“แจมิน nct” เจอชาวติ่งรุมหนักหลังย่องเงียบมาไทย ทำ “เตนล์” รีบขอร้องอย่าบุกถึงบ้านอีก

กลายเป็นกระแสให้พูดถึงอย่างหนักทีเดียวกับพฤติกรรมการรุมศิลปินของแฟนคลับชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ล่าสุดที่ “แจมิน” สมาชิกวง nct ย่องเงียบมาไทยเพียงลำพังแบบไร้ผู้ติดตาม รวมไปถึง “เตนล์ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล” สมาชิกวง nct ชาวไทย และ “เหรินจวิ้น” สมาชิกวง nct ชาวจีน ที่เดินทางกลับไทยมาพร้อมกัน โดยทั้งหมดมาแบบส่วนตัวเพื่อพักผ่อน ไม่มีการทำงานแต่อย่างใด

แต่จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นของแฟนคลับสุดโต่ง หรือที่เรียกว่า ซาแซงแฟน ที่ตามติดศิลปินไปทุกที่ทั้งเวลางานและเวลาส่วนตัว พร้อมกับเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของศิลปินให้คนอื่นรับทราบ ได้กลายเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ศิลปินออกอาการเอือมระอาอย่างหนัก

กรณีที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทย แจมิน ได้เดินทางมาไทยเพียงลำพังโดยไม่มีบอดีการ์ด หรือผู้ติดตามแต่อย่างใด แม้แต่สื่อเกาหลีใต้ก็ไม่ทราบว่าเจ้าตัวเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย ส่งให้งานนี้บรรดาซาแซงแฟนที่ทราบข้อมูล ต่างรีบไปรับเขาที่สนามบิน และเดินรุมล้อมอย่างใกล้ชิด สร้างความอึดอัดให้กับตัวศิลปินที่ไม่สามารถป้องกันอะไรได้

ก่อนที่วันต่อมา ( 12 ม.ค. ) เตนล์ จะเดินทางกลับบ้านเกิดพร้อมกับครอบครัว รวมถึงเพื่อนสมาชิกวงอย่าง เหรินจวิ้น ซึ่งงานนี้แฟนคลับชาวไทยได้ทราบข้อมูลก่อนแล้ว เพราะสื่อเกาหลีเป็นผู้เปิดเผยว่าทั้งคู่กำลังเดินทางมาที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นการกลับมาพักผ่อนแบบส่วนตัว ไม่มีตารางงานเช่นกัน จึงทำให้แฟนคลับชาวไทยไปยืนรอเป็นจำนวนมาก

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้งส่งให้แฮชแท็ก #ซาแซงอีเ_ีย ติดท็อปเทรนด์ทวิตเตอร์ถึง 2 วัน

จึงทำให้ตัวศิลปินต้องออกมาส่งข้อความผ่านทาง Dear U Bubble ช่องทางที่ศิลปินเอาไว้สื่อสารกับแฟนๆ โดย เตนล์ ชิตพล ได้เผยว่า

“สวัสดีครับ การเดินทางกลับมาครั้งนี้เป็นตารางส่วนตัว ก็เลยจะมีครอบครัวของผมอยู่ด้วย หวังว่าจะช่วยรักษาความปลอดภัยที่สนามบินกันด้วยครับ ระวังอย่าให้บาดเจ็บกันนะครับ ! และสำหรับคนที่ติดตามมาถึงบ้านที่ประเทศไทยของผม หวังว่าจะพอได้แล้วนะครับ ผมขอพื้นส่วนตัวกับครอบครัวของผมด้วยครับ หวังว่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ของข้อความแบบนี้ ขอให้เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกนะครับ

ถึงแม้จะรู้ถึงความรู้สึกของการชอบและคอยเชียร์อยู่ แต่ก็ควรที่เคารพซึ่งกันและกันให้เท่ากับที่ชอบและคอยเชียร์กันนะครับ ผมขอโทษที่ต้องส่งข้อความแบบนี้มานะครับ ผมขอความเข้าใจด้วยนะครับ ผมเองก็หวังว่าพวกเราจะมีความทรงจำที่ดีต่อกันครับ”

ส่วนทางด้าน เหรินจวิ้น ได้ส่งข้อความระบุว่า

“สวัสดีครับ ! ผมมาเที่ยวประเทศไทยเป็นครั้งแรกครับ ! อย่างที่รู้สึกอยู่เสมอ ประเทศไทยก็มีอาหารอร่อย ๆ มากมาย มีคนใจดีเยอะเลยครับ ! และก็รู้สึกยินดีมากที่ได้เจอ คนที่รักและสนับสนุนพวกเราเยอะเลยครับ !

