“บุ๋น นพณัฐ” เล่านาทีหนีไฟไหม้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เผยตัดผมอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ตั้งสติได้วิ่งหาถังดับเพลิงมาช่วยดับ แต่ไฟแรงขึ้นบวกควันเยอะมากเลยต้องถอย สุดท้ายต้องวิ่งออกทางห้องน้ำ เตรียมถอยรถคันใหม่ หลังคันเก่าเครื่องพัง ยางระเบิด แถมโดนชน
ทำเอาแฟนคลับเป็นห่วงกันยกใหญ่ หลังนักแสดงหนุ่ม “บุ๋น นพณัฐ กันทะชัย” โพสต์ทวิตเตอร์ว่าอยู่ในเหตุการณ์ไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่โชคดีหนีออกมาได้แบบไม่เจ็บตัว ล่าสุดวันนี้ (13 ธ.ค.) ได้เจอหนุ่มบุ๋น ในงานแถลงผังเปิดตัวซีรีส์ของค่ายดูมันดิ ในปี 2566 กับงาน “DMD LINE UP 2023 Into The New Universe” ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เจ้าตัวก็ได้เล่าเหตุการณ์ระทึกในวันนั้นให้ฟัง ว่าตอนนั้นตนนั่งตัดผมอยู่ที่ร้านของ “ก้อง ไฮฟ์ ซาลอน” ดีที่ทำเสร็จพอดีก่อนไฟไหม้
“วันนั้นตัดผมที่ร้านพี่ก้อง (กฤษฏิ์ จิระเกียรติ) ด้วยความที่เราตัดเสร็จพอดีด้วย กำลังเป่าผม กำลังจะถ่ายสตอรี่กับพี่ก้องกับพี่ยูที่เป็นคนตัดผม พอควักโทรศัพท์ขึ้นมา พี่ก้องก็ตะโกนขึ้นมาไฟไหม้ เราก็นึกว่านิดเดียว พอหันไป ควันมันเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแรกมันมีแค่หย่อมๆ เดียวใต้บันไดเลื่อน สักพักหนึ่งพอเราออกไป มันเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราว่ามันไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวไปเอาถังดับเพลิงมาก่อน ก็วิ่งหาถังดับเพลิงกัน จนเราไปเจอหน้าประตูทางออกพอดีก็เลยเอามา พอจังหวะที่เรากำลังแกะสลักจะเข้าไปฉีด เรารู้สึกว่าควันมันเยอะ จนเราไม่ไหว ไฟมันเริ่มลามขึ้นเรื่อยๆ เราก็เลยวางถังไว้ เผื่อจะมีใครเอามาใช้แล้วเราวิ่งไปที่รถก่อน แล้วก็ขับรถออก”
ไม่หนีตอนแรกเพราะคิดว่าสู้ไหว แต่สุดท้ายไฟแรงขึ้นเลยไม่อยากฝืน
“คือตอนแรก ไฟมันไม่ได้ลาม ควันมันไม่เยอะ เราก็คิดว่าเราสู้ไหว อย่างน้อยก็ดับ กลัวคนอื่นที่เขาไม่รู้เขาจะเดือดร้อน เลยคิดไปช่วยเขาดับดีกว่า เพราะตรงนั้นจำได้ว่ามันจะมีพี่รักษาความปลอดภัย เราก็อยากช่วยเขาดับ แต่พอควันมันเริ่มเยอะ ไฟเริ่มแรง ก็ไม่ไหวเหมือนกัน คือเราก็อยากช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ เอาเท่าที่เราไหวเหมือนกัน เราก็ไม่อยากฝืนตัวเองด้วยครับ”
ไฟไหม้นิดเดียวแล้วก็ค่อยๆ ลาม แต่คนนอกห้างก็ยังไม่รู้
