“แพท พาวเวอร์แพท” กอดพ่ออบอุ่นในงานครบรอบ 2 ปีได้รับอิสรภาพ พร้อมเผยสิ่งที่เป็นที่สุดในชีวิต

“แพท พาวเวอร์แพท” ควงคุณพ่อร่วมงานฉลองอิสรภาพครบรอบ 2 ปี เพื่อขอบคุณแฟนคลับ เปิดโมเมนต์โอบกอดสุดประทับใจ บอกขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามา ถ้าไม่มีแฟนคลับก็คงไม่มีตนเหมือนวันนี้ เผย 2 ปีที่ผ่านมามีหลายอย่างเข้ามาในชีวิตเยอะมาก ทั้งบวช ทั้งผ่าตัดใหญ่ ทั้งงาน บอก 3 สิ่งที่จะยึดถือตลอดไปก็คือครอบครัว งาน และสังคมที่ตนจะทำให้ดีที่สุดต่อไป

จัดงานฉลองอิสรภาพครบรอบ 2 ปีเป็นที่เรียบร้อย สำหรับนักร้องหนุ่มฉายาแด๊ดดี้สุดอบอุ่น “แพท พาวเวอร์แพท” หรือ “วรยศ บุญทองนุ่ม” ที่จัดงาน Pat’s Freedom Thank you Party ที่ร้าน Cook & Coff เรือนจำกลางบางขวาง โดยความพิเศษในครั้งนี้ก็คือคุณพ่อ “นิวัฒน์ บุญทองนุ่ม” ได้มาร่วมในงานด้วย เพราะย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วคุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัวมารับเจ้าตัวที่นี่เพื่อกลับบ้าน ครั้งนี้ถือว่าพิเศษจริงๆ เมื่อแพทได้จัดงานนี้ขึ้น เลยได้เห็นโมเมนต์น่ารักๆ ที่คู่พ่อลูกโอบกอดกัน ถือเป็นโมเมนต์ที่น่ารักมากๆ ทีเดียว

“ก็รู้สึกมีความสุขมากนะครับ เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมเพิ่งข้ามออกมาจากฝั่งตรงข้าม แล้วก็มีครอบครัวมารับ คุณพ่อ คุณแม่ วันนี้คุณพ่อก็เลยมาอยู่ มาสัมผัสตรงนี้ด้วย ผมก็ตั้งใจที่จะจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับทุกคนที่ให้โอกาส อ้าแขนรับ และเชื่อใจในความเป็นผมด้วยนะครับ ก็ทำให้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาผมมีความสุขมากกับการกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง กับการทำงานที่ตัวเองรัก มีแฟนๆ คอยซัปพอร์ต และคอยสนับสนุนผลงานของผมตลอดมา ก็รู้สึกมีความสุขมากๆ เลย และตั้งใจจัดงานวันนี้เพื่อเป็นการขอบคุณทุกครับ 

ก็ขอบคุณทุกๆ โอกาสนะครับที่มีให้มา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรืออะไรก็แล้วตาม ที่ผ่านมาผมได้ลองทำงานหลายๆ อย่างมากๆ และได้มีเหตุการณ์ต่างๆ เข้ามาอย่างที่บอกไป มีโอกาสได้บวชทดแทนคุณพ่อคุณแม่ที่ตั้งใจมานานนะครับ และเรื่องโรคที่คอก็เป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต งานต่างๆ ที่เราไม่เคยได้ลองก็ได้ลอง ไม่ว่าจะเป็นงานพรีเซ็นเตอร์ ทำช่องยูทิวบ์ ตัดต่อวิดีโอ เป็นวิทยากรบรรยายตามสถานที่ต่างๆ ตามสถานศึกษา การเขียนหนังสือ และยังมีงานอื่นๆ อีกมากมาย ไปช่วยงานของกรมราชทัณฑ์ด้วย เรียกว่างานผมหลากหลายมาก เพลงก็เป็นโปรดิวเซอร์ แต่งเพลง ทำวงอะไรต่างๆ เรียกว่าเยอะมากๆ เลย

