“ก็คือว่าด้วยเวลาต่างๆ มันไม่ตรงกัน ทัศนคติและเป้าหมายชีวิต อะไรต่างๆ มันอาจจะไม่ได้ตรงกัน ก็อาจจะไม่ได้เจอกัน ไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อนค่ะ ก็ไม่ได้เจอกัน อย่างที่ตอนนี้เรามาโฟกัสในเรื่องการทำรายการของเรา พอโฟกัสเปลี่ยนไป เวลาไม่ตรงกัน ก็คงไม่ได้เจอกันบ่อยค่ะ”
แม้จะไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด แต่จากบทสัมภาษณ์ของ (อดีต) พิธีกรฝีปากกล้า “กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ” ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีสถานะเป็น “ศิษย์เอก” ของ “ครูอ้อย-ฐิตินาถ ณ พัทลุง” เจ้าสำนัก “เข็มทิศชีวิต” ก็พอจะจับใจความได้ว่า ตอนนี้สัมพันธภาพของทั้งคู่ เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน ที่เรียกว่า “วงแตก-แยกย้าย” กันไปเรียบร้อยแล้ว
ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายใดๆ เพราะดูเหมือนทุกคนจะปักธงในใจอยู่แล้วว่า วันหนึ่งเรื่องแบบนี้ก็ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแค่รอว่าเมื่อไรเท่านั้น ซึ่งมาไหวตัวตอนนี้ ถือว่าช้าเกินไปด้วยซ้ำ เพราะถ้าตามติดข่าวคราวที่เกี่ยวกับเข็มทิศชีวิตกันมาแบบต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าบรรดาศิษยานุศิษย์ หรือคนสนิทชิดใกล้ ทยอยตีตัวออกห่างกันมาทีละคน สองคน ไม่ว่าจะเป็น
“ครูเงาะ- รสสุคนธ์ กองเกตุ”
“เอ๋ – มณีรัตน์ คำอ้วน”
“ตุ๊ยตุ่ย – พุทธชาด พงศ์สุชาติ” และ ฯลฯ
แต่ละคน ก็มีเหตุและผลของการตีตัวออกห่างกันไปต่างกรรมต่างวาระ เพียงแต่สิ่งที่เหมือนกัน ก็คือออกมาแบบจบไม่สวยทั้งสิ้น
แม้แต่กรณีของ กาละแมร์ เอง ก็น่าจะไม่ต่างกัน
เพราะถ้าย้อนกลับไปสมัยที่เธอฝากตัวเป็นศิษย์เอก ถ้าไม่นับความเป็นอยู่ และไลฟ์สไตล์ชีวิตติดหรู ที่พยายามนำเสนอผ่านช่องทางโซเชียลต่างๆ ตามมายาคติที่ถูกพร่ำสอนให้ถือเงินเป็นพระเจ้า และการตระเวนเดินสายทำบุญเอาหน้าแบบจัดหนัก จัดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ....
.....การนุ่งขาวห่มขาวถวายเงินเพื่อสมทบทุนก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐาน ได้ปัจจัยทั้งสิ้นเกือบ 60 ล้านบาท รวมทองคำอีกกว่า 1,000 บาท
.....ร่วมกันเป็นประธานในพิธีถวายทองหุ้มปลียอดส่วนฐานพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม
ก็ดูเหมือนว่าชีวิตด้านอื่นๆ ของเธอ ล้วนแล้วแต่ดิ่งลงๆ ไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง หน้าที่การงาน ความน่าเชื่อถือในวงการ
จากบทบาทของพิธีกรหญิง ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในทำเนียบผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงสื่อสารมวลชน แต่กลายเป็นว่าวีรกรรมต่างๆ ที่กระทำร่วมกันมานั้น นำพาให้ชีวิตพลิกผันไปในทางตรงกันข้าม
ทั้งการใช้อภิสิทธิ์ในความเป็น VIP. (ที่อุปโลกน์ขึ้นมาเอง) แหกกฎเกณฑ์ในการขึ้นไปสักการะ “ถ้ำนาคา” ซึ่งเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีผู้คนเลื่อมใสศรัทธาขึ้นไปสักการะกันอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพื่อขอพรให้ชีวิต การงาน เจริญก้าวหน้า ที่กลายเป็นหัวข้อให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
และที่หนักหนาสาหัสที่สุด ก็คือคดีเกี่ยวกับ “อาหาร (เสริม) เป็นพิษ” ที่ทำให้เธอโดนแจ้งความผิดถึง 3 ข้อหาหนักๆ
ทว่า วันนี้เมื่อสัมพันธภาพไม่เหมือนเก่า ถึงเพิ่งมีการเฉลยว่าแท้จริงแล้ว สินค้าอาหารเสริมดังกล่าว ที่ กาละแมร์ ออกหน้ารับทุกอย่างนั้น เธอมีหุ้นเพียงแค่ 30% ส่วนอีก 70% แม้จะไม่เอ่ยนามออกมา แต่คนทั่วไปก็รู้แน่แก่ใจอยู่แล้ว ว่าใครชักใยอยู่เบื้องหลัง !!???
นี่คือสิ่งที่ครูพึงกระทำต่อศิษย์ ?
นี่คือสิ่งที่กัลยาณมิตรพึงกระทำต่อกัน ?
เวลากอบโกย ก็กอบโกยด้วยกัน แต่เวลาที่เกิดปัญหา ทำไมถึงโยนบาปให้ กาละแมร์ รับผิดชอบคนเดียว !!???
กว่าจะหูตาสว่าง ชีวิตในวงการก็พังพินาศไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะสามารถกู้กลับมาได้หรือไม่ ? อย่างไร ? แต่ตอนนี้ที่เกิดขึ้นแล้วแน่ๆ ก็คือ กาละแมร์ ออกมายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอีกต่อไป และย้ำว่าหากยังมีการใช้ภาพของเธอในสื่อประชาสัมพันธ์ ก็จะมีการดำเนินคดีทางกฎหมายทันที
วันนี้เมื่อเข็มเปลี่ยนทิศ ชีวิตก็เปลี่ยนทาง
คนเราจะคบกันได้ ก็ต่อเมื่อ “ศีล” เสมอกันเท่านั้น !!!
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7-13 มกราคม 2566
