“แพทริเซีย” ยันไม่รู้มาก่อนว่า “อั้ม-พก” เลิกกัน บอกที่คอมเมนต์แซวแค่ห่วงเรื่องปาร์ตี้หนักเท่านั้น บอกอาจจะแปลภาษาอังกฤษกันตรงตัวเกินไป ยังไม่ชินสถานะสามีภรรยา ตอนนี้ยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน 100% เพราะตนยังต้องถ่ายละคร แต่พร้อมแล้วถ้าจะมีน้อง
ถือว่าเป็นคนจุดประเด็นอีกคนหลังจากกรณีข่าวเลิกราของซุป'ตาร์สาว “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ”กับไฮโซหนุ่ม “พก ประธานวงศ์ พรประภา”สำหรับสาว “แพทริเซีย กู๊ด”ที่ล่าสุดได้มาร่วมงาน CENTRAL THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2023ณ โซน Eden ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวก็ยืนยันว่าที่คอมเมนต์ได้โพสต์ของไฮโซหนุ่ม แค่ถามว่าไหวไหมจากการปาร์ตี้หลังจากงานแต่งของเธอ เพราะวันนั้นปาร์ตี้กันหนักมากเท่านั้นเอง
“เอาจริงๆ งงมาก โดนโยงเฉย จริงๆ แล้วรูปนั้นพี่โน้ตก็คอมเมนต์ไปก่อนว่าสนุกไหม หรือหายอะไรหรือยัง หนูก็เลยไปแซวเพิ่มว่าหวังว่าไม่เหนื่อยนะ เพราะปาร์ตี้หนักจริงๆ ค่ะ ก็คิดว่าเขาน่าจะเหนื่อย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความสัมพันธ์ หนูไม่รู้เรื่องเลยค่ะ (หัวเราะ) หนูว่าอยู่ที่การแปล คือถ้าใครอ่านภาษาอังกฤษจะเข้าใจในภาษาที่เราสื่อ และจะรู้ว่าไม่เกี่ยวเลย
ซึ่งหนูตกใจมากที่คนไปสื่ออย่างอื่น แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะมันไม่ได้ไปในทางนั้นอยู่แล้ว งงค่ะ แต่ก็เข้าใจได้เพราะเราเพิ่งไปคอมเมนต์รูปล่าสุด แต่ก็เข้าใจว่าการแปลเป็นไทย ถ้าแปลตรงตัวมากความหมายจะเปลี่ยน แต่ความหมายของหนูคือหายเหนื่อยจากปาร์ตี้หรือยัง หายแฮงค์หรือยัง ประมาณนี้ ตอนที่ทราบข่าวก็เพราะมันเด้งในไลน์มั้งคะ หนูก็ยังงงว่าทำไมหนูถึงเกี่ยวข้อง ก็ไม่มีอะไรค่ะ ก็ดีใจที่คนจะได้รู้ว่าหนูไม่ได้รู้อะไรมาก่อนหน้านี้”
เผยต้องปรับตัวเข้ากับครอบครัว “โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์” อีกเยอะ
“ตรุษจีนปีนี้กับครอบครัวสามีครั้งแรกด้วยค่ะ ก็คงต้องเตรียมตัวทุกอย่าง หนูต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะมากเลยค่ะ ก็น่าจะค่อยๆ ปรับเข้ากับบ้านคนจีน แต่จริงๆ ตั้งแต่ช่วงโควิดเราอยู่ด้วยกันเยอะ และเรามีเวลาเห็นทุกด้านทุกมุมของกันและกันแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงขนาดนั้นค่ะ ก็อาจจะเจอกันบ่อยขึ้น อยู่ด้วยกันก็อาจจะต้องปรับอะไรนิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่ได้มีอะไรมาก