มีส่วนของทำเพลงประกอบในการพรีเซนต์ต่างๆ และตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ บริษัท มาดู มาฟัง ด้วย เรียกว่าหลากหลายจริงๆ ครับ สำหรับงาน 2 ปีที่ผ่านมา ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสผมในการกลับมาทำงานอีกครั้งนึงครับ โอกาสในชีวิตสำคัญมากครับ มันทำให้เรามีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อและทำให้เราได้พัฒนาในแง่มุมต่างๆ ที่เราอาจจะไม่เคยคิดว่าสามารถทำมันได้ มันทำให้เราให้กำลังใจตัวเอง ทำให้เราค้นพบบางอย่างในตัวเองว่าสิ่งนี้เราก็สามารถทำได้เหมือนกัน และสิ่งนี้ทำให้เราเรียนรู้ ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ให้เราไม่หยุดอยู่กับที่ ให้ชีวิตเรารู้สึกมีการพัฒนาและมีคุณค่าขึ้นในแต่ละวันครับ”

ดีใจแฟนคลับมาร่วมให้กำลังใจเยอะเหมือนเคย
“จริงๆ เราตั้งใจจัดเล็กๆ มากๆ เลยครับ เพราะเราตั้งใจอยากจะใกล้ชิดและเป็นการขอบคุณแฟนๆ จริงๆ แต่จัดไปจัดมาอย่างคอนเซปต์ของมาดู มาฟัง บริษัทเราเอง คือจัดเล็กไม่มีจริงครับ มันก็เลยเถิดไปเรื่อยๆ (หัวเราะ) นี่ก็ถือว่าใหญ่พอสมควรเลยครับ ก็จะพยายามให้ใกล้ชิดที่สุด โดยจัดการเรื่องสถานที่ การจัดโต๊ะ เรื่องของฟีลในการเล่นดนตรี ก็เป็นฟีลอะคูสติกเบาๆ เล่นไปคุยไป มีเล่นเกม มีของรางวัลมาแจกต่างๆ และช่วงท้ายของโชว์ก็จะมีร่วมถ่ายภาพและแจกลายเซ็นด้วยครับ”

แฟนคลับมีคุณค่ามากๆ นะครับสำหรับความรักและความเข้าใจในตัวผม ที่แฟนคลับและทุกๆ คนมีให้ในการกลับมาในจุดนี้อีกครั้งนึง ในสถานที่เดิม แม้จะผ่านไป 2 ปี ด้วยเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย มีหลายอย่างเปลี่ยนแปลง และบางอย่างก็ก้าวหน้าไปอย่างที่เราไม่คาดคิดมาก่อน ตรงนี้เราก็ต้องขอบคุณทุกคนนะครับ ที่คอยซัปพอร์ตผม ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนและแรงซัปพอร์ตจากแฟนๆ ทุกๆ คน ผมคงไม่ได้ก้าวมาถึงจุดนี้แน่นอนครับ”

เผยสิ่งที่เป็นที่สุดคือการได้รับโอกาสอีกครั้งจากสังคม
“ถามว่าสิ่งที่เป็นที่สุดสำหรับผมคืออะไรบ้าง จริงๆ มันก็มีหลายที่สุดนะ แต่ผมมองในเรื่องของการได้รับอิสรภาพและการได้รับโอกาสจากสังคมจากทุกๆ คนมากกว่า มันคือที่สุดแล้ว เพราะมันจะต่อยอดถึงส่วนต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานที่เรารัก เป็นการใช้ชีวิตอะไรต่างๆ เรียกว่าโอกาสในสิ่งที่ผมรับคือสิ่งที่สุดยอดมากๆ ครับ

ที่ผ่านมาผมก็ได้ทำงานร่วมกับกรมราชทัณฑ์ด้วย ผมก็พยายามที่จะส่งต่อโอกาสดีๆ ให้กับเพื่อนพี่น้องผู้ต้องขังทุกคน ในความรู้ความสามารถในช่วงเวลาจังหวะที่ผมพร้อมทำได้ตลอดมาอยู่แล้ว และรวมถึงเรื่องของการทำบุญในส่วนต่างๆ ด้วย อย่างที่ผมเคยพูดตั้งแต่วันแรกว่าผมได้รับโอกาสมาแล้ว ผมก็อยากจะใช้ความรู้ความสามารถ ใช้ประสบการณ์ต่างๆ ของตัวเองที่ผ่านมาสร้างประโยชน์ต่อในส่วนต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะกรมราชทัณฑ์นะ แต่ในทุกส่วนด้วยครับ”

