เจมส์ กันน์ กลายเป็นคนทำหนังฮอลลีวูดที่ถูกจับตามองมากที่สุดในวินาทีนี้ไปแล้ว เมื่ออดีตผู้กำกับคนสำคัญของ Marvel Studio ตัดสินใจรับตำแหน่ง Co-CEO ของบริษัทคู่แข่งอย่าง DC
เขาเริ่มอาชีพของเขาในฐานะนักเขียนบทภาพยนตร์ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 มีส่วนร่วมเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง โทรมีโอ แอนด์ จูเลียต (1996), เดอะ สเปเชียลส์ (2000), สกูบี้-ดู (2002) และภาคต่อ สกูบี้-ดู 2: สัตว์ประหลาดหลุดอลเวง (2004) และในปี 2004 อีกเรื่อง รุ่งอรุณแห่งความตาย
กันน์เริ่มทำงานในฐานะผู้กำกับ เริ่มต้นด้วยภาพยนตร์สยองขวัญ-คอมเมดี้เรื่อง สลิทเธอร์ เลื้อย..ดุ (2006) จากนั้นเขาก็เขียนบทและกำกับเว็บซีรีส์เรื่อง เจมส์ กันน์ พีจีพร (2008–09) ภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่เรื่อง ฮีโร่พันธุ์รั่วมหากาฬ (2010) และจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเรื่อง รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล (2014) และภาคต่อ รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 2 (2017) ในปี ค.ศ. 2022 วอร์เนอร์บราเธอส์ดิสคัฟเวอรี ได้ว่าจ้างกันน์ให้เป็นประธานร่วมของดีซี สตูดิโอส์ ร่วมกับปีเตอร์ ซาฟราน
หลังทำให้ซูเปอร์ฮีโร่ที่แทบไม่มีใครที่ไม่ได้อ่านการ์ตูนรู้จักอย่าง guardians of the galaxy กลายเป็นตัวละครที่คนทั่วโลกคุ้นเคยกันดี จากนี้เขาจะได้มาดูภาพรวมทั้งหมดของหนังจากจักรวาล DC พูดง่าย ๆ ว่าเขาจะหน้าที่คล้าย ๆ กับ เควิน ไฟกี ของฝั่ง Marvel นั่นเอง
เส้นทางของ เจมส์ กันน์ ถือว่ามาไกลอย่างเหลือเชื่อ จากคนทำหนังเกรดบี ลูกศิษย์ตำนานหนังเกรดบีแห่งวงการหนังอเมริกัน ลอย คอฟแมน ที่ในตอนเริ่มต้นอาชีพ เจมส์ กันน์ ทำทั้งเขียนบท, กำกับ และยังถึงขั้นโฆษณาม้วนวิดีโอผลงานด้วยตัวเอง
เจมส์ กันน์ยังได้ชื่อว่าเป็นนักดูหนังตัวยง และดูหนังจากทั่วโลก เขาพูดถึงหนังเกาหลีมาตั้งแจ่ 10 ปีก่อน ตอนที่ภาพยนตร์เกาหลียังไม่ได้ดังในฮอลลีวูดขนาดนี้ และยกย่อง บองจุนโฮ ว่าเป็นคนทำหนังที่เก่งที่สุดในยุคนั้น ตั้งแต่ บองจุนโฮ ยังไม่เป็นที่รู้จักในฮอลลีวูดเลยด้วยซ้ำ
เจมส์ กันน์ ยังชอบดูทั้งไอ้มดแดง และอุลตร้าแมน โดยเฉพาะ ไอ้มดแดง ที่เขาบอกว่าชอบซีรีส์ชุดแรกที่เป็นต้นฉบับของ คาเมน ไรเดอร์ มากที่สุด
แต่ในหมู่หนังจากทั่วโลก เจมส์ กันน์บอกว่ามีหนังอยุ่สองประเทศที่มีอิทธิพลต่อตัวของเขามากที่สุด นั่นก็คือ หนังคาวบอยอิตาลี หรือที่เรียกกันว่า เวสเทิร์น สปาเก็ตตี้ และหนังอีกประเภทที่ เจมส์ กันน์ บอกว่าเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของตัวเองมากที่สุด ก็คือหนังฮ่องกงโดยเฉพาะในยุค 80 – 90 นั่นเอง
