“กาละแมร์” คัมแบ็กหน้าจอ ถอนตัวธุรกิจ ไม่สนิท “ครูอ้อย” แล้ว!

“กาละแมร์” คัมแบ็กวงการ! ประเดิมงานพิธีกรรายการใหม่ ทำใจถอนตัวธุรกิจพาวเวอร์ชอต จบกันด้วยดีไม่มีโกรธ อยู่ไปก็ความคิดไม่ตรงกัน ถ้าได้ทำใหม่ของตัวเอง ก็จะทำแบบมีอิสระและสบายใจ รับไม่สนิท “ครูอ้อย” แล้ว เพราะทัศนคติไม่ตรงกัน หัวใจตอนนี้มีคนคุย แต่ขอให้รอดก่อนค่อยเปิดตัว

หลังยุติบทบาทพิธีกรทุกรายการไปเกือบ 2 ปี และออกไปธุรกิจเต็มตัว ล่าสุดอดีตพิธีกรชื่อดัง “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” ก็ประกาศคัมแบ็กวงการอีกครั้ง ในฐานะพิธีกรรายการใหม่ ‘เคลียร์กับแมร์’ ที่จะออนแอร์เทปแรก 1 กุมภาพันธ์นี้ ทางช่อง 3 โดยวันนี้ (4 ม.ค.) เจ้าตัวก็ได้มาเปิดใจกับสื่อมวลชน ถึงการตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้ พร้อมแจ้งข่าวสุดช็อก ว่าได้ถอนตัวจากธุรกิจพาวเวอร์ชอตแล้ว

“ปีใหม่ชีวิตใหม่ ผมทรงใหม่ แล้วก็ได้มาออกรายการเพื่อน ได้มาเจอพี่น้องนักข่าว มันเป็นความมหัศจรรย์ในชีวิตแมร์ โคตรคิดถึงบรรยากาศแบบนี้เลย ดีใจมาก ที่ได้มาบอกว่าเราจะกลับมาทำรายการแล้วนะ มันคือสิ่งที่เราชอบ มันเป็นตัวตน อยู่ในสายเลือด ในทุกอณู รายการใหม่ก็จะเป็นรายการชื่อว่า เคลียร์กับแมร์ คือมีอะไรมาเคลียร์กัน เพราะทุกคนมีเรื่องที่อยากจะเคลียร์ใจ คนที่ดูก็จะได้รับประโยชน์จากตรงนี้ไปด้วย ทำกับทางช่อง 3 ก่อนข่าวเที่ยง วันพุธ-ศุกร์ เป็นรายการคุยสบายๆ เหมือนเพื่อนมาคุยกัน

แขกรับเชิญส่วนใหญ่ เป็นคนมีชื่อเสียง นักแสดง ดาราอะไรต่างๆ ค่ะ เราจะเป็นสไตล์แบบตอนนั้นมันเป็นยังไงนะ แล้วมันผ่านมาได้ยังไง หรือบางคนอาจจะไม่ได้เป็นดารานักแสดง แต่ว่าอาจจะเป็นคนที่อยู่ในข่าว แล้วเขาอยากออกมาเคลียร์ ก็มาเคลียร์ได้”

ทีวีธันเดอร์ติดต่อมา อยากให้ทำรายการ เห็นว่าน่าสนใจเลยรับปากที่จะทำ
“อย่างที่บอกก็คือ พอเราได้จัดการกับปัญหาของเราเรียบร้อย ในเรื่องเกี่ยวกับบริษัท ไม่รู้ว่ามันเพราะอะไรเหมือนกันนะ แล้วคือเราเลิกทำด้วยไง แล้วตอนนั้นเขาก็ยังไม่รู้นะ ว่าเราเลิกทำบริษัท ทางทีวีธันเดอร์ก็ติดต่อมาว่ามีรายการใหม่ สนใจทำไหม พอเขาพูดถึงแนวรายการ เราก็เออเราไม่เคยทำเนอะ แล้วมันก็น่าสนใจ เลยตกลงรับปากที่จะทำ

