xs
xsm
sm
md
lg

“หน่อย บุษกร” เผยมุมสามีที่อยากหยุมหัว! เลี้ยงลูกแบบเพื่อน ไม่หวังต้องดีที่สุด แค่มีความสุขและไม่เบียดเบียนคนอื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หน่อย บุษกร” เลี้ยงลูกแบบเพื่อน ไม่ดุมาก แต่ก็ไม่ปล่อย เพราะยังเป็นวัยก้ำกึ่ง เริ่มโตเป็นหนุ่มไม่อ้อนแม่นอกบ้าน เล่าคนโตเหมือนพ่อ คนเล็กเหมือนแม่ สอนเหมือนคนทั่วไป ไม่ต้องใช้ชีวิตเพื่อรักษาหน้าพ่อแม่ ไม่หวังต้องดีที่สุด แค่ให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำ พร้อมซัปพอร์ตทุกอย่าง แต่ต้องไม่เบียดเบียนคนอื่น รักแฮปปี้ 23 ปียังหวานอยู่ มีมุมอยากหยุมหัว แต่ก็มีเรื่องที่คนอื่นอิจฉา

เรียกว่าไปไหนไปกัน ทำอะไรก็ทำด้วยกันตลอด สำหรับครอบครัววงศ์พัวพันธ์ ของคุณแม่ “หน่อย บุษกร” และคุณพ่อ “เคน ธีรเดช” ที่มักจะมีกิจกรรมร่วมกันกับลูกชาย “น้องคุณ-น้องจุน” เสมอ จนหลายคนแอบอิจฉา ในความสัมพันธ์ที่ดีงามของครอบครัว ล่าสุดมีโอกาสได้นั่งคุยกับคุณแม่หน่อย เจ้าตัวก็ได้เผยถึงบางเรื่องบางมุม ว่ามีพาร์ตที่อยากหยุมหัวสามีเหมือนกัน ส่วนสองหนุ่มที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ก็ไม่ค่อยมีเรื่องให้ปวดหัวเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ไปคาดหวังอะไรกับลูก

“ยังไปไหนไปกัน ยังเป็นอย่างนั้น แม้ว่าเขาจะโตแล้ว ก็เข้าใจเขานะ เวลาอยู่โรงเรียนเขาก็จะเก๊กๆ คีฟคูล แต่พอเวลาอยู่ในรถ แม่ขอหอมหน่อย เขาก็จะยื่นหน้ามาให้ได้ แต่ถ้าอยู่โรงเรียนนะ มีวันหนึ่งพาเขาไปซื้อของ เราบอกขอจับแขนหน่อย มันเอามือล้วงกระเป๋า ไอ้ตัวเล็กเอามือล้วงกระเป๋าเลย บอกมือล้วงกระเป๋าอยู่ เขาก็จะอายๆ เพราะว่าเขาโตแล้ว เราถึงได้บอกว่าวัยรุ่นมันเป็นวัยที่น่าเป็นห่วง นอกจากวัยเด็กแล้ว เราคุยกับเพื่อนๆ หลายๆ คน ว่าเป็นอีกจุดที่สามารถเทิร์นไปเป็นอย่างอื่นได้ ติดเพื่อน ติดอะไรก็ได้ เราก็ต้องเหมือนเป็นเพื่อน ดุมากไม่ได้ ไม่ปล่อยมากมันก็ไม่ดี มันต้องกลางๆ ก้ำกึ่ง บางทีเราดุนางก็จะแบบไม่อยากจะเข้าหาเรา พี่เคนเขาก็พยายามเลี้ยงให้เป็นเพื่อน เขาจะชอบเล่นเป็นเพื่อนกับลูก ลูกมีอะไรก็เล่าให้เขาฟัง เขาก็จะมาบอกว่า แม่ๆ เวลาลูกมาเล่าอะไรให้ฟัง แม่อย่าไปดุเขาเลย ต้องฟังเขาไปก่อน เดี๋ยวเขาจะไม่เล่าอะไรให้เราฟังอีก”

เลี้ยงลูกแบบเพื่อน โดยเป็นฝ่ายดุสม่ำเสมอ ต่างจาก “เคน” ที่ดูเล่นๆ แต่ถ้าดุจะดุกว่า จนลูกกลัว
“จริงๆ ก็เคยคุยว่าจะเลี้ยงแบบนี้แหละ คือจะปล่อยเหมือนเป็นเพื่อน จะไม่เป็นพ่อแม่ที่อะไรก็ไม่ได้ ก็จะพยายามเลี้ยงเป็นเพื่อนกัน แต่เราเป็นฝ่ายดุสม่ำเสมอ ดุตลอด แต่พี่เคนเขาจะเหมือนเล่นๆ แต่ว่าวันไหนที่เขาดุ เขาดุมากกว่าเรานะ ลูกจะกลัวเขา เขาก็จะเลี้ยงเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว เวลาไปไหน เขาจะพาลูกไปเล่นสวนสาธารณะ เราก็จะไปเดินช้อปปิ้ง แม่ก็จะอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้บางทีก็จะเหมือนไปช่วยแม่ถือของ ให้เขาโต ได้เรียนรู้ ได้อะไร”

