xs
xsm
sm
md
lg

หมอดูดัง ลากไส้ “เพชรพันปี” ประกาศจะทวงคืนความบริสุทธิ์ให้ “บิ๊กเอ็ม” ห่วงเงียบผิดปกติ หวั่นคิดฆ่าตัวตาย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อ.รินลดา” แฉยับ เจ้าของร้านเพชร เดินหน้าทวงความบริสุทธิ์ให้ “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์” คาดพระเอกดังเครียดกับเรื่องนี้จนพูดไม่ออก แถมเงียบผิดปกติ หวั่นคิดสั้นอยากฆ่าตัวตาย มองบิ๊กเอ็มโดนปลดจากช่อง 7 เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับความจริง ลั่นมีหลักฐานเด็ด ฝากไปสืบรางวัลที่ 1 งวดแรก ปี 64 ว่าถูกจริงหรือเปล่า แล้วก็จะแกะไทม์ไลน์ได้


เมื่อเวลา 12.00 น. “อาจารย์รินลดาชัยหมื่น” หมอดูชื่อดัง พร้อมผู้เสียหายจำนวนมาก เดินทางมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่โรงแรมTK Palace ถนนแจ้งวัฒนะ เกี่ยวกับกรณี “ดร.เพชรพันปี”เจ้าของร้านเพชร PW Gems หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์ รางวัลที่ 1 ทิพย์ จนทำให้สังคมเข้าใจผิดไปว่า “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม”ถูกรางวัลที่ 1 ได้เงิน 6 ล้าน ส่วน อ.ริน ได้ 6 ล้านเช่นกัน ซึ่งมีการรับมอบต่อหน้าสื่อกลางงานคอนเสิร์ตของพระเอกคนดังกล่าว จากนั้น “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ก็ได้ไลฟ์สดพร้อมบิ๊กเอ็ม ชี้แจงว่าตนเองไม่ได้ถูกรางวัลที่หนึ่ง ตามที่เป็นข่าว ยอมรับว่าถูกหลอกเช่นกัน
 
และในระหว่างการแถลงข่าว ตัวแทนผู้เสียหายได้เล่าถึงว่าตนเองเป็นลูกค้าร้านเพชรนี้เช่นกัน และได้ซื้อเครื่องเพชรรวมไปถึงกล่องสุ่ม เพื่อจะชิงรางวัลเป็นที่ดินตามที่เจ้าของร้านเพชรบอก จากนั้นได้มีการโฟนอินอดีตพนักงานร้านเพชร โดยเล่าว่าพลอยที่ขายให้กับลูกค้านั้น สั่งมาจากลาซาด้า ราคาเม็ดละ 3 บาท

จากนั้น อ.ริน ก็ได้ยืนยันว่าที่มาแถลงข่าวในวันนี้เพื่อยืนยันว่า บิ๊กเอ็ม บริสุทธิ์ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นตามที่หลายคนเข้าใจ พร้อมแจงว่าตนเองไม่เคยได้รับเงินจำนวน 12 ล้านตามที่อีกฝ่ายบอก อยากให้สังคมให้โอกาสบิ๊กเอ็ม และวอนให้อีกฝ่ายออกมาพูดความจริง ไม่งั้นจะเจอหลักฐานอีกชุด ส่วนจะดำเนินตามกฎหมายไหม ขอปรึกษาทนายก่อน

“เงิน 1.5 แสนบาทของน้องบิ๊กเอ็ม ที่เป็นข่าวว่าน้องรับจ้างหรือเปล่า ต้องบอกว่าเงิน 1.5 แสนบาทมันแยกมาจากเงินสนับสนุนคอนเสิร์ตสบู่ ซึ่งสปอนเซอร์ไม่ได้มีแต่หงษ์ทองเจ้าเดียว แล้วทำไมต้องโอนเงิน 1.5 แสนบาทเข้าบิ๊กเอ็ม เนื่องจากสบู่ยังไม่ได้จดทะเบียนบริษัท หุ้นส่วนมี 4 ท่าน ถอนตัวไป 1 ท่าน เราจึงขอรับเงินสปอนเซอร์โดยการขอรับเงินเข้าบัญชีบุคคล หนึ่งในนั้นคือบัญชีของบิ๊กเอ็ม และของ อ.ริน

เงื่อนไขของสปอนเซอร์ก็คือเราต้องทำงานตอบแทนเขา น้องบิ๊กเอ็มมีการร้องขอให้ไปไลฟ์ 2 ครั้ง อ.ริน บอกว่าน้องน่าจะติดภาพลักษณ์ศิลปิน ไม่อยากให้มาตรงนี้มาก ขอเป็นงานการกุศลได้ไหม ในการทำคอนเทนต์ ไลฟ์สดต่างๆ ที่ต้องติดโลโก้หงษ์ทองจะเป็นรินทำ เป็นเวลา 24 เดือน นี่คือที่มาของเงิน 1.5 แสนบาทที่คนเข้าใจบิ๊กเอ็มผิด