มันก็มีความตื่นเต้นนะ แต่ของอย่างนี้มันอยู่ในสายเลือดเรา เราเป็นพิธีกรมา 20 กว่าปี มันก็เป็นสิ่งที่ถ้าเรานอนหลับไปแล้วลืมตามา สิ่งแรกที่จะทำได้ก็คือการพูด แต่อะไรที่ใหม่มันก็จะตื่นเต้นสำหรับเราเสมอ”

เฟดตัวออกไปประมาณ 2 ปี คิดถึงบรรยากาศการทำรายการทีวีมาก
“ไม่ได้ทำประมาณสัก 2 ปี แต่ประมาณปีที่แล้วก็มีรายการเล็กๆ ตอนเช้า แต่คนอาจจะไม่ค่อยเห็น เพราะมันเช้ามา ก็ดีใจที่ทางทีวีธันเดอร์ติดต่อมา เจอทีมงานคุ้นเคยกัน ก็คิดถึงทุกคน เพราะจริงๆ การไม่ได้ทำรายการทีวีมันก็หวิวๆ เหมือนกัน เหมือนขาดอะไรก็ไป มันก็มีความคิดถึงในบรรยากาศแบบนั้น ตอนนี้ไม่ได้เป็นเรื่องจะออกทีวีหรือโซเชียล มันเป็นเรื่องของคอนเทนต์ ถ้าทำคอนเทนต์ดี สนุก น่าติดตาม คิดว่าน่าจะทำให้คนดูได้ เทปแรกนี่เขายังถกเถียงกันอยู่ ว่าจะเอาใครขึ้น แต่เขาก็มีส่งแขกรับเชิญมาแล้ว ก็แซ่บๆ ทุกคน แต่ละคนอ่านแล้วก็อื้ม โอเค คนนี้เรื่องนี้ๆ ไม่รู้ว่ารายการ 30 นาทีจะพอให้เขาเคลียร์หรือเปล่า (หัวเราะ)”

ไม่หวั่นก่อนหน้านี้เจอมาหนัก จะทำให้ดีที่สุด
“เราคิดว่าเราจะพยายามทำให้ดีที่สุดนะ แมร์ว่าทีมงานก็คงช่วยกลั่นกรองด้วย เอาเป็นว่าทุกอย่างทำด้วยความตั้งใจ เจตนาที่ดี ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ก็โปรดใจดีกับดิฉันด้วยค่ะ เหตุการณ์ที่ผ่านมามันก็ช่วยนะ แต่ก็ไม่ได้จะแข็งแกร่ง แค่เข้าใจมันมากกว่า มีทั้งคนชอบไม่ชอบ เห็นด้วยไม่เห็นด้วย เราเปิดรับมุมมอง รับคำแนะนำ เพราะอันนี้มันจะเป็นประโยชน์กับเรากับรายการ”

ดรามาที่เข้ามามีผลต่อภูมิคุ้มกัน
“ก็มีนะ แต่ก็ไม่ได้อยากมีบ่อยๆ นะ ไม่ได้อยากมีเยอะ (หัวเราะ) เอาเป็นว่ามันก็เป็นธรรดาของโลก ที่เราเข้าใจค่ะ”

ฟีดแบ็กดีเกินคาด ถือเป็นกำลังใจที่ดี
“เราก็ดูแต่ในไอจี ในเฟซบุ๊กของตัวเอง ว่าคนใกล้ตัว คนที่เป็นแฟนเราเขายังไง ส่วนใหญ่ก็ดีใจ เราก็เกินคาด ไม่คิดว่าคนจะดีใจกับเราขนาดนี้ ตอนแรกเราเขียนแค่ว่าปี 2566 นี้เราจะทำอะไรบ้าง 1-10 ปีหน้ามีรายการนะ แซ่บแน่นอน พี่น้องนักข่าวก็ให้ความเมตตากับเรามาก โดยการเอาไปลงข่าวให้ คนก็รูัข่าวมากขึ้น ก็เลยมีฟีดแบ็กจากหลายๆ ทาง ถือว่าเป็นกำลังใจที่ดี แล้วสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรากลับมาทำ คือเวลาเห็นหน้าใคร แล้วเขาจะบอกว่าพี่ไม่ทำรายการอีกเหรอ คิดถึงนะ อยากได้ยินเสียงพี่”