เช่นเดียวกับเด็กอเมริกันส่วนใหญ่ หนังฮ่องกงเรื่องแรก ๆ ที่ เจมส์ กัน ได้ดูก็คือหนังกังฟูที่มีฉายตามโรงหนังเกรดบี หรือฉายตามเคเบิลทีวีในตอนเด็ก ๆ
แต่ยิ่งดูไปเรื่อย ๆ เจมส์ กันน์ บอกว่าเขาก็หลงเสน่ห์ของหนังฮ่องกงมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมบอกว่าหนังจากเกาะเล็ก ๆ ในเอเชีย ไม่ได้ขายแค่ฉากแอ็กชัน แต่ยังมีเสน่ห์หลาย ๆ อย่างอยู่ในเรื่อง
เจมส์ กันน์ บอกว่าเขาประทับใจหนังที่ชื่อว่า The Heroic Trio หรือที่คนไทยคุ้นเคยกันภายใต้ชื่อ สวยประหาร มาก ๆ และทึ่งแบบสุด ๆ กับฉากแอ็กชันของหนัง ที่เขาบอกว่าคิวบู๊ในเรื่อง เหนือกว่าหนังฮอลลีวูดในช่วงเวลาเดียวกันแบบไม่เห็นฝุ่น
เจมส์ กันน์ ยังชอบหนังกำลังภายในอย่าง เดชคัมภีร์เทวดา และย้ำว่าแม้ภาคแรกจะโอเค แต่ที่เจ๋งสุด ๆ ต้อง เดชคัมภีร์เทวดา ภาค 2 ที่เขาถือให้เป็นหนังกำลังภายในที่ดีที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่ง
หนังฮ่องกงดัง ๆ แทบจะผ่านตา เจมส์ กันมาหมดแล้ว
การที่เขาเกิดในแผ่นดินอเมริกัน ทำให้หนังเหล่านี้ไม่ได้หาดูได้ง่าย ๆ ในช่วงยุค 90s เจมส์ กันน์ก็เลยต้องอาศัยม้วนวิดีโอผี ที่ส่วนใหญ่ขายตามไช่น่าทาวน์ ส่วนใหญ่ไม่ได้หนังที่มีเสียงพากย์ภาษาอังกฤษ แต่เป็นวิดีโอเสียงกวางตุ้ง ซับอังกฤษ ที่สำหรับคนอเมริกันที่ไม่ค่อยชอบอ่านตัวหนังสือในหนังแล้ว ส่วนใหญ่แทบจะไม่ดูกัน
ทำให้ เจมส์ กันน์ มีโอกาสได้ดูหนังหลาย ๆ เรื่องที่คนอเมริกันในช่วงนั้นไม่เคยดู เจมส์ กันน์ ยังประทับใจหนังเกรด 3 ของฮ่องกงมาก เขาบอกว่า เพชฌฆาตกระสุนเปลือย คือหนังที่เชาชอบ และตื่นเต้นที่สุดที่เคยดูมา
การผสมหนังหลาย ๆ แนว ทั้งตลก, บู๊,ดราม่า,มีโรแมนติก เข้าด้วยกัน ก็เป็นอิทธิพลที่ เจมส์ กัน ได้รับมาจากหนังฮ่องกงนั่นเอง
เขายังชอบความหลากหลายของหนังฮ่องกง และชอบอารมณ์โรแมนติกของหนังฮ่องกงมาก ถึงขั้นยกให้ In the Mood for Love เป็นหนึ่งในหนังที่ตัวเองชอบที่สุดในชีวิตเลย
ตอนมีข่าวลือเรื่องโครงการหนัง Kung Fu Hustle 2 จะกลับมาทำใหม่นอกจากแฟน ๆ ทั่วไปแล้ว ผู้กำกับชื่อดังอย่าง เจมส์ กันน์ ก็ดูจะยินดีกับข่าวดังกล่าวมาก
โดยเจ้าของผลงานหนัง Guardians of the Galaxy และ The Suicide Squad ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับข่าวดังกล่าวว่า "นี่ไม่เพียงเป็นภาคต่อของหนังกำลังภายในที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล แต่ยังเป็นหนังแอ็กชัน หรือหนังเรื่องหนึ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยสร้างกันมาก็ว่าได้เลยไหม?"
ตัวของ เจมส์ กัน ยังเคยบอกด้วยตัวเองว่าอยากจะขอขอบคุณเหล่าคนทำหนังฮ่องกงมาก ๆ เพราะถ้าไม่มี ฉีเคอะ, หว่องกาไว,ตู้ฉีฟง, จอห์น วู, เฉินหลง, หงจินเป่า, ริงโก้ แลม, แอน ฮุย, คอรี่ หยวน และอีกมากมายแล้วก็อาจจะไม่มีเขาในวันนี้เช่นกัน