ปิดฉากเวทีการแข่งขันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการประกวด เดอะสตาร์ค้นฟ้าคว้าดาว 2022 โดยผู้ที่คว้าแชมป์และได้คะแนนโหวตจากคนไทยทั่วทั้งประเทศมากที่สุดตกเป็นของหนุ่มหล่อมากความสารถ “เจมส์ เจตพล กนิษฐชาต" งานนี้ทำเอาเจ้าตัวกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ โดยมี “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นมอบถ้วยรางวัล
โดยรางวัลสำหรับแชมป์ The Star 2022 ที่ "เจมส์ เจตพล" ได้รับกลับมีเพียงถ้วยรางวัล 1 ถ้วย ห้องพักคอนโดฯสำหรับพักอาศัย 1 ปี และได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดช่องวัน 31 และมีผลงานกับ ONE Music งานนี้ก็ไม่วายเจอดราม่าสนั่นโลกออนไลน์ เพราะหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า นี่คือรางวัลสำหรับผู้ที่ชนะจริงๆ เหรอ ทั้งที่ทางรายการก็น่าจะมีรายได้จากการโหวตไม่น้อย
ต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบัน “รายการประกวดร้องเพลง” เพิ่มจำนวนขึ้นมาก เรียกได้ว่าเกือบจะมีประจำในทุกช่อง
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็เพราะการไปออกรายการเหล่านี้คือการต่อยอดให้คนได้รู้จักตนเองมากขึ้น แต่กระนั้นเรื่องของรางวัลก็มีส่วนไม่น้อย ถือโอกาสนี้ไปดูกันว่าแต่ละเวทีมีรางวัลเท่าไหร่กันบ้าง
เริ่มกันที่ "เดอะแร็ปเปอร์" (The Rapper) เป็นรายการประกวดร้องเพลงแนวแร็ป และฮิปฮอป ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 โดยรายการดังกล่าวได้กระแสตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างมาก ขณะที่ผู้คว้าชัยจะมาจากคะแนนโหวตทางบ้าน โดยแชมป์รายการ The Rapper จะได้รับถ้วยแชมป์ The Rapper พร้อมเงินรางวัล 1 ล้านบาท
ขณะที่รายการ "The Voice Thailand เสียงจริง ตัวจริง" การแข่งขันประกอบด้วย 4 รอบ คือ The Blind Audition, Battle Phase, The Sing Off และ Live Show จนรอบสุดท้ายโค้ชแต่ละคนจะเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียว และผลตัดสินสุดท้ายจากการโหวตหลังการแสดงถ่ายทอดสดจะเป็นกำหนดว่าใครคือผู้ชนะ โดยผู้ที่คว้าตำแหน่งแชมป์ไปครอง จะได้รับรางวัลเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท เช่นกัน
The Golden Song เวทีเพลงเพราะ รายการประกวดร้องเพลงลูกกรุง ใช้เวลาแข่งขันประมาณ 3 เดือน รางวัลชนะเลิศสำหรับผู้ชนะคือเงินรางวัล 500,000 บาท
ไปที่แนวเพลงลูกทุ่งซึ่งมีเยอะมาก อาทิ รายการ "ชิงช้าสวรรค์" เป็นการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งระดับมัธยมศึกษา โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา 1 ล้านบาท ขณะที่รองแชมป์อันดับ 1 ได้รับทุนการศึกษา 500,000 บาท และ รองแชมป์อันดับ 2 ได้รับทุนการศึกษา 300,000 บาท ตามลำดับ
อีกหนึ่งรายการจากช่องเวิร์ค พอยท์ ที่ให้รางวัลไม้น้อยเลยก็คือ "ไมค์ทองคำ" โดยในช่วงแรกๆ นั้นผู้ชนะเลิศจะได้ทั้งเงินสดมูลค่า 1,000,000 บาท, รถยนต์กระบะมูลค่า 928,000 บาท, รถแทรกเตอร์ พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงมูลค่า 644,000 บาท ( รวมมูลค่า 2,572,000 บาท)
ขณะที่รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้เพียงเงินสดมูลค่า 100,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 และ 3 เงินสดมูลค่าคนละ 50,000 บาท ก่อนที่ในปีหลังๆ ทางรายการจะมีการปรับตัวรางวัลให้ใกล้เคียงกันมากขึ้น
ส่วนรายการที่เป็นประเภทเก็บเงินสะสมรางวัล ในส่วนของแกรมมี่เองก็มีรายการอย่าง "ดวลเพลงชิงทุน" โดยที่ได้แชมป์สูงสุดก็คือหนุ่ม “นนท์ ชานนท์ คำอ่อน” ที่ได้แชมป์ 45 สมัยเเละคว้าเงินทุนสะสมทั้งสิ้น 1,160,000 บาท
แต่ที่ถือเป็นรางวัลสูงสุดในการประกวดร้องเพลงเท่าที่มีมาก็เห็นจะเป็นในส่วนของ “ไมค์หมดหนี้ เสี่ยงโชค” ออกอากาศทางช่อง “เวิร์คพอยท์ ทีวี” ซึ่งผู้ที่ครองแชมป์สูงสุดก็คือ "ไรอัล กาจบัณฑิต" แชมป์ 200 สมัย พร้อมเงินรางวัลสะสมจำนวน 5,436,889 บาท (ไม่รวมที่เจ้าตัวยกให้กับคู่แข่งอีกทั้งหมด 1,406,377 บาท)
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าบทสรุปท้าย สาเหตุที่รายการประกวดร้องเพลงยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ชม เนื่องจากเพลงเป็นสื่อที่เข้าถึงง่าย อีกทั้งผู้เข้าประกวดร้องเพลง ก็ใช้ตรงนี้เพื่อเป็นบันไดต่อยอดในวงการบันเทิง ที่ไม่ใช่เพียงแค่หวังเงินทองและถ้วยรางวัลเท่านั้น