สามี “เอ็มมี่ แม็กซิม” น้ำตาไหล เจ้าสาวสู่ขอเอง จากนี้จะรักให้มากกว่าเดิม บอกขำๆ ตอนนี้ชิลๆ ขึ้นศาล ด้านเอ็มมี่ ก็ร่ำไห้ แต่งงานครั้งแรกในชีวิต ประทับใจสามีไม่รังเกียจ ยกขบวนขันหมากสู่ขอ บรรยากาศครื้นเครง เจ้าสาวสายย่อ
ถือฤกษ์ดีเข้าพิธีวิวาห์อย่างเป็นทางการไปแล้ววันนี้ (9 ม.ค.) สำหรับสาวเซ็กซี่ “เอ็มมี่ แม็กซิม” อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ กับสามี “เต๋า เอกพงศ์” ที่ฝ่ายสาวเอ็มมี่ ยกขันหมากไปสู่ขอเจ้าบ่าวเอง ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุข ก่อนทั้งคู่จะเปิดใจว่าจากนี้จะรักกันให้มากกว่าเดิม
เอ็มมี่ : บอกตรงๆ ว่าเหนื่อยมาก แต่มันก็มีความสุขมากๆ แต่ละประตูคือหนักมาก เป็นธีมที่มาสู่ขอเจ้าบ่าวเอง หลายคนคงตกใจ มันมีด้วยเหรอ นี่ไม่ใช่ประเทศอินเดีย แต่เอ็มมี่รู้สึกว่าคนรวยมันหาง่าย เราจะเอาใครก็ได้ที่เป็นคนรวย แต่คนที่จะเอาตัวรับลูกปืนแทนตัวเรา มันมีแค่คนเดียว (น้ำตาคลอ) ชีวิตจริงมันไม่เหมือนในละคร เขากล้าเอาตัวรับลูกปืนแทนเอ็มมี่จริงๆ และมีพยานเยอะมากๆ ซึ่งตอนนั้นเราตกใจ มีความรู้สึกว่าเขาทำได้อย่างที่เขาพูดตั้งแต่วันแรก ทุกครั้งที่เจอกัน เขาบอกว่าเขาเป็นห่วงเรา เขารักเรา เขาตายแทนเราได้ เขาไม่หล่อ เขาไม่รวย เขามีแค่บริษัทผ้าม่าน ที่จะดูแลเอ็มมี่ได้ 4-5 ปีที่ผ่านมา เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขายอมตายแทนเอ็มมี่ได้
เต๋า : พอเราเห็นแม่ (เอ็มมี่) แห่ขันหมากมาสู่ขอเรา เรายืนน้ำตาไหล ปลื้มมากเลย พ่อเคยรักแม่ยังไง ต่อจากนี้ไปจะรักมากขึ้น เป็นห่วงมากขึ้น ห่วงใยมากขึ้น (เอ็มมี่หอมแก้มให้รางวัล 1 ที)
ยันเจอครั้งแรกไม่รู้ว่าเป็นเอ็มมี่ แม็กซิม
เต๋า : ไม่รู้ครับ เพราะตอนนั้นหน้าเขาสดมาก ถามว่าเขาสวยไหม ปกติครับ แต่ที่เราเลือกจะคุยกับเขา ไม่ได้สนใจว่าข่าวเป็นยังไง เพราะผมไม่ได้ดูข่าวมาก่อน ไม่คิดว่าเรื่องเก่าๆ มาทำลายอนาคตอะไรของเรา แต่พอเราได้คบกับเขาจริงๆ เราก็ไปดูข่าวย้อนหลังของเขา ก็งงว่าทำไมมีแต่คนว่าเขา ทำดีแค่ไหน เขาก็โดนว่า แต่พอมาเจอตัวจริง ดีมากๆ เข้าวัด ทำบุญ ชวนผมเป็นจิตอาสา ทำแต่ความดี (ตอนนั้นที่เขาติดกำไลอีเอ็ม เราตกใจไหม?) ไม่นะครับ มันก็ปกติ ไม่ได้รังเกียจอะไร และการที่เขาถูกติดกำไลเพราะเขาโดนโกง และสิ่งที่เราเลือกจะเชื่อเขาก็เพราะว่าเขาเอาเอกสารมาให้เราดุ ซึ่งมันไม่ได้เป็นไปตามข่าว
เอ็มมี่ : เอ็มมี่ก็เปิดเผยทุกอย่าง เล่าให้เขาฟัง เอ็มมี่ยังคิดเลยว่ามันจะมีจริงๆ ที่ผู้ชายมาคบกับผู้หญิงที่ติดกำไลอีเอ็ม คดีก็เยอะมาก เขาให้กำลังใจ ดูแลเราดีมาก
เต๋า : ผมไม่เคยขึ้นศาล ไม่ไป สน. แต่พอมาคบกับเขา ตอนนี้สบายมากเลยครับ มาคบกับเขาคือเรารู้เส้นทางศาล