จริงๆ หนูยังไปๆ มาๆ ค่ะ เพราะหนูยังถ่ายละคร และเวลาทำงานทุกคนก็จะเห็นว่ามากับคุณแม่ เพราะฉะนั้นถ้าเวลาทำงานก็จะอยู่กับคุณแม่ พอพฤหัสบดี-อาทิตย์หรือวันหยุดก็จะอยู่กับพี่เขา เรียกว่า 60% อยู่กับพี่เขา และอีก 40% ที่ทำงานก็อยู่บ้าน ตอนนี้ต่างคนต่างลุยงานหนักมากเลยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เรามัวแต่ทำงานแต่ง มีหลายอย่างมาก ปีนี้ก็ขอโฟกัสงานทั้งคู่ค่ะ ชีวิตก่อนแต่งกับหลังแต่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรืออาจจะเพราะยังไม่มีน้องมั้งคะ ก็น่าจะต้องไปทีละสเต็ป”
บอกหลังงานแต่งก็ชวนกันกินเต็มที่
“การกินมันคือความสุขของเรา เพราะก่อนหน้านี้เราห้ามกินตามใจปากขนาดนั้น เพราะเราต้องใส่ชุดแต่งงาน ทั้งคู่ก็จะคอยระวังนิดนึง แต่พอผ่านปีใหม่ก็คือพักผ่อน เป็นทริปกินแล้วก็นอน ไม่ทำอะไรเลย นางก็แฮปปี้เล่นติ๊กต๊อกไป ก็ถือว่าแฮปปี้เอ็นจอยค่ะ เพิ่งกลับมาจากภูเก็ตก็เริ่มกังวลเหมือนกัน เพราะต้องถ่ายละครด้วย กลัวว่าจะใส่เสื้อผ้าได้หรือเปล่า ก็ชั่งน้ำหนักกันทั้งคู่ค่ะ พี่โน้ตขึ้นมา 2 กิโล หนูขึ้นมา 1 กิโล (หัวเราะ) แต่ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวขยันออกกำลังกายกัน
ส่วนที่มองว่าเขาดูเห่อภรรยา จริงเหรอ พี่โน้ตแค่เป็นคนเอ็นจอยติ๊กต๊อกค่ะ คือไม่ได้จะทำจริงจัง แต่แค่เห็นฟีดแบ็กว่าดีมั้งคะ ก็เลยทำต่อเนื่อง แต่เขาไม่ค่อยเล่นไอจีอะไร แต่ติ๊กต๊อกนี่แหละโอ้โห (หัวเราะ) รอดูต่อไปค่ะว่าจะทำได้นานแค่ไหน (หัวเราะ) ถามว่าพอเปลี่ยนสถานะแล้วเขาดูแลเราดีขึ้นไหม หนูรู้สึกเหมือนเดิมมาก แต่ที่ตกใจที่สุดคือวันที่สัมภาษณ์กับสื่อวันแต่ง คือพูดเยอะ พูดดีมาก ที่เหลือเขาก็ยังดูแลเทคแคร์เราเหมือนเดิมค่ะ
ก็ถามเขาเหมือนกัน เพราะหนูเห็นเขากังวลตั้งแต่วันนั้นแล้ว เขาก็มีการซ้อมแหละค่ะ แต่เขาบอกว่าพอถึงเวลาจริงเขาลืม เพราะพี่ๆ สื่อเยอะมาก เขาก็คิดสดเลย หนูก็คอยให้กำลังใจ ทำได้ดีค่ะ ตัวหนูเองก็อยากเปลี่ยนแปลงนะในฐานะภรรยา อยากมีบทบาทมากขึ้น ก็หวังว่าถ้าอยู่ด้วยกันฟูลไทม์ 100% หรือในอนาคตมีน้องมันก็จะต้องปรับเปลี่ยนตามธรรมชาติค่ะ”
บอกสามีเร่งว่าอยากมีลูกแล้ว ตอนนี้เริ่มปล่อยธรรมชาติ