เผยมีพี่น้องผู้ต้องขังมาร่วมเล่นดนตรีด้วย
“ในส่วนของพี่น้องผู้ต้องขังหลายคนที่รู้จักและเคยอยู่กันตั้งแต่ด้านในอยู่แล้ว หลายคนก็ได้รับโอกาสมาทำงานกองนอก บางคนก็เพิ่งมีโอกาสได้เจอ เขาก็ต้อนรับเรา มียกมือไหว้ เราก็ไหว้ตอบ ด้วยความที่เขามีความชื่นชอบเรา มีการให้เกียรติเรา เราก็ยินดีมากๆ และได้ถามสารทุกข์สุกดิบน้องๆ บางคนที่อาจจะเคยรู้จักกันมาก่อน หลายคนมีกำลังใจ หลายคนคิดว่าถ้าเราทำได้เขาก็ต้องทำได้เช่นกัน ตรงนี้มันเป็นการส่งมอบกำลังใจ ส่งมอบความหวังให้กับพี่น้องผู้ต้องขังคนอื่นด้วย ก็ถือว่าอบอุ่นมากๆ ครับ ตอนนี้ก็ยังจำกันได้ครับ ยังคุยทักทายกันได้ปกติ กับพี่ๆ เจ้าหน้าที่ผู้คุมด้วยนะครับ ก็น่ารัก เป็นกันเอง ก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีๆ ต่อกันอยู่ตลอดครับ

วันนี้มีพี่น้องผู้ต้องขังมาร่วมเล่นดนตรีด้วยครับ ก็มีพื้นที่ส่วนนึงให้กับเพื่อนพี่น้องผู้ต้องขังที่มีความสามารถทางด้านดนตรี และด้านเพลงด้วย ก็ให้มาโชว์ที่นี่เลย เพื่อเป็นการส่งมอบโอกาส และเป็นการส่งต่อว่าเพื่อนพี่น้องผู้ต้องขังหลายคนก็มีความสามารถครับ”

เผย 3 สิ่งที่ยึดถือมาตลอด และจะทำต่อเรื่อยๆ
“จริงๆ แล้วผมมีอยู่ 3 อย่างที่ยังยึดถือตลอดมา อย่างหนึ่งคือเรื่องของการกลับไปทำหน้าที่ที่ดี เป็นเสาหลักของครอบครัวให้คุณพ่อคุณแม่ ทำหน้าที่กับครอบครัวที่เราห่างมานาน ส่วนที่สองก็คืองานที่เรารัก ไม่ว่าจะงานเพลงหรืองานต่างๆ ที่เราได้รับมอบหมายมาที่มันเป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวเราและสังคม ก็จะทำต่อไป และอีกอย่างนึงก็เป็นเรื่องของการตอบแทนสังคม สิ่งต่างๆ งานการกุศลต่างๆ หรือการไปเป็นผู้บรรยายสิ่งที่เราประสบมาต่างๆ ให้กับน้องๆ เยาวชนได้ฟัง เพื่อจะไม่ได้พลั้งพลาดแบบเรา ผมก็พยายามทำอยู่เรื่อยๆ ก็จะพยายามยึด 3 สิ่งนี้ไปเรื่อยๆ ครับ”

บอกไม่เคยปิดกั้นงานละคร ถ้าทุกอย่างลงตัวได้เห็นแน่นอน
“สำหรับงานละครตัวผมก็ไม่ได้ปิดเลย ที่ผ่านมาก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ ผมก็รู้สึกดีมาก และเป็นอีกงานนึงที่หลังจากกลับมาก็ยังไม่ได้ลองเลย อาจจะเคยแสดงมาเมื่อตอนช่วงวัยรุ่น 3-4 เรื่อง ตอนนี้ผมก็พูดตลอดนะว่าผมไม่ได้ปิดกั้นและยินดีที่จะรับ ก็ดูบท ดูอะไรต่างๆ ถ้าข้อเสนอต่างๆ คุยกันแล้วลงตัวก็จะได้เห็นแน่นอนครับ ผมไม่ได้ตั้งเกณฑ์ไว้เลยว่าจะต้องเป็นพระเอกหรือเป็นอะไร เพียงแต่ผู้จัดลองมาคุยกัน ถ้าบทลงตัว เวลาลงตัว ก็คงได้เห็นแน่นอนครับ”