ปัดกลับมาทวงตำแหน่งพิธีกรตัวแม่
“ไม่ขนาดนั้นหรอก เอาเป็นว่าเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด มันเป็นสิ่งที่เราชอบเรารัก ก็จะทำให้ดีที่สุด จะทำหน้าที่พิธีกร มอบความรู้ มอบสาระความบันเทิงให้ได้ดีที่สุด”

ไม่กลับไปทำรายการเดิม เพราะทุกรายการก็มีพิธีกรอยู่แล้ว
“โอ้ย…แต่ละรายการเขาก็มีพิธีกรอยู่แล้ว อย่างเรายการเทคมีเอ้าท์ คุณต้นหอม (ศกุนตลา เทียนไพโรจน์) เขารีบมาคอมเมนต์เลย ว่าพี่จะไปทำรายการอะไรก็ได้ ยกเว้นเทคมีเอ้าท์ เราก็บอกว่าเออโอเค เธอทำไปเลย เธอต้องได้อะไรบางอย่างจากรายการนั้นให้ได้ ถ้าไม่ได้ผู้ชาย ก็ต้องได้พิธีกร (หัวเราะ) แต่ทีวีธันเดอร์ก็คือบริษัทเดียวกัน ต้นหอมก็ทำดีแล้ว สนุกสนาน ไม่แน่เราอาจจะไปเป็นแขกรับเชิญก็ได้ เพราะมีความใฝ่ฝันอยากไปยืนบนโพเดียมเหมือนกัน เราก็คิดถึงบรรยากาศ ส่วน 3 แซ่บก็ยังค่ะ แต่กับทางผู้ใหญ่ อย่างพี่นิด อรพรรณ วัชรพล เราก็มีความรักและเคารพอยู่เสมอ แต่อย่างที่บอกว่าทุกรายการก็มีผู้ดำเนินรายการแล้ว แต่ถ้าในอนาคตต่อไป เราได้ร่วมงานในรายการอื่นๆ ก็ยินดีเสมอค่ะ”

ขอลุยงานพิธีกรเต็มตัว
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวก็คงต้องมีไปดูทอล์กโชว์อะไรอื่นๆ ใดๆ ว่าเดี๋ยวนี้เอายังไงกัน ก็เต็มที่ค่ะ รายการเราต้องถามแทนคนดูด้วย แต่ก็เป็นฟีลเพื่อนด้วย ไม่ใช่คุณต้องตายเลย เราไม่ได้เป็นสไตล์นั้น เอาสบายใจ”

ประกาศยุติบทบาทและถอนหุ้นธุรกิจพาวเวอร์ชอต
“พาวเวอร์ชอตก็ไม่ได้ทำแล้ว ส่วนในแง่ธุรกิจอื่นๆ เดี๋ยวรอติดตาม เพราะจริงๆ แล้วการทำอะไรเกี่ยวกับสุขภาพ มันเป็นแพชชั่นของเราอยู่แล้ว แล้วเราเป็นคนอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ชอบคิดอะไรตลอด เห็นอะไรก็น่าสนใจ เราทำได้ไหม อะไรกินแล้วดี ก็ต้องไปหา ก็ถ้าเดี๋ยวมีก็จะแจ้งให้ทราบ ตัวพาวเวอร์ชอต เรามีหุ้นอยู่ 30 เปอร์เซ็นต์ พอเราได้ทำงานกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว มันถึงจุดที่ทัศนคติไม่ตรงกันหรือเป้าหมายไลฟ์สไตล์การทำงานไม่ตรงกันแล้ว เราก็มาคิดทบทวนว่าจะเอายังไงดี เราต้องการความสุข ความสบายใจในชีวิต งั้นเราก็ถอยดีกว่า ออกมาดีกว่า ก็ยุติบทบาทแล้วก็ถอนหุ้นด้วยค่ะ”

