“เก่ง ธชย” เครียดรักพระเอกหมอลำ “นุกเกอร์ กฤษกร” เจอบูลลี่ ขอเวลา 7 วันไปปฎิบัติธรรมก่อนตัดสินใจ จะไปต่อหรือพอแค่นี้ รู้ดีถ้างานรุ่งความรักจะมีดรามา คือสิ่งที่ต้องแลกสำหรับคนวงการบันเทิง เคยคิดความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่สุดท้ายคนอื่นก็มาเป็นตัวแปร
โพสต์ตัดพ้อกับความรักอยู่บ่อยๆ สำหรับ “เก่ง ธชย ประทุมวรรณ” ที่ตั้งแต่เปิดตัวเดินหน้าจีบ พระเอกหมอลำดาวรุ่ง “นุกเกอร์ กฤษกร บุญมา” ก็เจอกระแสดรามาต่างๆ นานา ล่าสุดเจ้าตัวก็ตัดพ้อบนโซเชียลว่า… "คืนไปหมดแล้ว เหลือแค่ความคิดถึงที่ยังคืนไม่ได้" และ "คืนให้หมดแล้วนะ ความเป็นส่วนตัว ความฝัน ความหวัง เหลือแค่ความรักที่กำลังทยอยคืนให้ ..."
เมื่อถามเรื่องนี้ เก่ง ธชย ก็บอกว่าความรู้สึกของตนนั้นตามโพสต์เลย ซึ่งตนเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องแลก ถ้างานรุ่งความรักจะมีดรามา
“มันก็ต้องแลกกัน พอเราได้มามีโมเมนต์เกี่ยวกับเรื่องความรัก เรารู้สึกว่ามีคำนึงที่มันแว๊บเข้ามาในหัว คือเราเชื่อว่าวงการบันเทิงมันเป็นพื้นที่ของความศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเราเลือกระหว่างรักคนเดียวเราจะไม่ได้รักจากคนหมู่มาก แต่เราถ้าเลือกรักจากคนหมู่มาก เราจะไม่ได้รักจากคนๆเดียวซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
อันนี้เป็นสิ่งที่ครูมานพ มีจำรัส เคยสอนผม เราก็พยายามจะคีฟตรงนี้ไว้ แต่มันก็มีเลินเล่อบ้าง พอเรามีความรักแล้วมันกระทบ มันไม่ได้กระทบที่เรื่องคนสองคนนะ มันเป็นเรื่องของคอมเมนต์ต่างๆ มากกว่า ยุคนี้โซเชียลแรง รถทัวร์พร้อมจอด บางทีเราคิดว่าไม่น่าจะมีทัวร์ แค่เราโพสต์บางอย่างไป แต่บางทีมันมาจอดหน้าบ้านเลยมันที”
อ่านคอมเมนต์แล้วจิตตก เจอคนบูลลี่
“ก็ตามข่าวเลย คนจะอินจากข่าว มันก็มีเอฟเฟกต์กับตัวเรา เก่งอาจจะไม่ได้อ่านคอมเมนต์อีกแล้ว เมื่อก่อนไม่ได้เสพ แต่ก็เลือกเข้าไปอ่านซะหน่อย พออ่านแล้วก็… ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ด้วยคาแรกเตอร์เรามันมีความยูนีก ไม่รู้เข้าใจไปเองรึเปล่า เหมือนคนจะชอบบูลลี่เราพอมันมีเรื่องรสนิยมเข้ามามันกลายเป็นไปกันใหญ่
รู้สึกว่าเราเคยพูดมาหลายครั้งแล้ว มันมีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ดังนั้นวิธีการของเก่งคือถ้าเป็นไปได้ เราคงจะหาเรื่องอื่นในการพูด เรารู้สึกว่าการเป็นบุคคลสาธารณะ เราเลือกที่จะหันมุมไหนให้สังคมก็ได้ เก่งรู้สึกว่าเรื่องมุมความรัก อีกสักพักเราคงเริ่มอิ่มตัว เราควรจะโฟกัสงานมากกว่าแล้ว”
คุยกับ “นุกเกอร์ กฤษกร” แล้ว มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ
“ต้องคุย ส่วนใหญ่ฝั่งเราทุกคนเข้าใจ ฝั่งเก่งมันไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวแบบนี้ มันเคยมีมาก่อนแล้ว คนจะชอบบอกว่าคนสนับสนุนให้ท้ายเก่ง เขาไม่ได้สนับสนุนว่าเก่งจะเป็นอะไร แต่จะเป็นฝั่งเขามากกว่า แต่ฝั่งเขาก็จะมีทั้งคนเข้าใจและไม่เข้าใจนะครับเขาก็บอกผมแหละว่าพี่อย่าไปอ่านคอมเมนต์”
รู้สึกเครียดกับเรื่องนี้ขอตัวไปปฎิบัติธรรมก่อน เชื่อจะเจอคำตอบ
“ก็เครียด(หัวเราะ) ด้วยจังหวะและโอกาสด้วยแหละ ก็เลยรู้สึกไปถือศีลดีกว่า มันใกล้จะวันเกิดผมด้วยผมเพิ่งให้ข่าวไปเมื่อวันที่ 2 เราก็ไม่คิดว่ามันจะมาอีกแล้ว เรื่องเดิมๆ เลยไปถือศีลดีกว่า ขออยู่กับตัวเองสัก 7 วัน ปิดมือถือ ปิดวาจา (ไม่เอาแล้ว หรือจะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปอีก?) มันก็เป็นตัวเลือกเนอะ มันก็เป็น ก ข ค ง เป็นช้อยส์ที่อยู่ในตัวเลือกเหมือนกัน”
รับรอบนี้หนัก บอกเคยคิดความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่สุดท้ายคนอื่นก็มาเป็นตัวแปรทางความรู้สึก
“ก็ตามโพสต์ บางคนต้องการเป็นส่วนตัว บางคนต้องการความรัก บางคนต้องการความหวัง ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน มันก็คือสุนทรียะในการโพสต์แคปชั่น มันก็คือการตัดพ้อเล็กๆ ระลอกนี้มันก็หนักอยู่นะ (คนสองคนเข้าใจกัน แต่สิ่งแวดล้อมรอบข้างไม่เป็นใจ?) เมื่อก่อนก็คิดว่ามันไม่ใช่ตัวแปร แต่สุดท้ายมันก็เป็นตัวแปรความรู้สึกของคนอื่นมันก็ค่อนข้างเป็นตัวแปรกับเราเหมือนกัน”
ท้อกับการไปต่อ เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจะดีที่สุด
“ขอเวลาอีก 7 วันแล้วจะมาบอก ขอไปถือศีลก่อน เชื่อว่าคำตอบมันจะมาใน 7 วันข้างหน้านี้แหละ (จะไปต่อหรือพอแค่นี้?) อาจจะเป็นกับเราทั้งคู่ ยังไม่ได้เลือก ขอ 7 วันก่อน ก็มีคิดว่าเอาที่ดีที่สุด อะไรที่เกิดขึ้นแล้วมันดีที่สุดเสมอครับ ไม่ว่าจะรักกัน อยู่ด้วยกัน หรือเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือปัจจุบันเราทำอะไรมากกว่า ในช่วงจังหวะที่เราได้เจอกัน ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ก็คงเป็นตอนอื่นก็ได้ ถ้ารวยไม่ต้องมีความรักก็ได้ ปีนี้ขอรวยก่อนครับ”