ลูกๆ เริ่มโต ไม่อ้อนแม่เวลาอยู่นอกบ้านแล้ว
“ตอนนี้คนเล็กก็เริ่มโตแล้ว ก่อนนี้คนเล็กยังติดแม่ ยังเกาะแขนแม่ แต่ตอนนี้เขาอายุ 12 ก็จะเริ่มเป็นหนุ่ม เสียงแตกๆ หน่อย นางก็จะอายๆ ทำตัวทิ้งห่างแม่นิดหนึ่ง แต่พออยู่ในห้องก็ยังเป็นลูกคนเล็ก”

ไม่ค่อยมีเรื่องปวดหัว เพราะไม่ได้คาดหวังกับลูก
“เรื่องปวดหัวเอาจริงๆ ไม่นะ เพราะเราก็ไม่ได้คาดหวังว่าลูกจะเรียนเก่ง จะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วลูกเราโดยรวม มันก็ไม่ได้มีอะไรให้เราต้องเป็นห่วง เขาไม่มาเรียกร้อง ว่าอยากทำนั่นทำนี่ อยากเอาอันนั้น ไม่มี เราจะคอยบอกมากกว่า ว่าถ้าลูกสนใจเรียนอะไรเพิ่มเติมก็บอกนะ บางทีตัวเล็กชอบดูติ๊กต๊อกบ่อยๆ เราก็บอกว่าทำไมวิธีการพูดมันเหมือนเสียงในติ๊กต๊อกเลย บางทีมันเป็นไปแบบไม่รู้ เราก็จะบอกเขา ว่าน้องเริ่มพูดเหมือนคนนั้นในติ๊กต๊อกแล้วนะ”

ไม่ให้เล่นโทรศัพท์เยอะ ถ้าอยากเล่นเยอะก็ให้เลยหนึ่งวัน แต่เป็นหนึ่งวันต่ออาทิตย์
"ก็บอกเขาว่าลูกรู้หรือเปล่า ว่าลูกไปกดสนใจอะไร มันก็จะขึ้นมาแบบนั้น เขาก็รู้แหละ เขาก็ครับๆ พี่เคนจะให้เวลา ว่าถ้าตอนนี้อยู่กับโทรศัพท์เยอะไป ถ้าอยากจะดูแบบทั้งวัน ก็ให้วันเดียวเลยในหนึ่งอาทิตย์ แต่ถ้าจะเป็นเวลาทีละนิด ก็จะกระจาย แต่ถ้าวันธรรมดาจะไม่ให้เลย จะให้ดูแค่เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น เขาก็จะหากิจกรรมให้ลูก ชอบให้ลูกไปออกเอาต์ดอร์”

ไม่ได้เลี้ยงลูกเพื่อมารักษาหน้าพ่อแม่ แค่สอนให้เป็นคนดีมีน้ำใจ และเคารพกฎกติกา ไม่มีอภิสิทธิ์ใดเหนือคนอื่น
“เราเหมือนทั่วไป ก็บอกเขาเรื่องการมีน้ำใจ การซื่อสัตย์ และการเป็นคนดี ให้มันเป็นพื้นฐาน ไม่ได้บอกว่าต้องระวังให้พ่อแม่ด้วยนะ เราแค่บอกว่าบางทีเราต้องเป็นไปตามกฎกติกานะ เราไม่ได้มีอภิสิทธิ์ใดๆ การเดินทางบ่อยก็อาจจะช่วยได้ เพราะเราต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศ แล้วแต่เขาตั้งกฎยังไง เราก็จะต้องทำตามกฎเขา เราไม่ได้มีอภิสิทธิ์ แต่ก็โชคดีนะ ครูเคยบอกว่าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงมาดีจังเลยนะคะ พาน้องไปทัศนศึกษา น้องไม่ใช้เงิน บอกให้ลองเลือกของชิ้นหนึ่ง ไปทัศนศึกษาจะได้เป็นที่ระลึก แต่เขาก็บอกว่าไม่เอาไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบก็จะไม่ซื้อ เราก็เลยบอกว่า อ๋อ อันนั้นน่าจะได้จากพ่อ เอาจริงๆ ไม่ได้สอนขนาดนั้น เขาจะรู้ว่าถ้าซื้อมาเขาก็จะไม่ได้ใช้ คือเขาก็รู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องเหมือนใคร เขาก็จะรู้สึกว่าเพื่อนมี เขาไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เราไม่จำเป็นต้องมีเหมือนกันทุกคน เขาจะรู้ตัวเขา ว่าเขาไม่ชอบก็คือไม่ซื้อ”

