“ปราง กัญญ์ณรัณ” เขิน ใช้ความสวยเปลืองกลายเป็นไวรัล หน้าสดยังรอด โอดคนกดไลก์มากกว่าตอนแต่งหน้าอีก ต่อไปออกอีเวนต์ไม่แต่งหน้าแล้ว มอง “ปั้นจั่น” เจ้ากรรมนายเวร ร่ำลากันดิบดี สุดท้ายได้กลับมาเล่นละครเรื่องเดียวกัน
แชร์จนกลายเป็นไวรัล สำหรับหน้าสด “ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” ที่หลายคนบอกว่าแม้หน้าสด แต่เธอก็ยังรอด แถมใช้ความสวยได้เปลืองมาก ล่าสุดเจอตัวปรางในงานแถลงข่าวต่อสัญญาพรีเซ็นเตอร์ แป้งเจ้านาง ฉลองยอดขาย 1 ล้านตลับ เปิดตัวแคมเปญ “เจ้านางสายเปย์ ชวนช้อปแป้งพัฟ ลุ้นรับรางวัลใหญ่” ณ. ห้องบอลรูมวิภาวดี C โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว เจ้าตัวก็เผยถึงเรื่องนี้ พร้อมเผยว่าในงานเปิดต้นคริสต์มาส ได้มีโอกาสร้องเพลงเต็มๆ ถึง 5 เพลง รับมีความสุข เพราะจริงๆ ก็อยากเป็นนักร้องเหมือนกัน
“ตอนแรกหนูคิดว่าเป็นการไปร้องเปิดต้นคริสต์มาส แต่พอไปเห็นก็โอ้โห จริงๆ หนูก็ดีใจนะ เพราะว่ามันก็เป็นหนึ่งในความฝัน วันนั้นก็เต็มที่มากๆ เสื้อผ้าหน้าผม ก็มีแต่คนแซว เพราะลงรูปลงอะไรเยอะมากเป็นพิเศษนิดหนึ่ง ดีใจค่ะ เราชอบร้องเพลงมากๆ ไม่เคยคิดจะมีคนจ้างให้ไปร้องเพลง (หัวเราะ) ขำมากมีเพื่อนๆ แซวแย่งอาชีพ แล้วมีคนมีคอมเมนต์ว่า นักร้องขนลุกซู่แล้วลูก ก็ดีใจค่ะ จ้างอีกหนูก็ไปอีกค่ะ เต็มที่มาก (หัวเราะ)
ถือเป็นงานแรกๆ เลยไหมที่ร้องเพลงเต็มตัว ปกติก็มีไปร้องเพลงบ้าง แต่ก็นิดหน่อย 2 เพลง แต่งานนี้ก็ 5 เพลงค่ะ คือเขามีเวลาให้ชั่วโมงหนึ่ง ถ้าไม่ติดงาน หนูจะร้องสัก 10 เพลง (หัวเราะ) ชอบมาก เป็นคนมีความสุข อยากจะร้องเพลงให้คนฟัง ตอนนั้นก็ลุ้นว่าจะมีคนมาดูเราไหม เพราะถ้าเป็นนักร้องเขาก็จะมีแฟนเพลงของเขา ที่มาติดตาม แล้วมันเป็นวันคริสต์มาสด้วย คนจะไปกินข้าวไหม แต่พอเราไปเห็นคนมาเยอะ เราก็เต็มที่มาก คนแซวคือขำมาก เมื่อเช้าตื่นมาก็เพิ่งเห็นเหมือนกัน เขาบอกว่าขนลุกซู่หมดแล้ว จะรับงานร้องเพลงด้วยเหรอต่อจากนี้ (หัวเราะ)”
บอกดาราเป็นนักร้องไปหมดแล้ว ต้องมีซิงเกิลเองบ้างแล้ว
“อันนี้เรื่องจริงนะคะ ทุกคนเริ่มมีซิงเกิลเป็นของตัวเอง หนูว่าหนูต้องมีบ้างแล้วแหละ (หัวเราะ) ถ้ามีเดี๋ยวจะรีบบอกเลยค่ะ ส่วนเพลงจะเป็นแนวไหน พอมานั่งคิดจริงจัง มันก็เป็นเรื่องยากเหมือนกัน เราจะทำเพลงแรกออกมาเป็นยังไง มันต้องตั้งใจนิดหนึ่งอะค่ะ แต่ว่าตอนนี้หนูก็จอยๆ ยืมเพลงคนอื่นร้องก่อนก็ได้ค่ะ