เอ็มมี่ : เขารับได้ในทุกเรื่อง เขาจริงใจ เราไม่มีเงิน แม้เราจะทำงานทุกวัน เราขาลง เหมือนเป็นดาราตกอับ เขาจ้างเท่าไหร่ก็ไป ใครให้เท่าไหร่ก็ไป เขากลับเป็นห่วงเรา ถามว่าเรามีเงินไหม กินข้าวยัง เขาก็โอนเงินให้เอ็มมี่ตลอด แม้จำนวนเงินจะไม่ได้มาก แต่เขาก็ให้ ในวันที่เราแย่ที่สุด (ร้องไห้) ทำไมเขาไม่รังเกียจเรา ทำไมเขาไม่ทิ้งเรา เขายังรับได้ อีกอย่างเราก็มีลูกมาแล้ว 2 คน คือถ้าใครมาคบกับเอ็มมี่ มันจะเป็นภาระมาก เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร จะดูแลลูกและตัวเอ็มมี่ให้ดี จนเขาสร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้เรา คือชีวิตเอ็มมี่คบมาทุกระดับ แต่ไม่เคยมีใครคิดจะสร้างบ้านให้เราเอาไว้นอน เมื่อก่อนเราเป็นคนติดหรู หัวสูงมาก รถต้องซุปเปอร์คาร์ บ้านต้องราคา 30 ล้านขึ้น แต่พอวันที่เราตกอับ เขากลับเป็นคนดึงเราขึ้นมา และวันที่เราไม่เหลืออะไร เราไปนอนห้องเพื่อน เรานอนตรงตู้เก็บรองเท้า (น้ำตาคลอ) ช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าให้ เขาตกใจว่าเรานอนตรงนี้จริงเหรอ
คิดถอยเหมือนกัน แต่แพ้ความดี
เอ็มมี่ : จูนกันเยอะ ส่วนมากจะเป็นเรื่องขี้หึงมากกว่า
เอก : ตอนแรกไม่กล้าที่จะคุยกับเขาต่อ เมื่อรู้ว่าเขาเป็นใคร เราอยากจะถอยออกมาเพราะเราก็เป็นคนธรรมดา แต่เขาก็โทร.ตามหาว่าทำไมผมหายไป ผมก็บอกไปว่า ผมไม่เหมาะกับคุณหรอก ผมเป็นคนธรรมดา เขาก็มาคุย เขาก็บอกว่าเขาไม่ต้องการอะไรเลย เขาต้องการคนที่แค่ปกป้องดูแลเขาได้ เราก็ประทับใจที่เขาเป็นคนดี เป็นคนพูดตรง ชอบชวนเข้าวัดทำบุญ ก่อนนอนก็ชวนสวดมนต์
ไม่มีคำสัญญา แต่จะทำทุกวันให้ดี
เอ็มมี่ : เราไม่ได้มีคำมั่นสัญญาอะไร เราก็แค่พูดกันทุกวัน เราจะทำทุกวันให้มันดีที่สุด ดูแลกันแบบนี้ไปตลอด
เอก : ผมทำทุกวันให้เป็นเรื่องปกติ ห่วงใยเขา เขาไปทำงานที่ไหน เราก็จะขับรถไปให้เขา
เอ็มมี่ : และสิ่งที่ประทับใจ คือผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตเรา คือเขาอยากมีตัวตน อยากดัง เวลาคุยกับเราก็ชอบแคปว่าคุยกับเอ็มมี่ แม็กซิมนะ แต่เขาไม่เลย
แต่งงานครั้งแรกในชีวิต
เอ็มมี่ : ใช่ เป็นการแต่งงานครั้งแรกในชีวิต ไม่เคยแต่งงานกับใครมาก่อนในชีวิต และเอ็มมี่ก็เป็นผู้หญิงคนแรกของเขา ที่เขาขอแต่งงาน และวันที่เขาขอแต่งงานเราตกใจมาก และเราไม่ได้อินเรื่องการแต่งงาน แต่เราก็กลัวว่าจะแต่งแล้วจริงเหรอ เพราะการแต่งงานมันไม่ใช่จุดสุดท้ายในชีวิต มันเป็นจุดเริ่มต้นที่เราต้องใช้ชีวิตคู่กันไปแล้ว มันก็มีความกลัวในเส้นทางขอแต่งงาน ส่วนที่คนงงว่าทำไมถึงเพิ่งแต่งงาน เราอยากให้ลูกเราอยู่ในงานแต่งงานของเราสองคน อยากให้อะตอมมาวิ่งเล่นในงาน ส่วนแพลนในอนาคต เราก็เดินตามอย่างที่เคยเดินมา แต่อาจจะมีธุรกิจใหม่เพิ่มมากขึ้น
ร้องไห้ออกมาจากใจ ดีใจที่ได้วิวาห์
เอ็มมี่ : คือเอ็มมี่กำลังจะบอกว่าคนเราไม่ได้มาอยู่ในสถานการณ์ที่เอ็มมี่กำลังเจอ และแม้เราจะมีลูกแล้ว แต่มีผู้ชายมาขอแต่งงาน เรามีความสุขในสิ่งที่มันกำลังเกิดขึ้น ไม่ใช่จะถูกมองว่าร้องไห้อะไรตลอดเวลา ที่ผ่านมาถูกมองว่าเราทิ้งลูกไป แต่พอมาวันนี้มีผู้ชายคนนึง กล้าที่จะเข้ามาดูแลเรา มาเป็นส่วนนึงในชีวิตเราถามว่าทำไมร้องไห้ เพราะทุกอย่างมันออกมาจากใจ เอ็มมี่ดีใจที่ได้แต่งงานแล้ว ก็ฉันดีใจ มันก็แค่เท่านี้เอง