xs
xsm
sm
md
lg

สรุปดรามา "ดี" ของ "ดู๋ สัญญา" vs "เก่ง" ของ "เพชร กรุณพล"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เป็นประเด็นร้อนในโลกทวิตเตอร์เลยทีเดียวหลังจากที่นักแสดง "เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ" ที่ช่วงหลังๆ หันมาเล่นการเมืองแบบเต็มตัวได้มีการทวิตข้อความเห็นต่างจากดารา พิธีกรรุ่นพี่ 'ดู๋ สัญญา คุณากร'

โดยเรื่องของเรื่องเกิดขึ้นมาจากการที่ก่อนหน้าทางด้านของ "ดู๋ สัญญา" เคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ 'Thairath Talk Live' ขณะที่ทางไทยรัฐทีวี ได้มีการนำเนื้อหาส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์มาเผยแพร่โปรโมตบนสังคมออนไลน์ ส่วนหนึ่งระบุว่า...

"...คุณต้องสร้างคนดี เพราะคนดีเท่านั้นที่จะได้รับการตอบรับต่อทุกงานที่ทำ สมมติว่าคุณอยู่ที่ทำงาน คุณจะสังเกตเห็นคำพูด เฮ้ย คนนี้เป็นคนดี ซึ่งนั่นคือคนที่คุณต้องการอยากทำงานด้วย อยากอยู่ด้วย ไม่ใช่เพราะไอ้นี่มันเก่ง เลยอยากทำงานด้วยกันกับมัน ไม่ มันเก่งแต่เฮงซวย นิสัยไม่ดี คุณต้องการอยู่กับคนดี"

"จริง ๆ มนุษย์ต้องการอยู่กับคนดี แต่คุณกำลังพยายามทำให้ทุกคนเป็นคนเก่ง ถ้าเป็นของ ๆ คุณ แต่ความจริงคนเก่งไม่ได้เป็นที่ต้องการร้อยเปอร์เซ็นเท่ากับคนดี"

ก่อนที่ข้อความ 'สังคมต้องการคนดีมากกว่าคนเก่ง - ข้อคิดจากดู๋ สัญญา' ที่ว่าจะถูกเผยแพร่ผ่านสังคมออนไลน์มากมาย โดยเฉพาะในโลกทวิตเตอร์ และมีคนแสดงความเห็นกันหลากหลาย

หนึ่งในนั้นก็คือทางด้านของ "เพชร กรุณพล"อดีตผู้สมัครจาก "พรรคก้าวไกล" ที่ระบุว่า..."...ขอเห็นต่างกับพี่ดู๋นะครับ คนดีมันไม่มีเครื่องวัดครับ วันนี้ดีพรุ่งนี้เลวก็มีถมไป ดีต่อหน้าลับหลังโคตรชั่วก็ไม่น้อย เราจึงต้องการคนเก่งมาทำงาน มาแก้ปัญหา และมาสร้างวิธีที่สามารถตรวจสอบทั้งคนดีและคนชั่ว ไม่ให้ทุจริต ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนกับคนอื่นครับ"

ไม่นานนักข้อความดังกล่าวก็มีคนเข้ามาชมมากกว่าสองแสนวิว ยอดรีทวิตเกิน 6,000 ครั้ง

โดยหลายคนในสังคมออนไลน์ก็มีทั้งที่สนับสนุนความคิดดังกล่าวและอีกจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย อาทิ จะดีมากถ้าได้ทั้งคนเก่งและคนดี, แก่แล้วคุณยังแยกความดีความชั่วไม่ออกอีกหรือ, เกี่ยวอะไรกับการที่จะต้องทำให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นคนดีไม่ดี นั่นมันเค้าเรียกสร้างภาพ, ความดีกับคนสร้างภาพเสแสร้งว่าเป็นคนดีมันต่างกันนะ, คุณเพชรไม่เคยได้ยินคำสอนเรื่องหิริโอตตัปปะ(ความละอายต่อบาป)หรือครับ

ถ้าคิดแบบนี้ประเทศฉิบหายแน่, ตกลงพวกคุณเป็นอะไรกับคำว่า "ดี" นักหนา ประเทศนี้ใครจะพูดคำนี้ไม่ได้เลยเป็นต้องหาเรื่องมาแซะตลอด, ปากบอกคนดีไม่มีมาตรวัดแต่สุดท้ายก็บอกอยากให้ตรวจสอบทั้งคนดีและคนชั่ว อ้าว ตกลงคนดี คนไม่ดี มันมีหรือไม่มีกันแน่ ฯลฯ

ขณะที่ทางด้านของ "โจ มณฑานี ตันติสุข" นักจัดรายการวิทยุ-โทรทัศน์ และนักเขียนดังเองก็ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกันโดยระบุว่าจริงๆ แล้วการ “ปั่น หรือ spin” มายาคติว่า “ความดีไม่มีจริง ความดีไม่มีเครื่องวัด ความดีขึ้นอยู่กับคนมอง” นั้นมีมานานแล้วโดยเฉพาะในแวดวงการเมืองยุคอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

ทั้งนี้จุดหมายก็เพื่อให้เยาวชนคนหนุ่มคนสาวเกลียดทุกอย่าง ทุกคน ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นคนดี มีแนวคิดขอแค่ว่าทำทุกอย่างเพียงแค่ให้ได้มาซึ่งเงินตราความสะดวกสบายซึ่งนั่นจะง่ายต่อการชักจูงและการทำเรื่องเลวๆ ของตนเองนั่นเอง (คลิกไปที่โพสต์ https://tinyurl.com/ywcjahs6)





กำลังโหลดความคิดเห็น