ส่วนโปรดิวเซอร์ จริงๆ มีหลายคน พี่ๆ โปรดิวเซอร์คนไทยเก่งมากค่ะ เราก็รู้จักส่วนหนึ่งมาสักพักหนึ่ง แต่ว่านั่นแหละค่ะ พอเราจะมีเป็นของเราเอง เราก็คิดมากอีก แต่ถ้าทำจริงๆ หนูก็อยากจะทำเป็นตัวของเราเลย ไม่ได้เป็นในทางที่คนอื่นๆ อาจจะออกมาในช่วงนี้ อาจจะเป็นเพลงช้าๆ ที่เราอยากจะร้องจริงๆ แต่ยังไม่มีอะไรเป็นคอนเซ็ปต์ เป็นรูปเป็นร่างเลย แต่จ้างงานได้ค่ะ ยืมเพลงคนอื่นร้องเพลงก่อนได้ หนูร้องเพราะมาก (หัวเราะ)”
มีค่ายมาทาบทามบ้าง จริงๆ หนูก็สนใจค่ะ มีโอกาสได้พูดคุยบ้าง แต่ว่ามันก็ยังไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่าง ตอนนี้พอเล่นไวโอลินเรื่อยๆ ก็มีงานโชว์ไวโอลินเยอะกว่างานร้องเพลงแล้วค่ะ มันตื่นเต้นกว่าร้องเพลงค่ะจริงๆ ถ้าได้ร้องเพลงก็จะมีแววตาที่ยิ้มแย้มหน่อย แต่พอเล่นไวโอลินแล้วก็จะมีสมาธินิดหนึ่ง จะเรียบร้อยขึ้นมานิดหนึ่ง (อยากทำอะไรอีกไหม?) หมดแล้วค่ะ (หัวเราะ) ต้องไปเล่นตลกแล้วมั้ง”
โสดแล้วมีเวลามากขึ้น ได้กลับไปทำสิ่งที่ตัวเองฝันมากขึ้น
“คือหนูมีเวลามากขึ้น อันนี้ต้องยอมรับจริงๆ หนูมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น มีเวลาที่จะตั้งใจทำอะไรมากขึ้นค่ะ ไม่ได้อยากให้มองมันเป็นเรื่องดีหรอกค่ะ แต่ว่าเหมือนกับว่าได้กลับมาทำอะไรที่ตัวเองฝันมากขึ้น เหมือนจริงๆ หนูมีความฝันอยู่แล้ว ว่าหนูชอบร้องเพลง แต่ที่ผ่านมามันไม่ได้มีโอกาสเข้ามา ตอนนี้มันมีโอกาสเข้ามา แล้วเรามีเวลา มันทำให้เราได้ทำให้มันดี อย่างคอนเสิร์ตล่าสุดที่ผ่านมา หนูมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น เรามีเวลาใส่ใจกับมันมากขึ้น พอผลงานมันออกมามันดี มันมีคนพูดถึง เราก็ดีใจ”
เขินใช้ความสวยเปลือง กลายเป็นไวรัล บอกบางวันไม่ได้สวยแบบนี้
“ตอนแรกไม่รู้เลย ว่าจะมีคนมาดู เพราะเขาบอกว่าเป็นการซาวด์เช็ก แล้วตอนนั้นยังไม่ได้แต่งหน้า ยังไม่ได้ทำผม เราไปซ้อมแล้วมีคนมาดูเยอะมาก แล้วเขาก็ถ่ายคลิปกันมา หนูก็ยังลุ้นอยู่เลย ยังถามผู้ช่วยอยู่เลยว่าปากซีดไหม ปากซีดไหม (หัวเราะ) ผมฟูไหม ยังไม่ได้ทำผมเลย แล้วคนถ่ายไปเยอะ ก็โชคดีมากเลยค่ะ ที่วันนั้นมันมันดูดี บางวันก็ไม่ได้สวยแบบนี้นะคะ
ถามว่ามั่นใจหน้าสดแค่ไหน จริงๆ หนูโอเคที่จะไปพบคนอื่นในหน้าสดค่ะ แต่บางทีมันก็จะมีความง่วงนอนอยู่บ้าง แต่ว่าวันนั้นถือว่าโชคดี หนูนอนเต็มอิ่ม ถามว่าเขินไหม เขิน คือกลายเป็นไวรัลไปเลยสำหรับคลิปนั้น แต่นอกจากนั้นหนูก็พยายามฟังด้วยว่าเราร้องดีไหมในคลิปนั้น เพราะมันจะถูกเผยแพร่ไปไกลมาก ก็ขอบคุณมากค่ะที่ชื่นชอบ คนกดไลก์เยอะกว่าตอนที่หนูแต่งหน้าอีก หรือว่าต่อไปนี้เราไปอีเวนต์เราไม่แต่งแล้ว (หัวเราะ)”
ร่ำลา “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” คิดว่าได้เล่นละครด้วยเรื่องสุดท้าย แต่ที่ไหนได้ยังหนีไม่พ้น มองเป็นเจ้ากรรมนายเวร