ทำใจลำบากใช้เวลาหลายเดือนในการตัดสินใจ
“เวลาเราทำอะไร เราก็ทำเต็มที่ คนเลยคิดว่าเราเป็นเจ้าของร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่ไหม ก็คิดนานพอสมควร แค่ถึงจุดที่มันไม่ใช่ เราก็กลับมาคิดทบทวน ใช้เวลาตัดสินใจหลายเดือนเหมือนกันค่ะ สาเหตุมันเป็นเรื่องยิบย่อยมากกว่า แต่ว่าอย่างที่บอก มันคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับทัศนคติ แล้วก็โฟกัสต่างๆ หรือเป้าหมายที่จะไปต่อ เพราะมันไม่ตรงกันแล้วในการบริหาร ก็เอาสบายใจดีกว่าค่ะ”

ถ้ามีโอกาสทำแบรนด์ใหม่ของตัวเอง ก็จะทำแบบที่มีอิสระและสบายใจ
“ก็ถ้าจะทำก็คงจะทำแบบที่เราสบายใจ ที่เราสามารถได้ตัดสินใจได้เองเลย หรือว่าเรามีอิสระในการทำงานเต็มที่ ก็คงจะเป็นแบบนั้น”

ธุรกิจนี้ทำให้มีพาดหัวข่าวรวยร้อยล้าน แต่พอปล่อยวางแล้วสบายใจ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก สอนเรามาก เวลาที่เรามีปัญหา หรือมีเรื่องอะไร จะถามเสมอว่าเรื่องนี้ให้อะไรกับเรา เรื่องนี้มันให้เราไม่มีอะไรที่เราเป็นเจ้าของ ไม่ได้มีอะไรที่เป็นของเรา เราอย่าไปยึดติด แล้วเราจะทุกข์กับมัน แต่วันหนึ่งเราปล่อยกลับสบายใจเฉย มันง่ายอย่างนั้น ตอนนั้นลีลาตั้งนานว่ามันยังไง เสียดายหรือเปล่า มันทำให้เติบโตมากขึ้น ปล่อยแล้วสบายๆ อะไรที่เราไม่แบก ไม่ถือไว้ ก็เบา จบ ใจก็โอเค สบาย”

เรื่องเงินหาใหม่ได้ เน้นความสบายใจ เน้นผู้บริโภค บอกลูกค้าน่ารัก ยังเชื่อมั่นและพร้อมซัปพอร์ต
“เรื่องจำนวนเงินก็ไม่เป็นไรหรอก ทำเอาใหม่ได้ ถ้าเรายังมีแพชชั่นกับเรื่องสุขภาพ อยากทำให้ชีวิตมันเฮลท์ตี้ขึ้น ถ้าวันหนึ่งจะทำ มันอาจจะไม่ต้องใช้เงินเท่าเดิม เราเน้นความสบายใจ เน้นผู้บริโภคเป็นหลัก เราอยู่ได้ เขาอยู่ได้ ราคานี้ ให้เขาแบบนี้ เราโอเค ผู้บริโภคโอเค แฮปปี้ (เขายังเชื่อในความเป็นเรา?) จากการสอบถามตอนนี้ ผู้บริโภคยังช่วยคิดผลิตภัณฑ์เลย (หัวเราะ) ลูกค้าน่ารักมาก เขาก็ตกใจนิดหนึ่ง แต่ก็พร้อมซัปพอร์ต ถ้าทำอะไรใหม่บอกนะคะ”

เข็ดการมีหุ้นส่วน ทำอะไรต้องทบทวนมากขึ้น
“ก็คงจะต้องคิดพิจารณาทบทวนให้มากขึ้นค่ะ”