ลูกคนโตเหมือนพ่อ คนเล็กเหมือนแม่
“คนโตนิสัยเหมือนพี่เคน เขาจะมีโลกส่วนตัว เขาก็อยู่ของ เขาจะไม่ค่อยพูด ทุกคนจะบอกว่า ทำไมน้องคุณ ไม่ไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อน คือเขาเป็นแบบนี้ คือไปได้ แต่เขาจะไปนั่งอยู่คนเดียวไปอยู่ของเขา แต่คนเล็กก็จะเหมือนเรา เขาจะสามารถเข้ากับทุกคนได้ แต่น้องคุณเขาก็มีเพื่อนสนิท แต่เขาไม่ใช่เป็นคนที่แบบ ไปเจอสังคม ไปอยู่กับคนเยอะๆ แต่ในขณะที่ตัวเล็กเขาสามารถ เขาทำได้”

เป็นวัยรุ่นที่ชอบเด็ก เลี้ยงน้องได้แบบไม่รำคาญ
“ใช่ๆ เขาไม่แกล้งของน้อง เขาจะเป็นคนที่ดูแลน้องได้ อย่างสายฟ้า-พายุ นางก็จะสามารถเล่นกับน้องได้ คือถ้าเด็กในวัยที่เขาเป็นวัยรุ่น เขาก็จะแบบเขาอยู่คนเดียวได้ อย่ามายุ่งกับเขา แต่กลายเป็นว่าคุณกับจุนเขาไม่ได้รำคาญน้อง อย่างตัวเล็กยิ่งชอบจับแก้มแอบิเกล ตั้งแต่พายุก็ชอบไปกดแก้มยุ เอ็นดูน้อง”

ไม่วางแผนอนาคตให้ลูก ให้ทำในสิ่งที่อยากทำ แค่ต้องไม่เบียดเบียนคนอื่น
“ก็ให้เขาเรียนไปตามที่เขาอยากจะเป็น อยากจะทำ เราก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าจะเป็นยังไงนะ แต่อยากจะให้เขาเป็นเด็กที่แฮปปี้กับชีวิต มีความสุขไป ไม่ได้จะคาดหวังว่าลูกจะต้องเก่งที่สุด ดีที่สุด หรือทำอะไรให้มันที่สุด เอาให้เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำ แค่นั้นแหละ ในขณะเดียวกันก็คือต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่นด้วยนะ ไม่ได้ไปเอารัดเอาเปรียบคนอื่นเขา”

เรื่องความชอบยังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
“คือเขาจะค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะ แต่คุณจะเป็นคนที่ชอบกีฬาทุกชนิด เขาสามารถที่จะไปเล่นได้ ส่วนตัวเล็กชอบดู ชอบก๊อบปี้ ก๊อบปี้ท่าทางคนโน้นคนนี้ (อาจจะมาสายละคร?) ก๊อบปี้ท่าเต้น แต่เวลาให้ทำจะไม่ทำนะ จะนั่งนิ่งๆ จะอาย”

ถ้าอยากเข้าวงการก็ไม่กีดกัน พร้อมซัปพอร์ตทุกอย่าง
“ใช่ ไม่ได้กีดกัน ก็เป็นอาชีพหนึ่งที่อยากทำก็ทำได้ พร้อมซัปพอร์ตทุกเรื่อง ไม่ว่าเขาจะทำหรือไม่ทำ เพราะว่าสุดท้ายแล้วก็เป็นสิ่งที่เขาเลือก”

รัก 23 ปียังหวานเหมือนเดิม
“ตอนนี้น่าจะ 22 - 23 ปี ลงรูปเก่าๆ เยอะ เพราะมันเป็นช่วงย้ายบ้านไง ก็จะเจอรูปเก่าๆ สมัยที่เขากำลังฮิตฟิล์ม เรามีมาแล้ว โพลารอยด์เรามีมาแล้ว (หัวเราะ) เราทำมาก่อนแล้วหมดแล้ว เห็นแล้วก็มาลง มันตลกดี คิดถึงสมัยก่อน ถามว่าหวานเหมือนเดิมไหม มันก็เป็นเรื่องปกติแหละ ตีกันก็มี องลงก็มี แต่มันอยู่บ้านเดียวกันน่ะ มันก็.. (ก็เข้าใจกันทุกอย่างแล้ว?) ใช่ๆ สุดท้ายก็อยู่กันไป มันก็เป็นเพื่อนกันไปแล้วล่ะตอนนี้ เป็นคนที่ไว้ใจที่สุด อยู่ด้วยกันมันก็มีบ้าง เพื่อนกันมันก็ตีกัน พี่น้องก็ตีกัน พ่อแม่ยังทะเลาะกันเลย เป็นรสชาติชีวิต ดีไปหมดมันก็ไม่ใช่หรอก ต้องมีให้เราครบรส”

