“มิย่า พิชชา” เผยสถานะกับ “อชิ” เป็นคนคุยกัน ถาม “พ่อพีท” โอเคไหมลูกสาวมีแฟน บอกว่าก็รู้สึกแต่พ่อแม่ยุคใหม่จะห้ามหรือบีบบังคับลูกไม่ได้ ถ้าพูดแบบบ้านๆ โปรไฟล์ก็เหมาะสมกันทั้งคู่ เป็นเพื่อนกัน
หลายคนจับตามองความสัมพันธ์ความรักของลูกคนดัง กับคู่ของ “มิย่า พิชชา ทองเจือ” ลูกสาวของ “พีท ทองเจือ” กับ “เจ็ง วิไลลักษณ์ ทองเจือ” และ “อชิ อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช” ลูกชายของ “เกริกพล มัสยวาณิช” กับ “โบ ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์” ล่าสุดเจอครอบครัวทองเจือ จึงถามถึงประเด็นนี้ ซึ่ง มิย่า และแม่เจ็ง-พ่อพีท ก็ได้มาเล่าว่า…
พีท : “เป็นเรื่องของวัยรุ่น ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ผิดปกติ ถ้าพูดแบบบ้านๆ โปรไฟล์ก็เหมาะสมกันทั้งคู่ เป็นเพื่อนกัน อายุ 16 กับ 18-19 ปี มันยังไม่มีบทสรุปหรอก ก็หวังว่าทุกอย่างมันจะราบรื่นไปเรื่อยๆ ถ้ามีอุปสรรคก็ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตกันทั้งสองคน ก็เจอกัน เจอทั้งพ่อฟลุค แม่โบว์ ครอบครัวก็ทานข้าว แฮงค์เอาต์ด้วยกัน ครอบครัวค่อนข้างจะคุ้นกัน ไม่ใช่คนแปลกหนัาที่ไม่รู้จักกัน จริงๆ แล้วน้องเขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เจอกันแทบจะวันเว้นวันอยู่แล้ว”
เจ็ง : “เขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เป็นเพื่อนกลุ่มใหญ่”
มิย่า : “เป็นคนสนิทกันค่ะ เป็นคนคุยกัน สนิทกัน ถามว่ากดดันไหมที่มีคนจับตาความสัมพันธ์ ก็เฉยๆ เวลาเราไปข้างนอกก็มีคนรู้จักอยู่แล้ว เวลาไปด้วยกันเป็นกลุ่มคนก็อาจจะจับตามองเยอะขึ้น ก็โอเค เรายอมรับว่าเราเป็นคนสาธารณะ ก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ตกใจอะไร อชิเขาอาจจะไม่ชินเท่าเรา ด้วยความที่เราออกงาน เจอคนเยอะกว่า แต่อชิเขาไม่ค่อยได้เจอคนเยอะ เขาอาจจะมี เดี๋ยวคนจะเห็นรึเปล่า ก็บอกเขาว่าเดี๋ยวทุกอย่างก็โอเค”
ไม่รู้จะระบุสถานะของเด็กๆ อย่างไร เอาเป็นว่าทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ พ่อแม่รู้ทุกเรื่อง ปล่อยอิสระแต่มีกรอบให้
เจ็ง : “เราไม่รู้ว่าสถานะของเด็กๆ จะต้องใช้คำว่าอะไร แต่ตัวเจ็งจะรู้ทุกเรื่องของเด็กๆ เราเห็นเด็กๆ กลุ่มนี้กันมานานแล้ว เขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เด็กๆ ที่บ้านมีอะไรเขาจะเล่าให้ฟัง สมมติไปเที่ยวกับเพื่อน ขึ้นรถมาเราไม่ต้องถามเลย เขาจะเล่าก่อนเลย ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตเขาบ้าง เราจะรู้เรื่องทุกอย่างอยู่แล้ว ทุกอย่างอยู่ในสายตาพ่อแม่ทุกอย่าง เด็กๆ ก็เป็นเด็กที่น่ารักกัน เป็นเด็กดีกันทุกคนเราเลยไม่รู้สึกห่วงอะไร
เราเชื่อใจลูกเชื่อใจเพื่อนๆ ลูก ก็เลยไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง จะมีคำถามที่คนชอบถามกันว่าแล้วไม่หวงลูกสาวเหรอ ก็หวงนะ คำว่าหวงของเราเจ็งมองว่ามันไม่ใช่การห้าม คำว่าหวงคือการปล่อยให้ลูกทำอะไรตามอิสระตามความคิดเขา แต่ต้องอยู่ในกรอบ และขอบเขตที่ผู้ใหญ่รับรู้และเห็น ทำทุกต้องไม่ได้ไปทำอะไรผิด เราหวง เราห่วงในเรื่องแบบนี้มากกว่า เรียกว่าก็ดูแลกันอย่างใกล้ชิด ถ้าพากันไปในทิศทางที่ดี ไม่มีอะไรเสียหาย ก็พร้อมสนับสนุน เราเคยเป็นเด็กวัยรุ่น เราก็เคยผ่านจุดนี้มา มันคือส่วนนึงของการใช้ชีวิตอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าลูกไม่ได้ปิดบัง ไปทำอะไรเสียหาย เราเป็นพ่อแม่ เราไม่ปิดกั้นอะไรอยู่แล้ว
อย่างทุกๆ ครั้งที่ลูกไปทานข้าว พ่อแม่รับรู้ ส่วนมากเจ็งจะเป็นคนไปส่งและไปรอรับ ลูกอาจจะนั่งอยู่ในร้านแต่พ่อแม่นั่งรออยู่ในรถ ทุกอย่างอยู่ในสายตาตลอด ส่วนน้องๆ ก็จะช่วยคอยส่อง คอยมาบอกแม่ว่าคนนี้โอเค คนนี้ไม่โอเค เขาจะเป็นคนแอบมาบอก เป็นคนสแกน มีบอกพี่สาวด้วยว่าทำแบบนี้ไม่โอเคนะด้วย”
ถามว่าพ่อแม่โอเคไหมลูกมีแฟน “พีท ทองเจือ” บอกชีวิตวัยรุ่นยิ่งห้ามมีแต่จะแย่กว่าเดิม
พีท : “ชีวิตวัยรุ่น ยิ่งห้ามมันยิ่งจะแย่ไปกว่าเดิม คนรุ่นใหม่เราก็จะเลี้ยงลูกกันด้วยวิธีใหม่ๆ เรียกว่าเราต้องรับรู้ และยินดี ถ้าไม่มีอะไรเสียหายเราก็สนับสนุน มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาปฎิเสธ มันไม่ใช่ยุคเก่าแล้ว ที่พ่อกับแม่ต้องเป็นเจ้าขุนมุลนาย บีบบังคับลูกใดๆ ความรู้สึกมันอาจจะรู้สึกบ้าง แต่ในความเป็นจริงในปัจจุบันมันเป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กทุกคนต้องใช้ชีวิตและเรียนรู้ชีวิตของตัวเอง และจะบอกกับเขาเลยว่าอนาคตมันไม่ได้มีอะไรที่สวยงามตลอดไป ต้องเรียนรู้และหาประสบการณ์ให้ได้”