"บียอนเซ่" กลับสู่เวทีอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 21 มกราคม 2023 ในงานเปิดตัว Atlantis the Royal รีสอร์ทสุดหรูแห่งใหม่ในดูไบ นักร้องสาวได้รับเงิน 35 ล้านดอลลาร์สำหรับการแสดงหนึ่งชั่วโมงของเธอ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน
ข่าวบอกว่าการแสดงชุดนี้ประกอบด้วยเพลง 19 เพลง มีทั้งผลงานของเธอเอง, การหยิบเอา At Last งานคลาสสิกของ เอ็ตตา เจมส์ มาร้อง และยังมีเพลง Brown Skin Girl จากเพลงประกอบภาพยนตร์ของ บียอนเซ่ เอง รวมถึงเพลงจาก The Lion King ฉบับรีเมคของดิสนีย์ในปี 2019 ด้วย
โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นการแสดงแบบเอ็กคลูซีฟที่ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นแขกผู้มีเกียรติของทางรีสอร์ท ซึ่งรวมถึงนางแบบดังอย่าง เคนดัลล์ เจนเนอร์, ดาราสาว เลติเทีย ไรท์ จากภาพยนตร์เรื่อง Black Panther และ อาเมียร์ ข่าน นักมวยชื่อดังชาวอังกฤษ และคนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม คอนเสิร์ตดังกล่าวทำให้ตัวของ บียอนเซ ถูกวิจารณ์ไม่น้อย กับการตัดสินใจมาแสดงที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีกฏหมายต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศ ทั้ง ๆ ที่ตัวของ บียอนเซ่ มีจุดยืนสนับสนุนชุมชน LGBTQ มาอย่างยาวนาน
โดยในปี 2019 บียอนเซ่ได้รับรางวัล Vanguard Award จากงาน GLAAD (Gay & Lesbian Alliance Against Defamation) จากความพยายามของเธอในการเรียกร้องให้สาธารณะยอมรับในกลุ่มคน LGBTQ อย่างจริงจัง
นอกจากอัลบั้ม Renaissance ในปี 2022 ของเธอก็โด่งดังในฐานะเป็นเหมือนจดหมายรักถึงผู้บุกเบิกเพลงแดนซ์ของคนผิวดำ และชาวเกย์ เธอยังเคยประกาศถึงขั้นที่ว่า “สิทธิของ LGBTQ คือสิทธิมนุษยชน”
การมาแสดงคอนเสิร์ตพิเศษในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งการรักร่วมเพศเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และถือเป็นอาชญากรรมที่มีโทษถึงประหารชีวิต จึงเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนแปลกใจ
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่การแสดงที่จ่ายค่าตัวให้กับเธอ 35 ล้านเหรียญ หรือ 1,147 ล้านบาทครั้งนี้ จะไม่มีเพลงจากอัลบั้ม Renaissance ที่พูดถึงกลุ่มคนรักเพศเดียวกันอย่างชัดเจนเลย แม้ว่าซิงเกิลของอัลบั้มอย่าง Break My Soul จะเป็นเพลงฮิตล่าสุด และโด่งดังที่สุดในระยะหลังของเธอก็ตาม
โดยการแสดงนี้เกิดขึ้นหลังกระแสวิจารณ์แข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 ที่ กาตาร์ ซึ่งมีกฏหมายต่อต้านกลุ่มคน LGBTQ และทุ่มเงินอย่างหนักในการดึงคนดังระดับโลกมาช่วยโปรโมตเช่นเดียวกัน
