"พล แคลช" ขอแจงบ้าง "ผมเองแหละต้นเหตุ"?

เป็นเรื่องร้อนๆ ช่วงปีใหม่ที่่ผานมา หลังจากที่ "แฮ็ค ฐาปนา ณ บางช้าง" มือกีต้าร์วง "แคลช" ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านสังคมออนไลน์ระบุทำนองว่าจากนี้ไปจะไม่มีวงแคลชอีกแล้ว เนื่องจากทางด้านของ "แบงค์ ปรีติ บารมีอนันต์" นักร้องนำอยากทำอัลบั้มเดี่ยวอีกครั้ง

ก่อนที่ในเวลาต่อมาทางด้านของแบงค์จะมีการโพสต์ข้อความชี้แจงบ้าง โดยยืนยันว่าจริงๆ แล้วเรื่องการไม่ทำวงต่อนั้นไม่เกี่ยวกับตนเองแต่เป็นการตกลงพร้อมใจของสมาชิกทั้งวง และตนเองก็ไม่ได้อยากเลิกแต่เป็นเพราะมีสมาชิกคนอื่นไม่อยากทำต่อนั่นเอง

นอกจากนี้เจ้าตัวยังระบุว่าโดยส่วนตัวไม่ได้โกรธอดีตเพื่อนร่วมวงแต่อย่างใด แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องโพสต์โดยพุ่งเป้ามาที่ตนเองด้วย (อ่านข่าว : "แบงค์ ปรีติ" ขอแจงหลังดรามาต้นเหตุทำ "แคลช" ยุบวง!)

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดก็เป็นทางด้านของ "พล คชภัค ผลธนโชติ" มือกีต้าร์ของวงอีกคนที่มีการโพสต์ถึงเรื่องนี้บ้างโดยเผยว่าตนคือสาเหตุหลักเลยก็ว่าได้เรื่องการเบรควง...

"จะไม่พูดอะไรเลยกับเรื่องวงที่เราก็เป็นหนึ่งในสมาชิกมันดูจะนิ่งเฉยเกินไปครับ

คนที่พี่แบงค์พูดถึงว่าไม่มีเวลาเพียงพอที่จะมาเล่นคอนเสิร์ต จริงๆแล้วก็ผมเอง ผมคือสาเหตุหลักเลยก็ว่าได้เรื่องการเบรควง แต่ผมคิดเรื่องนี้และบอกเพื่อนๆตั้งแต่วันที่จะกลับมาทำงานร่วมกันแล้ว ว่าผมมองช่วงเวลาการทำงานกับ Clash แค่ไหน ได้ถึงไหนและควรทำจะอย่างไร ผมเสนอไปถึงขั้นว่าถ้าผมไม่มีเวลาแล้วเพื่อนยังอยากเล่นต่อสามารถหา Backup มาเลยแทนหรือเล่นกัน 4 คนได้นะ ผมไม่ติดเลยผมยินดี เพราะผมรู้ว่าผมทำได้แค่ไหนจริงๆ

(แต่สุดท้ายผมคิดว่าผมทำงานให้กับวงและทัวร์คอนเสิร์ตอย่างสุดความสามารถแล้ว)

เลยส่งผลไปถึงการเซ็นสัญญากับทางบริษัทว่าขอแค่ 3 ปีแล้วค่อยตัดสินใจต่อไปละกัน แต่ระหว่างทางปัญหาในวงมันก็มีเป็นธรรมดาครับ มนุษย์อยู่ร่วมกัน มีความคิดและทัศนคติที่ไม่เหมือนกัน จุดนี้เองเป็นจุดที่ตัวผมเองรับได้บ้างรับไม่ได้บ้างเหมือนกันครับ

พูดถึงคอนเสิร์ตใหญ่ของวงที่เลื่อน ส่วนที่หนึ่งก็เพราะโควิดด้วยที่ทำให้แพลนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และส่วนที่สองมันเลยเวลาของการครบรอบ 20 ปีไปแล้ว มันเป็น 21 ปี ผมอยากจัดแบบครบรอบ 20ปี , 25ปี , 30ปีอะไรแบบนี้มากกว่า มันดูลงตัวกว่า (ความรู้สึกส่วนตัว) และเพราะการทำคอนเสิร์ตใหญ่ทีนึง ใช้เวลาชีวิตเยอะมาก คิดและซ้อมกันเป็นเดือนๆไม่ง่ายจริงๆนะ กีต้าร์ต้องเล่น ดาต้าต้องทำ ระบบต่างๆอีก งานมันใหญ่นะวิ

ส่วนที่สาม เพราะคอนเสิร์ตปลายปี 2565 นั้นเยอะมากกกกก วงมีทัวร์ตามสถานที่ต่างๆอยู่แล้วและยังมี GTML2 / BMMF12 ที่เป็นงานใหญ่ๆ ส่วนตัวเลยมองว่าแน่นไปไม่มีเวลาทำงานครับ ผมไม่อยากทำแบบแค่ทำให้มันเกิด

ทั้งหมดก็เลยมาถึงจุดที่ผมคิดว่าผมอยากหยุดรับงานคอนเสิร์ตวง Clash ผมขอรับงานถึงแค่ 31 ธค 2565 นี้พอแล้วและอะไรหลายๆอย่างมันบอกว่าถึงเวลาที่ผมจะวางทุกอย่างลงแล้ว

สุดท้ายขอขอบคุณมิตรรักแฟนเพลงที่ติดตามวง Clash มาตลอดและต้องขอโทษที่ไม่ได้บอกกล่าวใดๆเลย ขอโทษจริงๆครับ"

วงแคลช (Clash) แต่เดิมมีชื่อวงว่า "ลูซิเฟอร์" เริ่มต้นเซ็นสัญญากับกับค่ายอัพจี หนึ่งในค่ายเพลงในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ในปี พ.ศ. 2544 หลังคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ฮอตเวฟมิวสิกอวอร์ดส์ ก่อนมีผลงานอัลบั้มแรกชื่อ "วัน" ออกมาในปีเดียวกัน และประสบความสำเร็จมากๆ จากงานชุดที่ 2 อย่าง "ซาวด์เชก" ในปีพ.ศ. 2546 ที่มีเพลงฮิตอย่าง เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป, ขอเช็ดน้ำตา ฯลฯ

ปีพ.ศ. 2553 หลังออกอัลบั้มชุดที่ 7 ในชื่อ "ไนน์มิสยูทู" วงแคลชได้ประกาศยุบวงก่อนกลับมาร่วมกันอีกครั้ง ในปี พ.ศ.2563 พร้อมปล่อยอัลบั้มที่ชื่อ "เลาด์เนส" กระทั่งในการเล่นคอนเสิร์ตส่งท้ายปี พ.ศ. 2565 ก็มีข่าวว่าทั้งหมดจะไม่กลับมาทำงานร่วมกันในนามของวงแคลชอีกแล้ว

สำหรับสมาชิกวงแคลชประกอบไปด้วย ปรีติ บารมีอนันต์ (แบงค์) ร้องนำ, คชภัค ผลธนโชติ (พล) กีต้าร์, ฐาปนา ณ บางช้าง (แฮ็ค) กีต้าร์, สุกฤษณ์ ศรีเปารยะ (สุ่ม) เบส และ อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ (ยักษ์) กลอง