มีหลายพาร์ตของสามี ที่อยากจะหยุมหัว
“หลายพาร์ตเลย ทำไมพูดไม่รู้เรื่องอย่างนี้ บางทีเราบอกว่าอย่าเล่นอะไรให้มันผาดโผน (เหมือนมีลูกสามคน?) ใช่ อย่างงั้นเลย คนโตเหมือนเป็นคนแรกเลยตอนนี้ ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง บอกอย่ายังทำเลย (หัวเราะ) ชอบเล่นอะไรแอดเวนเจอร์ ก็บอกว่าเธอรักษาสภาพนิดหนึ่ง”

ทะเลาะกันแค่ไหน ก็ไม่เคยคิดจะปล่อยมือ
ทะเลาะแค่ไหนก็ไม่อยากจะปล่อยมือกันหรอก ก็ต้องอยู่กันไปแบบนี้แหละ คนเรามันก็ไม่ได้จะเพอร์เฟกต์ขนาดนั้น มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ จริงๆ นะ ไม่ว่าคนไหนจะดีที่สุดแล้ว มันก็จะต้องมีมุมอะไรที่แบบ…คือบางทีมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา แต่ในมุมเรา เราอยากจะหยุมหัว เราก็เลยคิดว่าอย่าเอาอารมณ์ของเราไปตัดสิน ปล่อยเขาไป เดี๋ยวเขารู้เอง”

ไม่ค่อยมีเรื่องซีเรียส ที่ต้องมานั่งปรับนั่งเคลียร์กัน
“ไม่ค่อย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องไร้สาระมากกว่า ไม่ค่อยมีเรื่องใหญ่ๆ ที่ต้องมานั่งตัดสินใจกัน”

เรื่องในครอบครัวที่ทำให้คนอิจฉา คงเป็นการที่พ่อชอบเล่นกับลูก และทำอะไรด้วยตัวเองโดยภรรยาไม่ต้องจัดแจง
“น่าจะเป็นเพราะพี่เคนเขาเลี้ยงเด็ก เขาชอบเล่นกับเด็ก ชอบเล่นกับลูก ทุกคนจะบอกว่าดีจังเลยเขาเล่นกับลูก แล้วเขาก็เป็นคนที่จัดกระเป๋าเอง เขาดูแลเองเราไม่ต้องทำอะไรเลย อย่างเช่นเวลาที่ไปเดินทาง พี่เคนจะดูแลตัวเอง เขาจะใส่อะไรจัดอะไร เขาก็จะบอกลูกว่าลูกไปจัดกระเป๋าเองเลยนะ จัดของตัวเองให้ดี บางคนก็จะบอกว่าที่บ้านเรา เราต้องจัดให้ทุกคนเลย แล้วต้องบอกอีกนะ ว่าเสื้ออยู่ตรงนี้ๆ แต่บ้านเราไม่เห็นจะต้องทำอะไรเลย เราก็อ้าวเหรอ นี่เป็นมุมดีเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย (หัวเราะ)”

มีแอบยุ่งเรื่องการแต่งตัวลูกบ้าง เพราะบางทีก็ชิลเกินไป
"เอาจริงๆ ก็มีบ้าง ที่เด็กมันจะใส่อะไรย้วยๆ สบายๆ สมมติไปกินข้าว ก็จะใส่ย้วยๆ แม่ก็จะบอกออกไปข้างนอกนะลูก ก็จะย้อนเราว่าอันนี้ออกไปไม่ได้เหรอครับ ก็ได้แต่เดี๋ยวเราไปข้างนอกไง ไม่เป็นไรใส่ได้ครับ เราก็บอกอย่าเลยลูก เดี๋ยวเราจะต้องไปที่ที่สุภาพนิดหนึ่ง นางก็ถอนหายใจใส่ เราก็เดี๋ยวนะ มาถอนหายใจใส่ฉันทำไม มันก็จะเป็นเรื่องอะไรแบบนี้ แต่ไม่ได้ไปบังคับอะไรขนาดนั้น ก็เป็นไปตามกาลเทศะมากกว่า แล้วอย่างตัวเล็กนะ ชอบใส่รองเท้าแตะ เขาก็ย้อนว่าทำไมแม่ยังใส่เลย แต่แม่ก็ไม่ได้ใส่ไปทุกที ก็จะมีเรื่องจุ๊กจิ๊ก ก็ต้องศึกษาเรียนรู้ไปเรื่อยๆ มันไม่จบหรอก”















กำลังโหลดความคิดเห็น