มีอาชีพเป็นตลก แต่ชีวิตก็ไม่ได้ตลกไปซะทุกอย่าง เพราะกว่าจะมาถึงจุดสูงสุดอย่างวันนี้ได้ ตลกซุป’ตาร์ อย่าง “หม่ำ จ๊กมก” เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ก็สู้ฝ่าฟันมาไม่น้อย ไหนจะการแข่งขันรอบตัว และครอบครัวที่ไม่ลงรอยกัน จนบางทีก็รู้สึกว่าพี่น้องไม่เหมือนพี่น้อง โดยเจ้าตัวได้เผยในรายการ ‘คนรักของหม่ำ |รวมฮิตหม่ำมาเล่า Ep.2’ ทางช่องยูทิวบ์ของลูกสาว “เอ็ม บุษราคัม วงษ์คำเหลา” ถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของตนและพี่น้อง อย่าง “แวว จ๊กมก” ว่าก่อนจะเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว เคยมีเรื่องที่ฝังใจกันมาก่อน
“พ่อไม่สนิทกับใครเลย ปู่กับย่าไม่ค่อยชอบพ่อ ก็เลยทำให้คนอื่นพลอยไม่ชอบพ่อไปด้วย ด้วยความที่พ่อเป็นคนรักอิสระ ชอบใช้ความคิดมากกว่าการใช้กำลัง วิธีการหาเงินบางครั้งมันก็ไม่ต้องใช้แรง ตอนขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ ใหม่ๆ แววเป็นหางเครื่องอยู่วงดนตรี แล้วพลิกชีวิตมาเป็นตลกเพราะพ่อพามานี่แหละ ถ้ามันเดินตามพ่อ มันก็จะเป็นคู่หูพี่น้องที่โคตรฮาเลยแหละ ถ้ามันเชื่อพ่อนะ แต่ความคิดมันสวนทางกับพ่อ
แล้วพี่น้องของพ่อทุกคน ไม่รู้นะ บางทีก็คิดว่าไม่เหมือนพี่น้อง พ่อเคยขอตังค์อาแวว 20 บาท ตอนท้องเอ็ม มันบอกว่ามึงก็ไปหางานทำสิ พ่อน้ำตาร่วง ตั้งแต่นั้นมาพ่อไม่เคยขอตังค์มันอีกเลย จนถึงทุกวันนี้ จนถึงมันตาย ให้พ่อเลือดตากระเด็นยังไงพ่อก็ไม่เอา ขอตายอย่างหัวหมา ดีกว่าเป็นหางราชสีห์
แล้วอีกอันคือพี่ชาย ตอนนั้นเขารวย เขาจัดงานวันเกิดให้เอ็ม ก็ซื้อโน่นซื้อนี่มาสัก 7,000 นี่แหละ แล้วสุดท้ายเขาก็มาทวงตังค์พ่อ พ่อก็บอกว่าวันนั้นเลี้ยงไม่ใช่เหรอ แต่เขาบอกตอนนี้เขาไม่มี เขาขอคืน ซึ่งตอนนั้นพ่อก็ไม่มีเหมือนกัน แต่พ่อก็ทยอยคืน พูดก็เหมือนลำเลิกบุญคุณอีกแหละ จนวันที่เขาเสียชีวิตนั้นแหละ ที่บอกว่าไม่เหมือนพี่น้อง เพราะเขาคิดกันแบบเดิมๆ ไง เขาไปกันถึงไหนแล้ว ยังอยู่ที่เดิมอยู่เลย”
ร่ำไห้เล่าเรื่องของแวว ก่อนตายบอกว่าตนอย่าเพิ่งตาย ขอให้ตัวเองตายก่อน
