“แอล กมลวรรณ” เล่าเหตุการณ์รถชนที่พัทยา เผยเป็นการวูบตอนขับรถครั้งแรก ยันไม่ได้เมาแล้วขับ มีหลักฐานเป่าแอลกอฮอล์ หลังเกิดเหตุรีบลงไปขอโทษ ไม่ได้หลบหนี โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บ ประกันตีค่าเสียหาย 5 แสน พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง เคลียร์เองจบเองไม่มีใครช่วย พ่อกรุงรู้เรื่องจากข่าวพร้อมทุกคน
จากกรณีที่นักแสดงสาว “แอล กมลวรรณ สุทินเผือก”ลูกสาวของนักแสดงรุ่นใหญ่ “กรุง ศรีวิไล” มีอาการวูบขณะขับรถ ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนรถที่จอดอยู่ข้างทาง เกิดความเสียหายรวม 8 คัน ณ บริเวณหน้าร้านข้าวต้ม ริมถนนพัทยากลาง จ.ชลบุรี แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดวันนี้ (18 ธ.ค.) ในงานประกาศรางวัล ไทยแลนด์ ดิจิทัล อวอร์ด 2022 ครั้งที่4 (Thailand digital Awards 2022) เจ้าตัวก็ได้ออกมาสัมภาษณ์กับสื่อ ยืนยันไม่ได้เมาแล้วขับ เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดและตอนนี้ยังตกใจอยู่
“เหตุการณ์วันนั้นคือแอลไปพัทยากับคุณแม่และน้องชายค่ะ แล้วก็ไปวันเกิดของคุณน้า ก็แป๊บเดียวประมาณ 5 ทุ่มกว่า แล้วคุณแม่เขาก็กลับ เราก็ขับรถให้ แล้วเราขับอยู่ดีๆ มันก็รู้สึกวูบไปเลย คืออย่างมี่บอกว่า แอลเคยมีอาการวูบบ่อยๆ แต่ไม่เคยวูบขณะที่ขับรถ คือแอลเป็นคนที่ความดันต่ำ ต้องกินยาบำรุงเลือด แต่ปกติเราก็จะมีคนขับรถ แต่วันนั้นเราอยากจะเดินทางกันแค่สามคนแม่ลูก มันก็เลยเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น มารู้ตัวอีกทีมันก็ชนไปแล้ว รู้แค่นั้นเลย”
ปัดหลับในเป็นการวูบเพราะอาการป่วย
“คืออยู่ดีๆ ก็แว๊บไปเลยค่ะ แต่ไม่เคยจะเกิดในขณะขับรถแม้แต่ครั้งเดียว ปกติแอบเป็นคนชอบขับรถมาก เพื่อนๆ ก็จะรู้ จะเป็นขับรถให้เพื่อนๆ นั่งตลอดด้วย ซึ่งมันก็อาจจะมีช่วงที่อ่อนแอ เพราะว่าพักผ่อนน้อยหรือว่าอ่อนแอ หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ มันก็เลยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นค่ะ”
หลังจากเกิดเหตุการณ์ ก็รีบลงไปขอโทษ ไม่ได้หลบหนี และพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง
“เหตุการณ์หลังจากนั้น คุณแม่จะนั่งอยู่ข้างหลังใช่ไหมค่ะ พอรู้ว่ารถชนปุ๊บ หนูรีบวิ่งลงไป รีบเดินลงไป แล้วก็ไปยกมือไหว้เขา บอกว่าพี่คะ มีใครเป็นอะไรไหมคะๆ มีใครบาดเจ็บไหม หนูขอโทษนะคะ ขอโทษ ขอโทษวินมอเตอร์ไซค์ ขอโทษเจ้าของร้านข้าวต้ม ขอโทษทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นทั้งหมดค่ะ ไม่ได้มีการหลบหนีแต่อย่างใด เราขอโทษก่อน และทุกๆ คนเขาก็เป็นพยาน เพราะพวกพี่วินมอเตอร์ไซค์ ก็พูดออกข่าวไปหมดแล้ว ว่าแอลมีปฏิกิริยายังไงบ้าง ก็พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง”
คาดทุกคนไม่รู้ว่าเป็นตัวเองเพราะว่าใส่แมสก์ ไม่คิดว่าจะเป็นข่าว เพราะไม่อยากให้คุณพ่อไม่สบายใจ