ผมคิดว่าการเคารพคนที่รักและเชียร์นั้น แน่นอนว่าจะต้องเคารพ แม้กระทั่งเวลาพักครับ ! ถึงแม้จะเป็นเวลาส่วนตัวของผม ไม่ว่าจะเป็นสนามบินหรือว่าที่ไหนก็ตาม การที่ทุกคนมาหา ไม่ว่าจะเป็นความรัก การสนับสนุน และความหมายที่ดี แต่สำหรับผมแล้วการเปิดเผยการท่องเที่ยวส่วนตัว โดยไม่คำนึงถึงความตั้งใจของผม มันเป็นส่วนที่น่าเสียดาย ในการท่องเที่ยวที่มีความสุขครับ

รักนะ ถ้าจะให้กำลังใจก็เคารพซึ่งกันและกันด้วยนะครับ”

การคุกคามที่เกิดขึ้นทั้งการซื้อขายข้อมูลส่วนตัว และไฟลท์บิน รวมถึงภาพถ่ายในช่วงเวลาส่วนตัว ได้กลายเป็นสิ่งที่แฟนๆบางส่วนเริ่มรับไม่ได้ จึงได้เกิดการรณรงค์ให้เลิกซื้อขายทั้งข้อมูลและภาพถ่าย เพื่อให้เคารพความเป็นส่วนตัวของศิลปินในช่วงเวลาพักผ่อน

ก่อนหน้านี้หัวหน้าวงอย่าง แทยง ก็เคยไลฟ์สดพูดถึงเรื่องนี้ และขอความร่วมมือจากแฟนๆโดยระบุว่า

“ผมเองก็ไม่ค่อยสบายใจที่ต้องใช้คำว่า ‘ซาแซง’ เลยนะครับ แต่ผมก็ไม่รู้จะใช้คำไหนแล้วเหมือนกัน มันค่อนข้างน่าอึดอัดมากเลยครับ เมมเบอร์คนอื่นๆก็รู้สึกเหมือนกัน ผมเลยต้องออกมาพูดแบบนี้สักครั้ง ขอโทษด้วยนะครับ ผมเข้าใจว่าคุณรักพวกเรามากๆ แต่ถ้ามันเกินขอบเขตก็ทำให้พวกเรารู้สึกอึดอัดมากๆเช่นกัน เป็นไปได้อย่ามาดักรอพวกเราเลยครับ มันทำให้ผมไม่สบายใจ ผมรู้ว่าคุณอยากจะมาเจอพวกเราครับ เข้าใจความรู้สึกดี ก็เลยไม่ค่อยอยากออกมาพูดอะไร แต่ว่า ถ้ามันยังมีสถานการณ์ที่อันตราย และมีอะไรที่มันยังดูคุกคามแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ในอนาคตพวกเราก็คงต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดครับ ต่อจากนี้เรามาสนับสนุนกันแบบมีมารยาทและเคารพซึ่งกันและกันดีกว่านะครับ

ผมเองก็จะคอยเป็นกำลังใจให้ทุกคนอย่างแน่นอน แล้วก็เฝ้ามองทุกคนในด้านที่ดีเสมอ พวกการกระทำอะไรที่มันไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องไปทำมันหรอกครับ ผมขอพูดแค่นี้ครับ เพราะมันไม่ใช่แค่ตัวผมคนเดียว แต่สมาชิกวงคนอื่นๆก็อึดอัดมากๆกับเรื่องนี้ ซึ่งผมรับฟังมาตลอด และรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ผมเองไม่มีช่องทางในการสื่อสารเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ก็ขอพูดผ่านไลฟ์ตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ ขอบคุณที่คอยติดตามกันเสมอ แต่อย่าทำอะไรแบบนั้นเลยดีกว่า ขอโทษด้วยจริงๆนะครับ”