“พ่อเคยบอกอาแววว่า ทำไมมึงไม่ทำเหมือนที่กูทำ มันเลิกงานเที่ยว มีเงินเที่ยว ไปโน่นไปนี่ เที่ยวเธค เที่ยวผับ ทั้งเหล้า ทั้งยาเสพติด มันก็ล่อแหลมสิ มันรู้ว่าพ่อไปงานไหนมันจบหลบ เพราะพ่อจะด่าทุกครั้ง แต่ที่ด่าเพราะอยากให้เป็นตลกผู้หญิงที่มีคุณค่าหน่อยได้ไหม ทุกครั้งที่มันโดนจับ มันไม่มีที่ไป พ่อน้ำตกใน ที่มันถือกระเป๋ามาหาพ่อ (ร้องไห้)
พ่อเห็นหน้ามัน มันไม่มีที่ไป มันถือกระเป๋ามาบอกว่าขออยู่ด้วย พ่อก็บอกมึงอยู่เลย มันก็อยู่กับพ่อเกือบ 2 ปี (ร้องไห้) พ่อแอบร้องไห้ อยากให้มันมาอยู่ด้วย พอมาอยู่ด้วยหน้าตามันก็ดีขึ้น ขาวขึ้น สดใสขึ้น เพราะพี่สะใภ้เอาครีมมาบำรุงผิว 7 วันก่อนมันตาย มันนวดให้พ่อ บอกว่าพี่อย่าเพิ่งตายนะ ให้ฉันตายก่อน ทำศพให้ฉันสวยๆ นะ อยู่ก็พูด
วันนั้นคือปกติถ้า 11 โมง พ่อแม่ลงมามันต้องตื่นแล้ว บ่ายโมง บ่ายสอง มันก็ยังไม่ออกมา พ่อสังหรณ์ใจตะหงิดๆ ไปเคาะก็ไม่เปิด เลยสั่งให้ทุบกระจกด้านห้องน้ำเข้าไป ก็เห็นมันนอนอยู่ ก็คิดว่าสงสัยหลับอยู่ แต่พอไปจับไปปลุก มันแข็งแล้ว พ่อก็ค่อยๆ เดินเข้าไป บอกให้ทุกคนออกให้หมด แล้วก็โทร.แจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานมา พ่อนั่งอยู่กับมันเกือบสองชั่วโมง นั่งลูบหัว คิดถึงที่ด่ามัน ที่เตือนมัน นั่งน้ำตาไหลอยู่คนเดียว
ถามว่ามันเกเรไหม ไม่ดีไหม แต่ท้ายสุดมันก็คือน้องเรา ต่อให้มันเป็นมหาโจร ชั่วช้า มันก็คือน้องเรา มันตัดกันไม่ได้หรอก เลือดมันข้นกว่าน้ำ แล้ววันเผาพ่อก็เสียงหลงนะ อย่าเผาน้องกูๆ แต่ช่างมันเถอะบุญวาสนามันมีแค่นี้ แต่ถ้ามันเชื่อพ่อสักนิดเดียว มันจะดีกว่านี้ ให้มาอยู่ด้วยกันตั้งนานแล้วไม่มา”
รู้สึกได้ว่า 2 ปีที่อยู่ด้วยกัน อีกฝ่ายกลับใจแล้ว
“แววมันดีอย่างหนึ่ง มันเป็นคนขยัน ถ้วยจานเอี่ยม ห้องน้ำ ที่หลับที่นอนเอี่ยมหมด แต่ขออย่างเดียวอย่าให้มันทำกับข้าว สิ่งที่ประทับใจมันคือตอน 2 ปีที่มาอยู่ด้วยกันนี่แหละ มันเหมือนคนกลับใจ เรารู้สึกได้ แล้วมันเป็นคนสนุก เป็นคนทะลึ่งตึงตัง ตอนที่มาอยู่บ้านเรา 2 ปีมันสนุกมากนะ แม่ก็มีความสุข เข้าหากันดีมาก”
ก่อนจะปิดท้ายกับลูกสาวว่า “เรื่องเศร้าๆ ไม่เอาแล้วนะ เรื่องคนตายไปแล้ว ไม่เอาแล้วนะ”
