xs
xsm
sm
md
lg

“เอสเธอร์” เปิดใจข่าวลือเลิก “เคน” อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด! เลยจุดกลัวแล้ว ยอมรับตอนนี้แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เอสเธอร์” เผยรัก “เคน ภูภูมิ” 7 ปี ผ่านมาทุกโมเมนต์ ตอนนี้แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต ลั่นมองที่ปัจจุบัน พร้อมปล่อยวาง เพราะก่อนหน้านี้เคยผ่านจุดความสัมพันธ์ที่กลัวอนาคตไปไม่รอดมาแล้ว

เป็นอีกคู่ที่ถูกจับตามองว่าอาจจะเป็นคู่รักเลิกเงียบ(อีกแล้ว) หรือเปล่า เพราะไม่ค่อยอัปเดตความรักผ่านโซเชียล โดย “เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค” โพสต์รูปคู่แฟนสาว “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” ล่าสุด เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ส่วน เอสเธอร์ ไม่มีภาพคู่กับเคนมาข้ามปีแล้ว จึงทำให้มีข่าวทำนองนี้เสมอ รวมถึงตอนนี้ เคน ภูภูมิ ไปเรียนต่อเมืองนอก เลยทำให้แฟนๆ จับตามองความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นพิเศษ ซึ่งเอสเธอร์ ก็ได้อัปเดตสถานะความสัมพันธ์ในตอนนี้ว่า…

“พี่ไปเรียนเดือนครึ่งค่ะ ตอนนี้ก็ไปมาเดือนนึงแล้ว ใกล้จะกลับแล้ว กลางมกราคมนี้ก็กลับมาแล้ว (ลือเป็นคู่รักเลิกเงียบ?) ไม่รู้จะตอบยังไงเลย เราก็ยังปกติกันอยู่ค่ะ ยังเหมือนเดิม อาจจะด้วยพี่เคยไปเรียนที่ต่างประเทศ ประมาณเดือนครึ่ง เขาอยากไปเรียนเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมด้านภาษา เอสไม่ได้ตามไป เพราะเริ่มเปิดกล้องถ่ายละครแล้ว เวลาไม่ได้ตรงกัน ปีนี้ก็เลยไม่ได้เคาต์ดาวน์ด้วยกัน ปีนี้ค่อนข้างต่างคนต่างอยู่ ต่างมีแพลนของตัวเอง”

ไม่แปลกที่ไร้รูปคู่ ภาพคู่ก็หาย เพราะคบกันมา 7 ปีแล้ว ตอนนี้ต่างคนต่างหันมาโฟกัสตัวเอง มากกว่าความสัมพันธ์
ไม่แปลกนะคะ อาจจะด้วยเราอยู่ในความสัมพันธ์ที่คบกันมานานมากแล้ว ปีนี้ก็ 7 ปีแล้ว แต่ละคนเริ่มอายุมากขึ้น เลยต่างไปมีกิจกรรมของใครของมัน ไปรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบเยอะขึ้น เราก็เลยอาจจะไม่ได้ใช้เวลาอยู่ดัวยกันเยอะ เราโฟกัสกับหน้าที่ การงานของเราเสียส่วนใหญ่ มันเลยไม่ได้มีภาพคู่ ภาพทำกิจกรรมร่วมกัน

เดือนครึ่งที่ไม่ได้เจอกันก็ไม่เป็นปัญหา แล้วก็แทบจะไม่ได้คุยกันเลย คุยแค่ตื่นนอนก็ทัก จะนอนก็ทัก ในแต่ละวันจะเป็นฟีลประมาณนี้ ด้วยความที่ยุ่ง”

ความเชื่อใจ ไว้ใจกันยังปกติเหมือนเดิม ตอนนี้อยู่ในสถานะความสัมพันธ์ความรู้สึกที่เคยชินกัน แยกย้ายกันไปเอ็นจอยกับชีวิตตัวเอง
“ปกติเลยค่ะ ด้วยความที่คบกันมานาน ก็อาจจะไม่ได้โฟกัสในเรื่องความสัมพันธ์ มัวแต่โฟกัสกับงานจนบางทีเราก็ลืมไป มันอยู่ในสถานะความรู้สึกที่เคยชิน ไม่ได้เฉยชา ตอนนี้อาจจะด้วยเราชิลทั้งคู่ เราเอ็นจอยกับการใช้ชีวิตกับตัวเอง ก็รู้สึกว่าดีเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เราใช้ชีวิตแบบโฟกัสความสัมพันธ์มาโดยตลอด ตอนนี้เรามีอะไรที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เราได้ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น เลยรู้สึกว่าเออ…มันควรจะมีเวลาให้กับตัวเองบ้าง เราเองก็รู้สึกว่าพอเป็นแบบนี้เขาก็แฮปปี้ ต่างคนต่างแฮปปี้ที่ได้มีเวลาของตัวเองกันมากขึ้น เลยรู้สึกว่าการที่จะต้องห่างกัน ไม่ได้มีปัญหาในความสัมพันธ์เลย เพราะต่างคนต่างรู้สึกว่ามันโอเค ให้เขาไปใช้ชีวิตของเขาบ้าง เราก็ใช้ชีวิตของเราบ้าง

เราไม่ได้คุยเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นเลย อาจจะด้วยเราไม่ได้โฟกัส ไม่ได้คุยกันเรื่องข่าวต่างๆ ของเราเลย ความสัมพันธ์เราก็ไปเรื่อยๆ เหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป ก็มีรีเควสของฝากไป ให้ไปดูของนั่นนี่ให้หน่อย ซื้ออันนี้ให้หน่อย ฝากเขาซื้อเพราะที่ประเทศไทยไม่มี”

เลยจุดกลัวว่าความสัมพันธ์จะไปไม่รอดมาแล้ว โตขึ้นมองทุกอย่างเป็นประสบการณ์ เลือกอยู่กับปัจจุบัน
“มันน่าจะเลยจุดนั้นมาแล้วที่เรากลัว ด้วยความที่ตอนนั้นเราอาจจะเด็ก เราเลยโฟกัสกับความสัมพันธ์ของเราว่าเราอยากจะคบกันไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง แต่เมื่อถึงจุดนึงที่เรารู้สึกว่าเริ่มโตขึ้น เราเลยรู้สึกว่าอะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด เอาแค่ปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุด สุดท้ายถ้าความสัมพันธ์มันจะไม่เวิร์คหรือไม่รอดเราก็จะยอมรับและปล่อยวาง เหมือนเราเข้าใจมากขึ้น

เราเคยผ่านจุดหึง หวง งอแงมาหมดแล้ว พอเราโตขึ้นเรารู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์ มันยังไงก็ได้ ขอแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แต่เราไม่เคยมานั่งคุยกันถึงเรื่องอนาคตว่าถ้าวันนี้เราไม่รู้สึกอะไรกันแล้ว แล้วเราจะยังไงกันต่อ เหมือนมันรู้ด้วยตัวเองมากกว่า ต่างคนก็ต่างโตขึ้น”

ที่บ้านมองว่ายังไม่พร้อมเลื่อนสเต็ปชีวิตไปแต่งงาน
ไม่มีเลยค่ะ เหมือนครอบครัวก็ยังรู้สึกว่าเรายังไม่พร้อม เหมือนเรากลับมาเริ่มต้นใหม่หลังจากช่วงโควิด ก็อยากจะทำงานให้เต็มที่”











กำลังโหลดความคิดเห็น