"ไม่รู้ เพราะว่าหนูใส่แมสก์ แล้วอีกอย่างคือเราไม่ได้ต้องการที่จะให้เป็นข่าวอยู่แล้วด้วย หนูไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นข่าวเลย คิดว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุแค่นิดๆ ที่เราสามารถจะเคลียร์ได้ ไม่ต้องเป็นข่าวก็ได้ เพราะว่าอีกใจหนึ่งคือไม่อยากให้คุณพ่อไม่สบายใจ แล้วเราก็อยู่กับแม่ด้วย มันก็น่าจะผ่านไปได้ในเวย์ของเรา เราสามารถเคลียร์ได้”
หลังลงไปขอโทษผู้เสียหาย ไม่ได้มีใครโวยวายอะไร อาจจะช็อกกับเหตุการณ์อยู่
“เขาก็ไม่มีสีหน้าโมโหค่ะ ทุกคนนิ่งๆ ก่อน ก็คงยังงงกับเหตุการณ์ ช็อกๆ ตกใจ ไม่มีการพูดอะไร แล้วก็มีพี่ๆ มาถามว่าเราเป็นอะไรไหม ซึ่งแอลก็ยังหัวโนอยู่เลย แต่วันนี้เมคอัพกลบค่ะ แต่ก็ไม่มีใครที่จะโวยวายขึ้นมาค่ะ”
ยืนยันไม่ได้เมาแล้วขับ เพราะไม่ได้ดื่ม มีหลักฐานเป่าแอลกอฮอล์เป็นศูนย์หลังเกิดเหตุ และไม่มีใครช่วยหรือใช้เส้นพ่อ
“ไม่ดื่มค่ะ เพราะว่าหลังจากที่แอลรถชนเสร็จปุ๊บ แอลก็เดินทางไปสน.เลยทันที แล้วแอบก็ได้มีการอัดคลิปวิดีโอ ตอนที่แอลเป่าแอลกอฮอล์ด้วย แล้วก็มีหลักฐานการเป่าแอลกอฮอล์ อยู่ที่ สภ.พัทยาเรียบร้อย ในโทรศัพท์ก็ยังมีอยู่ค่ะ คือแอลกอฮอล์เป็นศูนย์เลยค่ะ หนูไม่ได้กิน ไม่ได้ดื่มเลยค่ะ แต่ว่าปกติหนูเป็นคนที่ดื่มนะคะ แต่ว่าวันนั้นหนูไม่ได้ดื่มจริงๆ ค่ะ ยืนยันว่าไม่ได้เมาแล้วขับและไม่มีใครช่วย เพราะว่าในคอมเมนต์เนี่ย เขาบอกว่าคุณพ่อเป็นสส. เป็นลูกสส. ใครช่วยหรือเปล่า แอลจะบอกไว้ตรงนี้เลยนะคะ ว่าตอนแรกคุณพ่อยังไม่รู้เลยว่าหนูรถชน คุณพ่อหนูรู้ตอนเช้าในข่าวพร้อมกับคนทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นไม่มีใครช่วยแอลค่ะ แล้วก็สำหรับคนอย่างแอลนะคะ ถ้าเกิดว่าแอลเกิดอุบัติเหตุ หรือเมาแล้วขับ แอลก็พร้อมจะรับผิดชอบทุกคน ไม่หนีแน่นอนค่ะ แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ก็โชคดีมากค่ะ ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไรเลย”
แจงประตูรถเปิดอ้าขณะเกิดเหตุ อาจจะไปโดนปุ่มเปลี่ยนโหมด หรือเพื่อนแม่ปิดประตูไม่สนิท
“คือรถอัลฟาร์ดอะ หนูไม่แน่ใจนะ คือคุณแม่เขานั่งอยู่ด้านหลัง แล้วแอลอะไม่เห็นหรอก ว่าประตูมันเปิดอยู่ มาเห็นอีกทีตอนที่เราจอดรถแล้ว รถชนเสร็จแล้ว เราก็เอ๊ะ ทำไมประตูมันเปิดอยู่ หนูก็ยังอยู่ที่รถนานมาก สรุปคือตรงขาของรถอัลฟาร์ด มันจะมีปุ่มอยู่ปุ่มหนึ่ง ถ้าเรากดปุ่มนี้มันจะเปลี่ยนโหมดเป็นใช่มือ หนูคิดว่าหนูอาจจะไปโดนปุ่มนั้นโดยที่ไม่รู้ตัว หรืออีกอย่างหนึ่งคือเพื่อนคุณแม่ลงไป แล้วอาจจะปิดไม่สนิท เพราะมันใกล้ๆ กับบ้านตรงนั้นเลยค่ะ มีแค่สองประเด็นนี้เท่านั้น”
พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง ประกันตีค่าเสียหาย 5 แสน
“ค่าเสียหายรวมๆ แล้ว เห็นประกันเขาตีนะคะ ประมาณ 5 แสน ซึ่งค่าเสียหายตรงนี้ประกันเขารับผิดชอบหมดทุกอย่างอยู่แล้ว และแอลก็พร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่างหมดเลย เพราะว่าถ้าเกิดมันเกินมาเราก็พร้อมรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่เราก็มีดูแลไปส่วนหนึ่งบ้างค่ะ เราไม่ได้ปล่อยใครทิ้งคว้าง แล้ว ณ วันนั้นที่เกิดเหตุ แอบก็หัวโน แขนก็เป็นแผล แล้วแอลก็ส่งทุกคน แอลคุยกับตำรวจจนทุกคนได้ใบบันทึกประจำวัน ผู้เสียหายประมาณ 10 กว่าคน แอลรอส่งทุกคนจนขึ้นรถหมด จนทุกคนสบายใจหนูถึงไปโรงพยาบาล”