“เซอร์ไพรส์ไหมล่ะ พี่ชายหนู ตามมาอีกแล้ว (หัวเราะ) ทำไงดี เอาจริงนะ ครั้งแรกที่หนูรู้เรื่องนี้ หนูคิดว่าล้อเล่น พี่ใหม่ผู้กำกับโทร.มา บอกฮัลโหล ขอเบอร์ปั้นจั่นหน่อย เราก็ถามว่าเอาไปทำไม อย่าบอกนะ เขาก็บอกเออเอามาก่อน แล้วตอนนั้นเราก็ลุ้นๆ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะโทร.ไปติดต่อบทไหนยังไง เราก็ห๊ะ เป็นพระเอกเหรอ ยังไงๆ (หัวเราะ) แล้วก็เป็นเรื่องจริง แต่เขาโทร.มาหาหนูก่อนเลย บอกว่าปราง เอ็งหนีข้าไม่พ้นหรอก (หัวเราะ)
มองว่าเขาเป็นเจ้ากรรมนายเวร ตอนเล่นเรื่องสุดท้ายด้วยกัน ก็ร่ำลากันอย่างดีแล้ว ซึ้งแล้ว บอกพี่เราคงไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว แต่ว่าหนูรักพี่เสมอโน่นนี่นั่น ไม่น่าลาเลย (หัวเราะ) แล้วเขาเขาตามมาจริง ตอนแรกเขาไม่ได้มีวี่แววเลย เพราะจริงๆ เขาก็ยังรับละครอีกหลายเรื่อง
เราก็บอกพี่ใหม่ว่าพี่เลือกแล้วใช่ไหม เขาก็บอกปรางมันดี บทนี้มันต้องเป็นเขา แล้วเป็นละครรักโรแมนติกด้วย โอ้โหสุดๆ ไม่ตลกแล้วนะทีนี้ เล่นยากนะ แค่ฟิตติ้งยังขำเลย หันไปสบตาก็ขำแล้ว แล้วไหนเรื่องเขาต้องตกหลุมรักในความสวยของหนูมาก เครียดเลย”
บอกต้องสะเดาะเคราะห์ให้หลุดกัน
“ที่ผ่านมาไม่ได้เรียนแอ็กติ้ง แต่เรื่องนี้หนูว่าต้องเรียน (หัวเราะ) (ถึงคราวต้องไปสะเดาะเคราะห์ไหม สลัดเขาไม่หลุดแล้ว?) จริง ต้องเปิดดวงกันแล้วแหละหนูว่า ต้องไปให้หมอดูดูหน่อย ว่ามันเป็นยังไง (หัวเราะ) เออแต่หนูก็ไปทำบุญกับเขาบ่อยด้วย ไปพม่าไปอะไรด้วยกันไงช่วงนั้น ตอนขอก็ไม่ได้ขอนะ แค่ขอให้มีงานเยอะๆ แค่นั้น ลืมขอว่าอย่าเจอเขา หันมาข้างๆ เอา อยู่นี่ (หัวเราะ) ก็น่ารักดีค่ะ จริงๆ ถือเป็นเรื่องดี เพราะมีแฟนๆ ที่อยากให้คู่กัน พอคนเห็นภาพฟิตติ้งแรกแล้ว ก็มีคนพูดถึงเยอะเลย ก็ดีใจ แต่ต้องบอกก่อนนะคะ ไม่ใช่ละครตลก ดรามานะคะ ส่วนเรื่องแยกโซนในกอง จะได้ไหม (หัวเราะ) หนูก็เครียดอยู่ แต่เดี๋ยวจะเปิดกล้องล่ะ มกราคมนี้ เดี๋ยวมีบวงสรวง เดี๋ยวพี่ๆ ก็ได้เจอค่ะ”
สงสาร “เจษ เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์” ต้องมาเจอปั้นจั่นครั้งแรก
“ครั้งแรกค่ะ สงสารเจษเหมือนกัน เขาคงงง เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เรามองว่าพี่ปั้นคือสุดๆ แล้วค่ะ คือตั้งแต่วันมาเจษเงียบเลย แต่เดี๋ยวเขาน่าจะชิน แต่หนูก็กลัวเขาไปอยู่กับพี่ปั้น แล้วเขาแปลงร่างเป็นพี่ปั้น ผู้หญิงน้อยด้วยไง เหนื่อยด้วย เรื่องนี้ไปถ่ายไกลด้วย ก็ฝากติดตามค่ะ ถามว่าฝากอะไรถึงพี่ปั้น ก็ละครรักโรแมนติกนะคะ นิดหนึ่งนะคะ รักหนูได้ไหมเนี่ย รักหนูได้ไหม มองหน้าแล้วไม่ขำ มองหน้าต้องชอบนะคะ (หัวเราะ)”
