xs
xsm
sm
md
lg

จากคลิป "ทอม ครูซ" ตัวปลอมแบบขำๆ สู่บริษัทเทคนิคพิเศษระดมทุนหลักร้อยล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เผยโฉมหน้าจริงของ "ทอม ครูซ" ตัวปลอม ผลงานการสร้างสรรค์ของศิลปินเทคนิคพิเศษ และนักแสดงหนุ่มที่ดูมีรูปร่าง "คล้าย ๆ" พระเอกซูเปอร์สตาร์ ทั้งสองสร้าง TikTok ของ "ทอม ครูซ" ขึ้นมา จนมีคนตามถึงเกือบ 4 ล้านคน และคนชมคลิปเกิน 10 ล้านครั้งแล้ว

เมื่อต้นปี 2021 ที่ผ่านมา วิดีโอแปลก ๆ ของ "ทอม ครูซ" เริ่มถูกแชร์บน TikTok เป็นคลิปที่นักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ทำพฤติกรรม "ประหลาด ๆ" ทั้งเต้นอย่างบ้าคลั่ง, เล่นมายากล หรือทำหน้าตาตลก ๆ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ TikTok ของ "ทอม ครูซ" จริง ๆ แต่เป็นคลิปที่ผ่านเทคนิคพิเศษแนว deepfakes ที่ตอนนี้ทำให้ "ทอม ครูซ" ตัวปลอมคนนี้กลายเป็นคนดังขึ้นมาแล้ว

แม้จะมีทรงผม, การเหล่ตา และการหัวเราะโชว์ฟันที่เป็นเครื่องหมายการค้าของ ทอม ครูซ แต่คงไม่มีใครคิดว่าคนอย่าง ทอม ครูซ จะมาถ่ายคลิป TikTok แบบนี้จริง ๆ แต่หลายคนก็ยังลังเลเพราะมันดูสมจริงมาก



โดยคลิปดังกล่าวเกิดจากเทคนิคโนโลยี "ปัญญาประดิษฐ์" (AI) เพื่อสร้างทั้งใบหน้า และปลอมเสียงของ ทอม ครูซ ขึ้นมา เป็นผลงานร่วมกันของคนสองคน คือ คริส อูเม ศิลปินวิชวลและเอไอเอฟเฟ็กต์ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ไมล์ ฟิลเชอร์ นักแสดงสแตนด์ ที่มาทำหน้าที่เป็น "ร่างกาย" ของ ทอม ครูซ ตัวปลอม

คลิปของ ทอม ครูซ ตัวปลอม กลายเป็นที่สนใจ และได้รับความนิยม มียอดวิวนับสิบล้านครั้งบน TikTok ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ อูเม ร่วมกับคนอื่นๆ เพื่อเปิดบริษัทชื่อ Metaphysic ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เพื่อใช้เทคโนโลยี DeepFake แบบเดียวกันเพื่อสร้างคลิป และโฆษณาที่เป็นไปไม่ได้ อย่างกู้คืนภาพยนตร์เก่า, คืนชีพดาราที่เสียชีวิตไปแล้ว หรือ ลดวัยคนดัง โดย Metaphysic สามารถระดมทุนได้ถึง 260 ล้านบาท เพียงระยะเวลาไม่นานหลังก่อตั้ง

โครงการ Deepfake สำหรับลูกค้าของ Metaphysic รวมถึงแคมเปญ Gillette Razor ที่สร้างนักอเมริกันฟุตบอล "ดีออน แซนเดอร์" ในวัยเยาว์ขึ้นมาใหม่



นอกจากน้ันก็ยังมีโครงการกับสมาคมฟุตบอลเบลเยียม ที่ทำให้ผู้จัดการทีมชาวเบลเยี่ยมผู้ล่วงลับสองคนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ปัจจุบันศักยภาพของการใช้ Deepfake มีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มมีคนเป็นห่วงว่าจะมีการใช้เทคโนโลยีนี้ไปในทางแง่ลบ โดยเฉพาะการตัดต่อภาพหน้าคนดังเข้ากับวิดีโอโป๊

อย่างไรก็ตาม อูเม คือหนึ่งในคนที่พยายามพิสูจน์ว่า Deepfake สามารถสร้างความบันเทิง และนำมาใช้ในทางสร้างสรรค์ได้ โดยไม่ต้องหลอกลวงใคร

เขาใช้ Deepfake ทำให้นักแสดงสูงวัยดูเด็กลง และชุบชีวิตคนดังที่เสียชีวิตไปแล้ว ให้กลับมาโลดแล่นบนจออีกครั้ง



Deepfake ยังช่วยให้นักแสดงสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องไปเหยียบกองถ่ายด้วยซ้ำไป แม้จะสะดวก, ถูก และมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีคนที่เป็นห่วงการใช้ Deepfake ในแง่จริยธรรม

“เทคโนโลยีกำลังก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าใครจะชอบมันหรือไม่ก็ตาม” ทอม แกรม ผู้ร่วมก่อตั้ง Metaphysic กล่าวกับ CNN Business และยืนยันว่าเป้าหมายของบริษัทคือการ “มุ่งเน้นที่การพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราอย่างจริงจัง โดยไม่ทำงานที่เป็นการหลอกลวงใคร"

ส่วน คริส อูเม ซึ่งเคยสร้างซีรีส์ที่ใช้เทคนิค Deepfake ทั้งเรื่อง “Sassy Justice” บอกว่าไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบ แต่อนาคตของเทคโนโลยีนั้นสดใสจริงๆ “มันเป็นอนาคตที่คุณจะมีอิสระมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่สร้างสรรค์มากขึ้น” เขากล่าว



คริส อูเม ศิลปินวิชวลและเอไอเอฟเฟ็กต์



กำลังโหลดความคิดเห็น