"คือตอนแรกมันไม่ได้ขนาดนั้น ด้วยความที่มันไหม้จากนิดเดียว รอบๆ หรือข้างบนเขาก็ยังไม่รู้ เพราะควันมันก็ยังไม่ขึ้นไปถึงเขา แต่สักพักมันก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ คือข้างนอกเขาก็ยังไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ ตอนแรกพี่ก้องวิ่งออกมาพร้อมกัน แล้วสักพักหนึ่งลืมไปเขามีทีมงานตัดต่ออยู่ข้างใน พี่ก้องเลยวิ่งเข้าไปตามทีมงานตัดต่อ เราก็วิ่งหาพี่ก้อง คือก็นึกว่าพี่แกออกมาแล้ว แต่ผู้จัดการพี่เคนบอกพี่เขายังไม่ออกมา ก็หากันไปหากันมา”
ไม่ค่อยตกใจเพราะมันจะยิ่งเตลิด ตั้งสติวิ่งหาถังดับเพลิงก่อน
“เราไม่ค่อยตกใจ รู้สึกว่ายิ่งตกใจมันยิ่งเตลิด เราคุมสติ ตั้งสติก่อน ว่าจะทำอะไรต่อไป ก็อยากช่วยแหละ แต่อย่างที่บอกไม่อยากฝืนร่างกาย เราก็ไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้น (ในคลิปเราสำลักควัน?) จังหวะนั้น น่าจะเป็นตอนที่วิ่งออกทางห้องน้ำ แล้วควันมันเยอะมาก มันเริ่มฟุ้ง เราก็ไม่ไหว ออกดีกว่า”
เป็นเหตุการณ์ที่สุดแล้วในชีวิต
“เราก็ตามข่าวเรื่อยๆ มีพี่ๆ แฟนคลับที่เขาตาม เขาก็โทร.ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เขาก็บอกว่าควบคุมเพลิงได้แล้ว เหลือแค่เคลียร์ควันออกมา แล้วก็ปิดโซนนั้น ผมก็รู้สึกโอเคแล้ว น่าจะปลอดภัยแล้วล่ะ ก็สุดแล้วครับ ผมไม่รู้จะทำอะไรได้มากกว่านั้นแล้ว (หัวเราะ)”
โชคดีทำผมเสร็จแล้ว ไม่งั้นคงต้องหนีทั้งหัวเปียกๆ
“เสร็จ เรายังดีที่ทำเสร็จแล้ว แต่มีพี่ที่เพิ่งสระผมแล้วหัวเปียกอะ เราก็บอกออกมาๆ ไฟไหม้ เขาก็เปียก เราสงสารเขา แบบเอาความปลอดภัยก่อน”
บอกอายุเกินเบญจเพสมา 2 ปีน่าจะเลิกชงแล้ว
“ผมก็อายุเกิน 25 ปีมา 2 ปีแล้วนะครับ ไม่น่าจะเหลืออะไรให้ชงแล้วนะครับ แต่ก็มีบ้างครับ หลายๆ เหตุการณ์ทำให้เราคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้น ก็พยายามเซฟตัวเองให้มากที่สุด ทำบุญก็มีบ้างครับ คือเราเป็นคนชอบทำบุญกับคน ไปบริจาคของ ไปแจกข้าว”
ซื้อรถใหม่เรียบร้อยหลังคันเก่าสร้างเรื่องไม่พัก
“ซื้อแล้วครับ จะไปออกรถวันที่ 15 ธ.ค. นี้ครับ คันเก่าก็ปล่อยน้องไป คือเราก็พูดกับเขาทุกวัน หนูเทาป๊ารักลูกนะ แต่ป๊าก็ไม่ไหวกับหนูแล้ว หนูทั้งยางระเบิด ทั้งเครื่องพัง เดี๋ยวโดนชน เราก็ไม่ไหวแล้ว ปล่อยหนูดีกว่า ไปหาลูกคนใหม่”
เชื่อคันเก่าสีไม่ถูกโฉลก ถ้าคันนี้ยังชนคงต้องออกรถถัง
“เขาบอกว่าอย่างนั้น ตอนนี้ซื้อสีขาวครับ น่าจะเข้ากับเรา ดูให้แม่ไปนั่งตอนออกจากโชว์รูม แล้วก็บีบแตร 3 ครั้ง เลขทะเบียนยังไม่รู้ แต่มาเต็มแน่รอบนี้ แม่ดูให้ทุกอย่างเลย วันไหนดี สีอะไรดี ก็ถามแม่ไป เรียบร้อยแล้ว จองไปไว้แล้วด้วย รอไปเอารถ แฟนคลับก็รอซูมทะเบียนรถแน่นอน เขาขอผมตั้งแต่ผมยังไม่ออกแล้วครับ ก็คือโดนกินเรียบตั้งแต่รถคันแรกแล้ว ถ้าคันนี้ยังชนอีก ผมก็ออกรถถังแล้วครับรอบหน้า ผมว่ารถธรรมดาสู้ผมไม่ไหวแล้ว (ยิ้ม)”