ส่วนตัวน้องเองที่เป็นข่าวรางวัลที่ 1 เป็นกิจกรรมร้านเพชร ในเรื่องราวต่างๆ ต้องไปถามร้านเพชรดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น น้องอยู่ในไทม์ไลน์ที่เป็นผู้ซื้อเพชร วันที่น้องโพสต์ ทางร้านเพชรเป็นคนส่งตัวโพสต์ให้ เขาส่งกันโดยตรงไม่ได้ผ่าน อ.ริน เราเข้าใจว่ามันคือกิจกรรมร้านเพชร ที่เขาจะสมนาคุณให้กับลูกค้าคนไหนก็ได้ ตามความพอใจของเจ้าของกิจกรรม”

รับก่อน “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์” จะโพสต์ว่าถูกลอตเตอร์รี่ได้โทรศัพท์มาปรึกษาตนก่อน ยันการถูกลอตเตอร์รี่เป็นการตลาดของร้านเพชร
“เขาถามว่าผมถูกจริงเหรอ ผมต้องดีใจประมาณไหน แล้วต้องโพสต์ประมาณไหน ที่ผ่านมา อ.ริน ก็ได้โปรโมชั่นหวยบ่อย ได้มาเกือบ 10 ใบ แต่เราไม่เคยถูก แต่ก็มีคนถูกนะคะ มีคนโพสต์โชว์อยู่ว่าได้รางวัลถูกลอตเตอร์รี่จากการซื้อเพชร (สรุปการถูกลอตเตอร์นี่คือการตลาด?) มันคือการตลาดของร้านเพชร ซึ่งไม่เกี่ยวกับสบู่เรา ของเรามีแค่คอนเสิร์ต เราก็ขายสปอนเซอร์ปกติ เพียงแต่หงษ์ทองเขามาซื้อสปอนเซอร์เท่านั้นเอง”

แจงที่ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” นำแชตที่กล่าวว่า “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์” ได้รับเงินค่าพรีเซ็นเตอร์ 5 แสน เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ไม่เป็นความจริง รับกดดันถูกมองอยู่ในกระบวนการเดียวกับร้านเพชรหลอกลวงคน
“ไม่ใช่ค่ะ ที่มองความผิดพลาดคือเรื่องของการพิมพ์ การสื่อสารและอารมณ์ของผู้อ่าน อันนี้เราไปในชั้นศาลได้ ตัวเขาเองก็เคยมีทาบทามให้บิ๊กเอ็งเป็นพรีเซ็นเตอร์หงษ์ทอง เราได้ทำการปรึกษาผู้ใหญ่แล้ว น้องไม่รับค่ะ

ส่วนที่ถูกมองว่าอยู่ในกระบวนการเดียวกับเจ้าของร้านเพชรหลอกลวงคน เราก็กดดัน ทุกอย่างมันมาอยู่ที่ อ.ริน หมดเลย ทุกคนพยายามพิสูจน์ตัวเอง แต่การวิ่งพิสูจน์ตัวเองมันอาจจะผิดทิศทางไปนิดนึง แต่วันนี้เราต้องกลับมาอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงแล้ว มันคือทางออกของการแก้ปัญหา ที่ อ.รินมาพูดช้า เพราะเรามีหลักฐานเยอะมาก

อ.ริน อาจจะได้ผลกระทบน้อยกว่าบิ๊กเอ็ม ถามว่าเสียใจไหม เราก็ร้องไห้ทุกวันแต่มันอ่อนแอไม่ได้ อ.รินจะเป็นคนที่ทำให้บิ๊กเอ็มบริสุทธิ์ ที่เราเงียบเราไม่ได้หาย เราค่อยๆ ไล่ไทม์ไลน์ตั้งแต่เริ่มต้น เรียงลำดับเหตุการณ์ว่าเขาคิดยังไงของเขากันแน่ เราก็ช่วยตามจนได้หลักฐานเด็ดมา ตามกันอีก 1-2 วันนี้ แต่ที่เราออกมาพูดก่อน เราอยากจะดูท่าทีเขา เขาโอเคไหม หรือยังจะโยนโทษให้ อ.ริน หรือบิ๊กเอ็มอีก ถ้าโอเคไม่เป็นไร เดี๋ยวไปว่ากันตามกระบวนการกฎหมาย อ.รินยืนยันว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในกระบวนการ 24 ล้าน เราไม่เคยจิ้มลอตเตอร์รี่ เราจะไปอยู่ในกระบวนการนี้ได้อย่างไร มีแค่เขาที่โยนลอตเตอร์รี่มาให้เรา”

