“เอรีน ไตรโทน” เล่าประสบการณ์กว่าจะมาเป็นนักร้องแบบทุกวันนี้ ผ่านการร้องได้มา 20 ปี ถูกเจอด้อยค่าแฉพฤติกรรมส่งต่อเป็นทอดๆ ค่ายยักษ์ ครูเพลง ขอกินตับเพื่อแลกกับการเป็นศิลปิน บอกทุกวันนี้บุคคลเหล่านั้นยังทำงานวงการเพลง บางคนเสียชีวิตไปแล้วก็มี
พักหลังๆ วงการเพลงลูกทุ่งมักจะมีข่าวฉาวครูเพลงแอบกินตับเด็กบ่อยๆ ล่าสุดก็มีอักษรย่อนักร้องลูกทุ่งสาว อ.อ่าง ถูกค่ายเพลงยักษ์ใหญ่และครูเพลง ขอกินตับก่อนทำเพลงให้ โดย “เอรีน ไตรโทน” ก็ยอมออกมาเปิดใจเล่าประสบการณ์ตนเองทั้งน้ำตาตลอดระยะ 20 ปี กว่าจะได้เป็นนักร้อง
“เส้นทางของการก้าวสู่การเป็นนักร้องมันไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ถูกด้อยค่าในชีวิตลูกผู้หญิงต้องเสียตัวให้กับเจ้าของค่ายหรือแม้แต่ครูเพลงก่อนถึงจะออกอัลบั้มให้ แย่ไปกว่านั้นบุคคลเหล่านี้มักจะมีพฤติกรรมส่งต่อกันเป็นทอดๆ โดยต้องยอมนอนกับเจ้าของค่ายก่อน ส่งต่อมาก็ครูเพลง แล้วต่อมาก็โปรดิวเซอร์ กว่าจะได้ทำอัลบั้มศิลปิน บางคนถึงกับท้อ
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เอรีนเจออะไรมาเยอะ ไม่คิดว่าวงการนี้มันจะสกปรก ต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกคนนะคะ บางค่ายก็ดี บางค่ายก็ไม่ดี แต่เอรีนเจอแต่ค่ายหรือผู้ใหญ่ที่จ้องจะกินเด็กก่อนปั้น นักร้องรุ่นเดียวกันกับเอรีนสมัยนั้นบางคนก็ต้องยอมแลกไปนอนกับผู้ใหญ่ ซึ่งเอรีนจะปฏิเสธตลอดเพราะว่ามันไม่จำเปฺ็นต้องทำขนาดนั้น ถ้าต้องยอมนอนกับใครหลายคน เอรีนขอออกนอกวงการดีกว่า ไม่ต้องเป็นนักร้องก็ได้
คนในวงการลูกทุ่งรู้กันดีอยู่แล้วว่าใครบ้างที่มีพฤติกรรมแบบนี้ บางคนอาจเป็นข่าว บางคนอาจไม่เป็นข่าว ที่เอรีนออกมาพูดเรื่องนี้ก็เพราะว่าอยากให้สาวๆ ที่มีฝันอยากเป็นนักร้อง ความจริงไม่จำเป็นต้องยอมแบบนั้นก็ได้ ยิ่งสมัยนี้ทำเพลงเองง่าย คนทำเพลงก็เยอะ ไม่จำเป็นต้องหิ้วตัวเองไปอยู่ค่ายใหญ่หรือคนทำเพลงดังๆ เพราะอาจจะต้องเสียเนื้อเสียตัวมันไม่คุ้ม
ที่แรงสุดของเอรีนคือปิดประตูเพื่อที่จะปล้ำเราเลย ตอนนั้นเอรีนขอร้องทั้งกราบทั้งไหว้ เขาก็ล็อกตัวเราไม่ให้ออกจากห้อง จนถึงขั้นเราต้องเอามีดจ่อคอตัวเอง ถ้าปล้ำเราอีกเราจะฆ่าตัวตาย ตอนนั้นเอรีนยอมแลกด้วยชีวิตจริงๆ นะ ด้วยความเป็นเด็ก เราไม่กล้าแจ้งเลยค่ะ กลัวพ่อแม่จะรู้ กลัวเขาไม่สบายใจคิดมาก กลัวอาย สงสารพ่อแม่ ไม่อยากให้ใครรู้ ตรงๆ คือกลัวไปหมดทุกอย่าง แค่เอาตัวเองรอดจากวงจรอุบาทว์ออกมาได้ก็เพียงพอแล้ว"
เป็นเด็กเรียน ซื่อๆ ไม่เคยให้ท่า ยั่วยวนใคร บอกทุกวันนี้บุคคลเหล่านั้นยังทำงานวงการเพลง บางคนเสียชีวิตไปแล้วก็มี
“ไม่เคยให้ท่าหรือทำอะไรยั่วยวนใคร เอรีนเป็นเด็กเรียนและเป็นเด็กกิจกรรมเลยค่ะ เรื่องอยากดังมันอยากดังอยู่แล้ว แต่เรื่องให้ท่า ไม่ทำแน่นอนค่ะ ทำไม่เป็นเลยดีกว่าค่ะ ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัดด้วย คือซื่อมากค่ะ ซื่อแต่มีความคิดนะ แต่ตอนนี้โตแล้วก็รู้มากขึ้นแล้วค่ะ
โลกเราสมัยนี้มันแคบติดต่อสื่อสารกันง่าย คนเข้าถึงกันง่ายมากขึ้น การที่เราเล่าประสบการณ์อันเลวร้ายถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อๆ ไปได้ฟัง มันเป็นสิ่งที่ดี เพื่อให้ทุกคนได้ระวังตัว เราจะมานั่งกลัวทำไม คนเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้รอดพ้นจากบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มานั่งปกปิดความเลวของคน แล้วจะต้องมีเหยื่อกี่คนที่ต้องเป็นทาสเพราะความอยากดังเพียงคำเดียว แล้วคือไม่ใช่ว่ายอมเอาตัวไปแลกแล้วจะดังทุกคนนะ บางคนไม่ดังก็มีเสียตัวฟรีก็เยอะ"
ทุกวันนี้บุคคลเหล่านั้นยังทำงานวงการเพลงอยู่นะคะ บางคนเสียชีวิตไปแล้วก็มี บางคนก็ยังเห็นออกทีวีอยู่ทุกวัน ไม่เห็นมีใครทำอะไรเขาได้”