าใจผิดแล้ว คำว่าสิทธิเสรีภาพคือสิทธิเสมอภาคในการที่คุณจะเลือก คุณจะเลือกเขาหรือเลือกเราก็ได้ อันนี้คือสิทธิเสรีภาพ เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวกับว่าคุณจะเลือกอะไรก็ได้ไปหมด มันไม่ได้ขนาดนั้นหรอกครับ เพราะว่าสิทธิมันก็ต้องเคารพในกฎกติกาของคนอื่นด้วย ถ้าคุณอยากมาทางเราก็มาเลย แต่ถ้าคุณอยากไปทางเขาก็ไปเลย หรือคุณอยากจะไปที่อื่นอีกตั้งเยอะตั้งแยะคุณก็ไปได้
แต่อันนี้ที่คนพูดกันผมว่าน่าจะเป็นแฟนคลับของฝั่งโน้นมากกว่าที่วิตกกังวลว่าอนาคตจะเป็นยังไง ก็เลยพยายามจะบอกว่าทำอย่างนี้มันไม่ถูก มันละเมิดสิทธิคนอื่น หรือจำกัดสิทธิคนอื่น ผมไม่เคยละเมิดใคร และผมไม่เคยจำกัดสิทธิใคร ทุกอย่างทำด้วยการชะลอไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น และเขาก็ยังคงมีสิทธิที่จะเลือกในการใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม เพียงแค่ว่าเราก็มีกรอบของเราว่าเราจะรับแบบนี้ ถ้าเขารู้แล้ว เราไม่ได้พูดย้อนหลัง เราพูดตั้งแต่วันนี้เดินต่อไปในอนาคต คนที่เคยประกวด 2 เวทีนี้มาแล้วในอดีตก่อนหน้านี้มาได้หมด ไม่ได้มีปัญหาเลย เวลาเราทำอะไรเราบอกปัจจุบันและอนาคต เราไม่ได้เอาอดีตมาด้วย เพราะฉะนั้นคุณก็สามารถแพลนชีวิตของคุณ ณ วันนี้และในอนาคตได้ครับ”
บอกยังไม่ถึงขั้นปลด PD ที่มีปัญหา แต่ขอคุยทั้งสองฝ่ายก่อน
“ทนายเจมส์ (นิติธร แก้วโต) เพิ่งส่งจดหมายมาที่ผม ผมได้ตรวจสอบ และให้เจ้าหน้าที่ตอบทนายเจมส์ไปแล้ว อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร คือได้คุยกับทาง PD เรียบร้อย ให้ไปเคลียร์ภายใน 2 วัน จะเคลียร์ด้วยวิธีไหนก็ตาม เช่น คืนเงินบางส่วน อะไรที่ทำไปแล้ว อะไรที่ยังไม่ทำ หรือทำไม่ได้ ให้ชี้แจงกันไป แต่จะต้องเคลียร์ ซึ่งผมได้ชี้แจงไปกับทางทนายเจมส์ผ่านจดหมาย ลงทะเบียนเรียบร้อยด้วย และได้แจ้งทางโทรศัพท์ด้วย
ทราบว่า ณ วันนี้เขามีการเคลียร์กันระดับหนึ่ง ซึ่งผมยังไม่ได้ถึงขั้นลงโทษต่อไป ผมไม่ได้หมายถึงว่าใครจะผิดหรือใครจะถูก ซึ่งต้องฟังความทั้ง 2 ฝ่าย แต่อย่างไรก็แล้วแต่ เรื่องนี้ตามหลักการ พื้นฐานไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางผมโดยตรง เป็นผู้ที่รับลิขสิทธิ์ในการไปจัดการ ซึ่งสัญญาทำกับ PD จังหวัดอยู่แล้ว แต่ผมก็ตรวจสอบให้ด้วยความเต็มใจ ว่าได้ทำจริงไหม ได้ละเมิด ได้ปฏิบัติจริงอย่างที่พูดหรือเปล่า
แต่ถ้ามีปัญหาอะไรมากไปกว่านี้ และถ้าพิสูจน์ได้จริงๆ ก็สามารถนำไปสู่การปลดได้ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ซึ่งทางทนายเจมส์ไม่ได้ต้องการอะไรจากผม เพียงแค่ให้อ่านและลงโทษ ซึ่งขั้นตอนการลงโทษ PD ซึ่งขั้นตอนแรก ผมต้องฟังความทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าคุณไม่ทำคุณก็เอาเงินไปคืนเขา แต่ถึงขนาดต้องปลดเลยทันที ตอนนี้ผมยังไม่ปลด ซึ่งถ้าไม่เคลียร์ ไม่ว่าจะเป็น PD คนไหน จังหวัดไหนก็ตาม โดนปลดอยู่แล้วครับ อย่างปีที่แล้วก็มีปลดอยู่คนหนึ่ง ก็ปล่อยให้นางงามต้องดูแลตัวเอง ก็มีแบล็กลิสต์กันเลย เป็นกฎตายตัวของเราอยู่แล้ว