ให้สัมคมพิจารณาเองหลังจากที่เน็ตไอดอลประตูน้ำ ยืนยันว่า “อ.รินลดา” ไปรับเงินสดแทน “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์” 12 ล้าน
“อันนี้ต้องให้สังคมพิจารณาเอาว่าใครเป็นยังไง ใครที่น่าเชื่อถือ คิดว่าวันนี้ภาพออกมาเกินครึ่งแล้วนะ มันก็ชัดเจนว่าใครเป็นยังไง (อ.ริน ยืนยันว่าตัวเองเป็นผู้เสียหายที่โดนหลอกใช้เหมือนกัน?) ที่บิ๊กเอ็มพูดถึงเรา น้องเข้าใจถูกแล้ว เพราะน้องมอบทุกอย่างให้เราคอยดูแล ซึ่งเราไม่ได้โกรธน้อง น้องพูดความจริง เราก็เลยออกมาพูดบ้างว่า พี่รินนี่แหละ จะเป็นคนออกมาไขความจริงให้

กับบิ๊กเอ็มเอง ถ้ารู้จุดไคลแม็กซ์ จะรู้ว่าอีนี่โง่ตั้งแต่ต้นยันจบ มันมีหลักฐานหมดแล้ว แต่ยังเอาออกมาไม่ได้ เอางี้ ลองฝากไปสืบรางวัลที่ 1 งวดแรก ปี 64 กัน ว่าถูกจริงหรือเปล่า แล้วก็จะแกะไทม์ไลน์ได้ ที่บิ๊กเอ็มไปไลฟ์กับคุณณวัฒน์เรารู้สึกว่าขอให้น้องผ่านพ้น แต่มันก็ไม่ผ่านพ้นอยู่ดี ไม่มีความรู้สึกว่าอันนั้นไม่ใช่ อันนี้ผิด บิ๊กเอ็มโกหก ไม่มีเลย อ.ริน รู้อยู่แก่ใจว่า บิ๊กเอ็ม ไม่ใช่คนแบบนั้น เราก็ได้แต่ภาวนาให้น้องผ่านพ้น คนที่ต้องมาไฝว้เลยต้องเป็น อ.ริน ไม่อย่างนั้นบิ๊กเอ็มไม่หลุดจากตรงนี้

เผยที่ออกมาพูดช้าเพราะเพิ่งได้หลักฐานเด็ด
“ไม่ช้า เพราะถ้าพูดก่อนหน้านี้ 2 วันไม่มีหลักฐานอะไรเลย ก็จะเข้าอีหรอบเดิมว่าบิ๊กเอ็มอยู่ในกระบวนการอยู่ดี วันนี้เรามีหลักฐานชัดเจน ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความจริง 24 ล้านเราได้มาอย่างไร ก็ต้องไปพิสูจน์ว่าอาจจะถูกจริงๆ ก็ได้ แต่ตรงนี้ อ.ริน ไม่ขอข้องเกี่ยว เราอยู่ในพาร์ตกับบิ๊กเอ็มในส่วนของการร่วมกิจกรรมร้านเพชรเท่านั้น”

มองเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับในการที่ “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์” ถูกถอดสัญญาช่อง 7 หลังจากเกิดเรื่องนี้
“คนเราถ้ามันถอยและยอมรับความจริง ก็จะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องโดน ซึ่งต้องเคารพในการตัดสินใจและกฎของช่อง น้องเองก็น่าจะทำใจได้ในระดับนึงและเชื่อว่าหลังจากนี้ หลายๆ อย่างคลี่คลาย อ.ริน เชื่อว่าน้องจะกลับเข้ามาอย่างสง่างามกว่าเดิมด้วยซ้ำที่ผ่านมาเท่าที่คุยกับบิ๊กเอ็ม เขาเครียดจนเขาพูดไม่ออก ก็คงจะเครียดมาก คนถ้าไม่บ่นคือเครียดมากนะ”
 