“ก็เตรียมค่ะ คุยกันตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเขาก็ถึงวัยที่จะมีลูกได้แล้ว เขารีบ เขาก็เร่งเรา (หัวเราะ) หนูก็แฮปปี้อยู่แล้ว ก็ปล่อยตั้งแต่ตอนที่เราเข้าวัด เพราะปีที่แล้วมีพิธีเยอะมาก จนตอนนี้เราก็สบายใจก็ปล่อยไปตามธรรมชาติค่ะ ถ้าไม่มาก็อาจจะต้องพึ่งคุณหมอหรือวิทยาศาสตร์เอา
ถามว่าดูฤกษ์ ดูดวงไหม ไม่ได้ดูเลยค่ะ แต่มีก็ดีกว่าไม่มีค่ะ แต่ไม่ได้ดูดวงอะไร ดูแค่ฤกษ์แต่งงาน คือก็เชื่อในระดับนึง แต่สุดท้ายเราก็เชื่อว่ามันก็อยู่ที่การกระทำของเราด้วย ไม่ใช่แค่ดวง 100% ถ้าถ่ายละครแล้วน้องมา ก็คงต้องเร่งละครค่ะ (หัวเราะ) แต่ละครใกล้จบแล้วนะ หนูเหลือแค่เรื่องพี่แอน ทองประสม กับพี่อนันดา (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ค่ะ ซึ่งก็ถ่ายไป 30 กว่าคิวแล้ว ต้นปีหรือกลางๆ ปีทุกคนได้ดูแน่นอน”
บอกเตรียมปรึกษาทุกคนที่มีลูกแล้วแน่นอน
“ถามว่ามีลุ้นปีนี้ไหม ถ้ามีข่าวดีที่แน่นอนเมื่อไหร่หนูจะรีบบอกเลย กับพี่ชม (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) ปรึกษาแน่นอนค่ะ จริงๆ ได้เจอพี่ชมแล้ว พี่ชมบอกว่าถ้ามีน้องเมื่อไหร่ปรีกษาได้เลยนะ คือทุกคนที่ผ่านการเป็นแม่มาแล้วเราก็ปรึกษาแน่ๆ
เรื่องจดทะเบียนสมรส อันนี้ก็ยังไม่ได้ดูฤกษ์เลยค่ะ แต่เร็วๆ นี้แหละค่ะ คิดว่าถ้ามีอะไรก็เดี๋ยวอัปเดตค่ะ ถ้าเรื่องพวกนี้ก็อาจจะต้องตามฤกษ์ ต้องพยายามบาลานซ์เอา ก็เหมือนอยากจะเชื่อ แต่ก็อยากจะเน้นสะดวกด้วย”
บอก “โน้ต” อยากให้ใส่แหวนเพชรแต่งงานติดตัวตลอด
“เขาบอกว่าเวลาไปงานก็ใส่ไปด้วย แต่ตั้งแต่แต่งงานเราทั้งคู่ลืมใส่ตลอด ไม่ได้ใส่เลย เก็บในเซฟ พี่เขาก็พยายามเตือนว่าใส่นะ แต่งงานแล้วนะ (หัวเราะ) แต่หนูก็ชอบลืม กลัวค่ะ ด้วยความที่เป็นของคุณแม่ด้วย ก็ยิ่งเป็นมูลค่าทางจิตใจ ก็จะพยายามใส่แค่วันสำคัญจริงๆ แต่จะพยายามหาแหวนเล็กๆ ที่เราใส่ได้ในชีวิตประจำวัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีเลยค่ะ เดี๋ยวคงตามมาแหละค่ะ เพราะอันนี้ก็กลัวค่ะ พยายามระวังมากๆ เราก็ไม่เคยมีอะไรยิ่งใหญ่ขนาดนี้ในชีวิตเนอะ ก็ต้องรักษานิดนึง
ถามว่ายังเขินอยู่ไหมที่คนเรียกในฐานะสามีภรรยา ก็ยังเขินกันทั้งคู่นะ บางทีก็จะแซวกันเอง เขาบอกว่ายูเป็น my wife แล้วนะ เราก็ยังไม่ชิน ขนลุกอยู่ (หัวเราะ) ก็ตื่นเต้นค่ะ บทบาทในชีวิตก็ค่อยๆ เปลี่ยน”