xs
xsm
sm
md
lg

“เข้ม หัสวีร์” เกือบน็อคคากองถ่าย พบจุดเปลี่ยนชีวิต หันมาดูแลสุขภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เข้ม หัสวีร์” เล่าเบื้องหลังบู๊แหลกในละคร เป็นลมเกือบตาย กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต แม้จะยังเป็นวัยรุ่นแต่ก็ต้องตระหนักถึงเรื่องสุขภาพ จากนี้มีลิมิตในการทำงาน โอดเงินก็อยากได้นะ แต่สุขภาพก็ต้องดูแล

จบไปแล้วกับละครเรื่อง “ชาติพยัคฆ์คมนักเลง” ด้วยเรตติ้ง 4.7 จนพระเอกหนุ่ม “เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” ได้ฉายาพระเอกสายเวทย์ไปครอง ซึ่งเข้มทุ่มเทฟิตซ้อมร่างกายเพื่อรับบทบู๊ในเรื่องอย่างจริงจัง พอได้เห็นผลงานและฟิตแบค เจ้าตัวยอมรับว่าเซอร์ไพรส์มาก

“ละครชาติพยัคฆ์คมนักเลง ผลตอบรับดีมากๆ คนชื่นชมเรื่องซีจีที่ละเอียดมากและเรื่องนี้ซีจีเยอะมาก เกือบทุกฉาก ภาพสวย สีสันทุกคนชม เป็นการเปลี่ยนแปลงจากก่อนหน้านี้ ตอนแรกผมคิดไม่ออกว่าละครจะออกมายังไงเพราะช่วงที่เราถ่ายมันผสมผสานหลายอย่าง ทั้งความเชื่อ ผีดิบ มันลุ้นตามไปกับแฟนๆพอตัดต่อออกมาแล้วสนุกเกินคาด การเรียบเรียงต้นกลางจบบริษัทโคลิเซี่ยมทำได้ดีมากๆ ตัดออกมาสนุก กระแสที่คนพูดถึงดีทุกอย่าง ในเรื่องก็จะค่อยๆ เติบโตคนดูจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงเก่งเรื่องอาคมของขลัง”

“การทำงานคือเซอร์ไพรส์มาก ซีจีทุกวัน เรื่องนี้ผมต้องฟิตหุ่น ดูแลสุขภาพ ได้ดูแลกล้ามเนื้อสัดส่วนของตัวเองก็ยังมีโครงๆบ้าง ต้องคุมเรื่องอาหาร ฉากไหนที่โชว์บอดี้ก็จะกินข้าวน้อย แล้วมันก็จะหน้ามืด มีฉากที่เล่นกับพญางูเกือบเป็นลม ตอนนั้นทุกคนคิดว่าผมแกล้ง เพราะผมชอบขี้แกล้ง แต่จริงๆ ผมไม่ได้เล่น หน้าผมไม่มีสีเลือดแล้ว อีกนิดเดียวผมหงายท้อง แล้วต้องบู๊เกือบชั่วโมง ทั้งถ่ายบู๊จริงและกับซีจีและแดดกาญจนบุรีก็ร้อนมาก และด้วยชุดด้วยอะไรด้วย เกือบได้เป็นลมกลางกองแอดมิดด่วน คือเราพักไปนานไม่ได้ออกไปฟิตไปวิ่งที่ไหนให้กล้ามเนื้อหัวใจเต้นปกติ แล้วต้องเล่นบู๊ยาวนานใช้ทั้งร่างกายมันปรับตัวไม่ทัน”

ผลของความขี้เล่น ทำสงสารตัวเอง เป็นลมกลางกองถ่ายแต่ไม่มีใครเชื่อ
“ตอนนั้นก็สงสารตัวเองนะ ผลของการเป็นคนขี้เล่น คนมองว่าเราเล่นอยู่ คนอื่นไม่คิดว่าเราเป็นลมจริงๆ ต้องจริงจังบ้างแล้ว คนติดภาพเราเป็นคนสนุกสนาน แต่ก็ต้องแยกนะว่าเวลาผมจะเป็นลม ผมเป็นจริงๆ นะ อาการผมออกเลย อีกนิดเดียว ตอนนั้นรู้สึกแล้วว่าเฮือกสุดท้ายของชีวิตเป็นยังไง"

"ซึ่งเหตุการณ์นี้แหละทำให้รู้ว่าเราชะล่าใจเกินไปในการดูแลสุขภาพตัวเอง เรารู้สึกว่าเรายังวัยรุ่น ยังเด็ก ยังใช้พลังในการเล่น การถ่ายทำ ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตเป็นปกติแต่มันไม่ใช่เลย มันสะสมตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่มันเกือบจะเป็นลมว่าร่างกายเราต้องการพักผ่อน มันมาเตือนไว้แล้วว่าถ้าหนักกว่านี้อาจจะน็อกไปเลยก็ได้ ใครจะไปรู้”

ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ทำให้ตระหนักถึงเรื่องสุขภาพ หลังจากเช็คร่างกายจริงจังแล้วก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตทันที
“ไปเช็คหัวใจตรวจคลื่นหัวใจเลยครับ ตรวจทุกอย่างปกติหมด มีแค่ความดันที่เราดื่มน้ำน้อย ก็เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองใหม่หมดเลย จากที่เคยกินรสจัดมากๆ มันก็เสี่ยงโรคกรดไหลย้อนเพราะผมชอบกินแล้วนอนเลย เป็นแล้วจะทรมาน กินน้ำให้เยอะขึ้น พอเราหันมาสนใจดูแลมันจริงจัง ร่างกายก็เริ่มดีขึ้น พอปิดกล้องเรื่องชาติพยัคฆ์คมนักเลง ผมก็ขอผู้ใหญ่ว่าขอรีเฟรชตัวเองข้างในใหม่เลยให้มันแข็งแรง ขอพักผ่อนให้มันแข็งแรงเต็มที่เหมือนเมื่อก่อน"

"มันเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตผมเลย ที่รูัสึกตระหนักว่าเราตะต้องดูแลตัวเองให้มากๆ อย่าคิดว่าเรายังอายุน้อย คิดแบบนั้นไม่ได้เลย เมื่อก่อนผู้ใหญ่ก็จะบอกว่า เมื่อไหร่ใกล้แตะ 30 จะรู้สึกเหนื่อยง่าย ผมก็บอกว่าผมเตะบอล 3-4 ชั่วโมง ผมก็วิ่งได้ วิ่ง 10กม. ก็วิ่งได้ ไม่เหนื่อย แต่พอวันนั้นเกิดขึ้นคือบอกตัวเองว่า ไม่ได้แล้ว ร่างกายเรามีจุดเปลี่ยนจริงๆ”

ประเมินตัวเองกับลิมิตในการทำงาน โอดเงินก็อยากได้ แต่สุขภาพก็ต้องดูแล อยากมีชีวิตที่ทำงานไปได้นานๆ
“เวลาทำงานผมทำงานเต็มที่ เวลาเล่นเข้มก็ไม่ห่วงอะไร เข้มจะไปสุด ปล่อยสุดตัวทิ้งตัว งานอะไรก็แล้วแต่ที่เข้ามา จ้างผมร้อย ผมให้ล้าน ผมเต็มที่กับทุกงาน แต่หลังๆ มาก็จะประเมินตัวเอง ประเมินลิมิตในการทำงาน เรื่องงานต่างๆ ด้วย เงินก็อยากได้นะ แต่สุขภาพก็ต้องดูแล บางงานก็ขอพักตัวเองก่อนค่อยกลับมาลุยต่อ อยากทำงานนานๆ”













กำลังโหลดความคิดเห็น