คาดเดา “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์” เครียดถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย
“มีการคาดเดากัน เพราะเราคิดว่าอารมณ์ศิลปิน เวลาเขาบิวต์บทแล้วมันอยู่ในห้วงดิ่งตรงนั้น มันก็เกิดอะไรขึ้นได้ สัญญาณคือน้องเงียบไปจนผิดปกติ แล้วแม่ร้องไห้ เราไม่เคยเห็นสองแม่ลูกร้องไห้ หรือโวยวาย เราเลยรู้สึกว่าเอ๊ะ หรือเขาคิดจะฆ่าตัวตายข่าวมันแรงอยู่นะ ทั้งชีวิตที่ผ่านมาของเขา เขาไม่เคยเจอกับอะไรแบบนี้ เราก็พยายามติดต่อเขาไปตลอด และยืนยันว่าพี่รินอยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่รินจะเคลียร์ให้เอง พี่รินจะพิสูจน์ให้ได้ วันนี้ที่ออกมา แปลว่าพร้อมแล้ว (มันจะช่วยน้องได้ขนาดไหน?) ยังไงก็ขอฝากน้องไว้ด้วย”

เล่าความสนิทสนมรัก “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์” เหมือนน้องชายคนนึง
“แม้เราจะสนิทสนมกันในฐานะผู้ร่วมหุ้น แต่เรากับน้องก็ไปมาหาสู่กันในระดับนึง เราและเขารู้ใจ อ่านใจกันออกว่าคิดยังไงกัน เรารักเขาเหมือนน้องคนนึง เราสองคนก็โดนหลอกมาเหมือนกับที่ทุกคนโดน ก็ฝากธุรกิจสบู่ด้วย จากนี้รายได้ทั้งหมด อ.รินจะยกให้น้องหมดเลยน้องจะได้ไปหาเงินเลี้ยงชีพ น้องจะได้เดินต่อได้ หรือน้องอาจจะเข็ดกับธุรกิจไปเลยรึเปล่า ตรงนี้เราก็ยังไม่มั่นใจ

ที่เป็นหวงน้องอยู่ตอนนี้ก็คือ เมื่อไหร่ความจริงจะปรากฎอย่าง 100% และสังคมยังจะให้โอกาสน้องไหม ถ้าได้รู้ว่าน้องบริสุทธิ์ บิ๊กเอ็มเขาเป็นคนที่เต็มที่กับทุกอย่างอยู่แล้ว เอาจริงๆเราทำงานกับเขาก็จริง แต่เราไม่ได้ไปรู้ลึกอะไรขนาดนั้น มันเป็นกระบวนการที่ผู้ใหญ่ต้องจัดการกันเอง เรื่องตรงนี้ไม่ขอออกความคิดเห็น”

ฝากถึงเจ้าของร้านเพชรและชาวเน็ต ยังไงตนก็จะทวงคืนความบริสุทธิ์ให้กับ “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์” ให้ได้
“เอาตรงๆ สายตัวเลขมันเป็นสายมโนกันอยู่แล้ว มโนว่าฉันจะได้ ฉันจะถูก คือจินตนาการว่าฉันจะต้องถูกแน่ๆ อ.รินมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ตัว อ.รินไม่ได้เข็ดกับตัวเลข แล้วถามว่าจะเลิกอาชีพหมอดูไหม คงต้องย้อนประวัติไปตั้งแต่ อ.รินเป็นหมอดูจิตอาสาจนถึงตอนนี้มันก็ยังเป็นศรัทธาเดิม ไม่เคยไปเปลี่ยนอันนั้นทีอันนี้ที ทั้งหมดนี้เชื่อว่าลูกศิษย์เราน่าจะเข้าใจเรา

อ.ริน มองทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติคือความโง่ ความเขลา ความไม่ระวังตัวเอง มันทำให้เราพลาดถ้ามองเป็นธรรม ถ้าเรายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ก็ใช้เขาไปซะ ดีกว่าหากันไม่เจอ ถ้ามองเป็นกลาง ก็ถอยออกมา เราถึงไม่พูดทำร้ายใคร ยังให้โอกาสเขาในการออกมาพูดความจริง หนูว่าพี่ตั้งสติ ความดีของพี่ในใจหนูมึ ถึงแม้หนูจะรู้อะไรมาหลายเรื่อง ไม่มีใครเลว100% หนูไม่ได้ว่าพี่เป็นคนเลว อาจจะเป็นคนที่ได้รับบทเรียน หนูเองก็ได้รับบทเรียนเช่นกัน

อยากให้พี่ตั้งสติก่อน อย่าสร้างเรื่องเพิ่ม เพราะสุดท้ายมันก็จะวนเข้าตัวเราอยู่ดี จากนี้ถ้าเขาไม่ออกมาก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และหน้าที่ของ อ.ริน ก็คือจะเดินหน้าทำให้บิ๊กเอ็มบริสุทธิ์ เท่านั้น สังคมต้องฟังหูไว้หู ให้โอกาสน้องบ้าง น้องเป็นคนที่พูดน้อยที่สุด และแทบจะไม่มีโอกาสได้พูด”













กำลังโหลดความคิดเห็น