จบกันด้วยดี แต่จากนี้พาวเวอร์ชอต จะไม่สามารถใช้ชื่อใช้รูปตนโปรโมตได้อีกแล้ว
“ใช่ค่ะ เพราะนี่ก็ยื่นจดหมายไปทางบริษัทแล้วเหมือนกัน ให้รับรู้ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ซอง การโฆษณาทุกช่องทาง ขอให้ไม่มีรูปเรา แต่เราจบกันด้วยดีค่ะ พูดคุยกัน ไม่ได้โกรธกัน เข้าใจกันว่าเราขอถอยออกมา”

ยกเป็นประสบการณ์อันล้ำค่า ไม่คิดว่าจะมีวันนี้
“ตอนทำยังไม่คิดว่าจะทำเลย เพราะฉะนั้นตอนเลิกก็ไม่คิดว่าจะเลิกหรอกค่ะ อะไรมันเกิดขึ้นก็ได้ค่ะ แต่การที่ได้ทำผลิตภัณฑ์อันนี้ มันยิ่งใหญ่สำหรับเรา เราได้เรียนรู้เติบโต มันให้อะไรกับเราเยอะมาก ทำให้เราเข้มแข็ง โดยเฉพาะลูกค้า เป็นครูเป็นกูรูสำหรับเราได้ดีมาก อันนี้เป็นประสบการณ์อันล้ำค่า ถ้าเราเริ่มต้นใหม่ น่าจะมีวิชา มีอะไรต่างๆ ที่เราเคยได้ทำมา ทำใหม่ได้อีกครั้ง (พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เมื่อไหร่?) โอ้โห…เร็วๆ นี้ไหม คือจริงๆ เลิกทำมาประมาณครึ่งปีแล้ว”

พอตัดสินใจถอย ก็ได้มาโฟกัสกับตัวเองมากขึ้น และได้มีโอกาสดีเข้ามา
“มันก็ได้ความสบายใจ เอาที่สบายใจ พอเราอายุ 46 มันก็ไม่อยากไฝว้เยอะแล้ว เอาสบายใจ เอาความสุขเป็นที่ตั้ง อะไรที่ทำแล้วมันลงตัว ก็ให้มันเป็นแบบนั้น ในวันที่เราตัดสินใจถอยดีกว่า ก็ได้มาใช้ชีวิต มาโฟกัสกับตัวเอง ท่องเที่ยว พอเราได้ว่างจากอะไรอย่างหนึ่ง โอกาสอีกอย่างหนึ่งก็จะเข้ามาหาเราอย่างมหัศจรรย์ โดนที่เขายังไม่รู้ด้วยว่าเราเลิกทำ มันเป็นจังหวะ”

วางมือจากธุรกิจกลับมาเข้าวงการ
“ใช่ค่ะ แต่ส่วนในอนาคตอันใกล้หรือว่าจะเมื่อไหร่ จะบอกอีกที เพราะเป็นคนสนุกอยู่แล้ว ทำอะไรอย่างเดียวมันไม่ใช่เรา ชอบทำโน่นนี่นั่น”

เป้าหมายตอนนี้คือใช้ชีวิตให้มีความสุข
“ใช้ชีวิตให้มีความสุขไงคะ อะไรที่เราทำ เราคิดเสมอว่าใครจะได้ประโยชน์อะไรจากเราบ้าง ไม่ว่าเราจะทำรายการ คนดูได้ประโยชน์อะไรบ้าง มันจะรู้สึกว่าเรามีคุณค่า ตอนทำพาวเวอร์บอลที่ปั้นๆ หลังขดหลังแข็ง แต่ก็อร่อย ต้องใส่วัตถุดิบที่ดี จะแพงแค่ไหนก็ไม่เป็นไร แต่เรากินยังไงเขากินอย่างนั้น แค่นี้มันนอนตายตาหลับ”