ในที่เกิดเหตุเคลียร์กันได้แล้ว ไม่รู้ทำไมถึงเป็นข่าวอีก แต่ก็ไม่ได้คิดจะปกปิดอยู่แล้ว
“อันนี้ไม่ทราบเลยค่ะ เพราะว่าตื่นมาก็คือเป็นข่าวไปแล้ว แต่จริงๆ ก็ไม่ไปคิดจะปกปิดนะคะ แค่ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ค่ะ เป็นข่าวก็ได้ ไม่ได้ว่าอะไร”
โดนทัวร์ลงแต่น้อยมาก เพราะความจริงก็คือความจริง มีหลักฐานพร้อมทุกอย่าง
“ทัวร์ลงน้อยมากนะคะ หนูไม่มีทัวร์ลงเลย มีแค่นิดเดียวไม่ถึง 5 คนอะ มาลงที่ไอจีหนู แต่ก็ไม่มีผลอะไร เพราะความจริงมันก็คือความจริง แล้วหนูก็มีหลักฐานพร้อมหมดทุกอย่าง ไม่เชื่อไปสอบถามตำรวจก็ได้ค่ะ”
ยังมีตกใจบ้างเล็กน้อย ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้ออกไปไหน ปกติมีคนขับรถให้ตลอดอยู่แล้ว
“สภาพจิตใจตอนนี้ยังมีตกใจอยู่บ้างเล็กน้อยค่ะ ก็คือตั้งแต่วันนั้นยังไม่ได้ออกไปไหนเลย จนวันนี้ก็เข้มแข็งขึ้นค่ะ ออกมาพบกับพี่ๆ สื่อมวลชนได้แล้ว พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ แต่นี่น้องชายก็เป็นคนขับรถมาให้ คุณพ่อส่งน้องชายมาให้ แต่ปกติก็มีคนขับนั่นแหละค่ะ มันเป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆ ที่ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นค่ะ”
เป็นอุบัติเหตุครั้งแรก จากการขับรถเอง
“น่าจะเป็นครั้งแรกเลยค่ะ ที่เป็นอุบัติเหตุและใหญ่ขนาดนี้”
คุณพ่อเป็นห่วงแต่รับรู้ว่าเหตุการณ์คืออะไร
“คุณพ่อตอนแรกก็เป็นห่วงค่ะ อันดับแรกเลยคือเป็นห่วง แต่เขารู้ว่าเราไม่ได้เป็นอะไร เราไม่ได้เมา แล้วเราก็อยู่กับคุณแม่ พ่อเขาก็รับทราบอยู่แล้ว ว่าเราไปเที่ยวกันสามคน เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรเลย ไม่ใช่ว่าแอบไม่แคร์คนรอบข้างหรือว่าสังคมนะ แต่ว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิดอะค่ะ หนูก็ยอมรับและก็รับผิดชอบทุกอย่าง”
เคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ยังต้องมีไปเสียค่าปรับที่โรงพักอยู่
“หนูก็มีต้องเข้าไปที่โรงพักอยู่ค่ะ เพื่อไปเสียค่าปรับของทางตำรวจ แล้วผู้เสียหายคนอื่น ตอนนี้รถเขาก็ดำเนินการซ่อมอยู่ ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นเลย หนูก็ออกพวกค่าก่อนที่จะไปซ้อมอะไรแบบนี้ค่ะ หนูจัดการให้หมดทุกคน”
ไปหาหมอเช็กสุขภาพแล้ว วูบเพราะการพักผ่อนน้อย
“เช็กจริงจังค่ะ ของหนูอาจจะเกิดจากการพักผ่อนน้อย เพราะช่วงนั้นแอลก็ทำงานหนักมากๆ ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ก็อย่างที่บอกว่าเราเป็นโรคความดันต่ำด้วย แต่หนูก็รู้นะว่าหนูไม่ควรขับรถ แต่วันนั้นมันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ แล้วมันก็ไม่เคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อน นึกออกไหมคะ คุณหมอบอกว่าแค่พักผ่อนให้เพียงพอก็จะดีขึ้นแล้วค่ะ ไม่ได้เปนอะไรหนักหรือแย่ขนาดนั้นค่ะ”