ยืนยัน “อิงฟ้า วราหะ” กับแบรนด์พรีมายายังไร้ปัญหา
“พรีมายาเป็นธุรกิจลักษณะเครือข่าย แต่เราไม่ได้มีคอนแท็ก และอิงฟ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรีมายา แต่อิงฟ้าเกี่ยวข้องกับบูมบูม เป็นธุรกิจของเจ้าของพรีมายาเหมือนกัน ซึ่งรวมกันกับเพื่อน และแยกธุรกิจออกมา ซึ่งขายของทั่วไป เกี่ยวกับที่ปิดหน้าอก โดยเบื้องต้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ไม่ได้เกี่ยวกันในโครงสร้าง และไม่ได้สัมผัสอะไรซับซ้อน ไม่ได้มีอะไรเลย น้องก็ทำหน้าที่ปกติไม่ได้มีอะไร
ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรจริงๆ ครับ แต่เราสอบถามอะไรไป เขาบอกไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และใช้บัญชีคนละบัญชีกัน และผมได้เจอกับคุณเม วันคอนเสิร์ต วันที่ 28 ธันวาคม เขามาดูอิงฟ้า ผมก็ยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ผมจำไม่ได้ จำได้แค่ว่าเขาคือบูมบูม สัญญาตอนนี้ยังไม่ยกเลิกครับ ยังทำงานอยู่ สินค้าก็ยังขายอยู่ ถ้ามีอะไรคืบหน้า หรือมีอะไรที่ต้องให้ความร่วมมือ เราก็ยินดี แต่ว่าโดยเบื้องต้นแบรนด์ถูกแยกการตลาดออกมาอย่างชัดเจนครับ”
เผยคดีที่หงษ์ทองฟ้องตน 100 ล้าน คนฟ้องกลับหายตัวไม่ดำเนินการต่อ
“เราได้แจ้งความโรงพักแล้ว เราได้ทำสำนวนให้เข้าสู่ระบบศาลแพ่ง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีการยุติ เพราะเราเป็นผู้เสียหายโดยตรง เราไม่สามารถหยุดอยู่กลางทางได้ ส่วนคดี 100 ล้านที่ผมถูกฟ้อง เพิ่งได้รับแจ้งจาก สน.พระโขนง ว่าคนที่ไปฟ้องไม่ได้ติดต่อกับสน.เลย ทิ้งเลย ตามหลักการฟ้องที่สน. จะต้องมาให้สืบพยาน โจทก์ ถึงจะมาสืบพยานตัวผม พยานผู้ถูกสงสัย ผู้ถูกกล่าวหา
แต่เนื่องจากเรียกหลายครั้ง ก็ยังไม่มา เลยจะลัดขั้นตอนด้วยการที่ผมไปสืบพยาน ประมาณปลายเดือนนี้ครับ เพื่อเอาหลักฐานไปให้ เพื่อให้ตำรวจปิดคดี มี 2 ทาง คือ 1 จำหน่ายออกว่าไม่มีน้ำหนักในการถูกแจ้งความ ซึ่งผมจะแจ้งความกลับหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง 2 ถ้ามีน้ำหนักมากพอ อัยการจะส่งเรื่องฟ้องผม แต่ดูจากเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่น่าจะเกิดประการที่ 2 ได้
ถามว่าติดใจอะไรไหม ไม่ครับ ไม่ว่าจะเป็นร้านเพชร หมอดู หรือหงษ์ทอง และก็บิ๊กเอ็ม (กฤตฤทธิ์ บุตรพรม) ผมว่าทุกอย่างจำนนด้วยหลักฐาน เหลือเพียงแค่ฝากกองสลากกินแบ่งรัฐบาล DSI กองปราบ มากกว่านั้นจะตรวจสอบไหมครับ ว่าความจริงคืออะไร รางวัลที่ 1 มาจากไหน วิธีอะไร จริงหรือเปล่า อยากให้ลงลึกนิดหนึ่ง ผมไม่กลัวนะ ทุกคนคงเข้าใจผม ผมเป็นคนเอาจริง ผมเป็นนักรบ ไม่เคยตีใครก่อน แต่ใครตีผม ผมตีตาย เพราะฉะนั้นผมรบผมสู้ตายด้วยทุกวิถีทาง เพราะฉะนั้นเราต้องได้ทุกอย่างจริงๆ เราถึงจะกล้าเริ่มต้น ซึ่งเราพิสูจน์แล้วความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เราจะเอาความถูกต้องเป็นหลัก”