มีที่ปรึกษาที่ดี และมีผู้ใหญ่ที่รักและเคารพ รวมถึงเพื่อนๆ ที่ยังรักเหมือนเดิม
“ก็มีเหมือนกันค่ะ มีผู้ใหญ่ที่รักและเคารพ เอ็นดูเมตตาเรา ให้กำลังใจเราเสมอ ยิ่งพอเราประกาศออกไปว่าชีวิตใหม่ ทำอะไรใหม่ๆ แล้วนะ กลับมาเป็นกาละแมร์ โอ้โห…คนเข้ามาเต็มเลย เราดีใจที่เพื่อนก็ยังคือเพื่อน โดยเฉพาะเพื่อนในวงการ เราดีใจที่เขารักเราเหมือนเดิม เพราะแต่ละคนเขาก็จะรู้จักในตัวตนของเรา ก็ดีใจที่เราได้เพื่อนกลับมา ได้เจอผู้หลักผู้ใหญ่ที่เรารักและเคารพเสมอ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม แม้กระทั่งคนดูเขาก็มีฟีดแบ็กที่ดี ในการที่เราจะกลับมาทำรายการทีวี”

ใช้คำว่ากลับมาเป็นกาละแมร์อีกครั้ง
“ชีวิตเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่วันนี้เราเติบโตขึ้น เราได้เรียนรู้และได้รับบทเรียนหลายอย่าง ชีวิตมันเคยมีการล้ม มันต้องลุก อะไรที่เคยผิดเราก็ต้องแก้ไข ประสบการณ์พวกนี้มันสอนเราหมดเลย ดังนั้นเราก็ได้มาคิดทบทวนตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการในชีวิตกันแน่ พอเรารู้แล้วเราก็มุ่งหน้าทำสิ่งนั้น อะไรที่ใช่เราก็เดินต่อไป อะไรที่ไม่ใช่เราก็ออกมาเท่านั้นเอง”

รับไม่สนิท “ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต” เหมือนเมื่อก่อน เพราะทัศนคติไม่ตรงกัน
“ก็คือว่าด้วยเวลาต่างๆ มันไม่ตรงกัน ทัศนคติและเป้าหมายชีวิต อะไรต่างๆ มันอาจจะไม่ได้ตรงกัน ก็อาจจะไม่ได้เจอกัน (ไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน?) ค่ะ ก็ไม่ได้เจอกัน อย่างที่ตอนนี้เรามาโฟกัสในเรื่องการทำรายการของเรา พอโฟกัสเปลี่ยนไป เวลาไม่ตรงกัน ก็คงไม่ได้เจอกันบ่อยค่ะ”

ไม่กลัวการเริ่มใหม่ มีไฟที่อยากจะทำ
“ก็ตื่นเต้นนะ แต่เป็นความตื่นเต้นที่ดี แมร์ชอบการเริ่มใหม่ การเริ่มต้น ชอบที่ได้ทำอะไรใหม่ๆ กระชุ่มกระชวย และมีไฟที่อยากจะทำ ไม่ได้กลัวที่จะต้องเริ่มต้นใหม่”

ไม่กดดันถ้าได้ทำในสิ่งที่รัก
“ไม่ได้กดดันนะ ถ้าเราได้ทำสิ่งที่เรารัก เราเต็มที่ทุกอย่าง ไม่ว่างานในวงการหรือว่าการทำธุรกิจ เราใส่เต็มเหนี่ยวของเรา เหมือนหัวใจและจิตวิญญาณเรามอบให้ แค่นี้คือหน้าที่ของเราจบแล้ว แต่คนจะชอบไม่ชอบ หรือฟีดแบ็กอะไร มันก็ต้องฝากไว้ในอ้อมจิตอ้อมใจ ว่าเขาชอบไหม เขายังไง เขาอยากจะติชมยังไง”

สถานะหัวใจไม่ได้ปิด มีแต่กัลยาณมิตรยังไม่มีตัวจริง
“ฉันก็ว่าฉันเริ่มเหงาแล้วแหละ บางทีขึ้นบันไดเลื่อนแล้วอยากจะหกล้มได้ เซๆ (หัวเราะ) หัวใจไม่ได้ปิดนะคะ ก็มีกัลยาณมิตรดีๆ เข้ามาพูดคุย ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ตอนนี้มีเป็นแขกรับเชิญไปก่อน ไว้เดี๋ยวเป็นพิธีกรหลักแล้วเดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบ (หัวเราะ) คิดว่าคนที่จะเข้ามาหาเรา ต้องเห็นในความเป็นตัวตนกาละแมร์ คือถ้าเห็นจากหน้าจอ เขาก็จะคาดคิดไปเอง ว่าเธอต้องปากร้ายปากจัด แต่คนที่เขาได้เข้ามารู้จักตัวตนเราจริงๆ เขาก็จะเห็นถึงความเป็นกาละแมร์ในเวอร์ชั่นหนึ่ง เป็นคนไม่มีกำแพงนะ แต่ตอนนั้นอาจจะมีความบ้าคลั่งในการทำงานมาก เลยปิดกั้นทุกอย่าง ตอนนี้ก็มีคนดีๆ เข้ามาบ้าง เป็นคณะ เป็นวง”

เลิกตั้งสเปกเน้นความสบายใจ
“เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เราก็มีสเปก 1 2 3 4 5 … แต่ผ่าน 46 ปีก็ยังไม่เจออะไรตรงนั้นเลย แมร์ว่าพอถึงวัยนี้ เราเน้นความสบายใจ เน้นความสุข อยู่ด้วยแล้วเข้าใจในความเป็นตัวเรา เวลาเขารับได้มีความสุข เราก็สบายใจ ไม่ต้องเกร็ง หรือว่าคอยจับผิดว่าเธอจะไปไหนยังไง เน้นความสบายใจ ความสุขมันอยู่ง่ายๆ แบบนั้นแหละ”

เรื่องรักไม่จำกัดเชื้อชาติ ถ้าอยู่ด้วยแล้วสบายใจคือแฮปปี้ แต่ที่คุยอยู่ตอนนี้คือคนไทย
“ความรักเราอย่าไปจำกัด อย่างที่บอกเน้นจิตใจ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ จะต่างชาติ จะผิวยังไง จะอายุเท่าไหร่ จะแบบไหนยังไง ถ้าสบายใจและเป็นความรัก ความปรารถนาดี ที่อยากจะเห็นอีกคนหนึ่งเขามีความสุข ถ้าเราได้เจอคนในชีวิตแบบนี้ ก็แฮปปี้นะ แต่แขกรับเชิญตอนนี้ก็ยังพูดภาษาเดียวกันอยู่ ตอนแรกนี่บอกทีวีธันเดอร์ว่าเธอ แขกรับเชิญคนแรกไม่ต้องไปเชิญใคร เชิญฉัน ฉันจะนั่งถามตอบตัวเอง เพราะฉันมีเรื่องจะเคลียร์เยอะมาก (หัวเราะ) ถามว่าจะเปิดตัวไหม ก็เอาให้รอดไปก่อนไหม คือคุยไปก่อน”

ขอบคุณคนดูให้กำลังใจ สามารถส่งฟีดแบ็กติชมได้
“ขอบคุณคนดูทุกท่านที่ให้กำลังใจแมร์ ทั้งต่อหน้าและทางออนไลน์ ได้อ่านทุกคอมเมนต์ ขอบคุณมากๆ เปิดรับเสียงติชม อยากจะแนะนำอะไร อยากให้ทำอะไรเพิ่มมากขึ้น อันนี้คือถือว่าเขารักและปรารถนาดีกับเรา ขอฝากรายการเคลียร์กับแมร์ ทางช่อง 3 ทุกวันพุธ - ศุกร์ ก่อนข่าวเที่ยง เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ค่ะ”