xs
xsm
sm
md
lg

“เบนซ์ พรชิตา” สุดเดือด แม่เกิดอุบัติเหตุรถเข็นลากลงจากทางเลื่อนกลางห้าง เย็บ 4 เข็ม ผ่าน 2 เดือนไร้เยียวยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เบนซ์ พรชิตา” เผยเรื่องช็อก แม่เกิดอุบัติเหตุ รถเข็นในห้างลากลงจากทางเลื่อน ศีรษะ-หน้ากระแทกรถเข็น เย็บ 4 เข็ม ห้างบอกจะดูแลค่ารักษา แต่ผ่านมา 2 เดือนไม่ได้รับการเยียวยา โชคดีที่พอมีเงินรักษา หากเป็นตาสีตาสาจะทำอย่างไร

นานๆ จะโพสต์มีเรื่องกับใคร สำหรับนางเอกสาว “เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา” ที่ล่าสุดได้โพสต์เรื่องราวการเกิดอุบัติเหตุของคุณแม่เมื่อ 2 เดือนก่อนในห้างแห่งหนึ่ง โดยคุณแม่โดนรถเข็นลากลงจากทางเลื่อน จนศรีษะและหน้ากระแทกจนได้รับบาดเจ็บ เย็บ 4 เข็ม แต่ผ่านมาถึง 2 เดือน ห้างที่รับปากจะดูแลค่ารักษา ก็ไม่มีการเยียวยาใดๆ เจ้าตัวจึงขอโพสต์เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ 

“เบนซ์ขอเล่าเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดกับคุณแม่เบนซ์เมื่อ 2 เดือนครึ่งที่แล้วเพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนไปซื้อของนะคะ เมื่อวันที่ 24 กันยายนคุณแม่ได้แวะไปซื้อของในห้างแห่งนึงใกล้บ้านแม่ ซึ่งปกติก็ซื้อที่นี่เป็นประจำ ในส่วนที่เป็นที่ซื้อสินค้าอยู่ชั้นสองทำให้ลูกค้าต้องใช้รถเข็นลงจากชั้นสองโดยใช้ทางเลื่อน เพราะทางห้างไม่มีลิฟต์ให้เลือกใช้

ปรากฏว่าล้อรถเข็นไม่ล็อกกับทางเลื่อนที่ลาดลงมาจากชั้นสอง ด้วยน้ำหนักของบวกกับรถเข็นเลยลากแม่เบนซ์ลงมาตลอดทางลาดด้วยความเร็วและกระแทกเข้ากับเคาน์เตอร์ของร้านค้าด้านล่างศีรษะและใบหน้ากระแทกเข้ากับรถเข็น เลือดไหลเยอะมาก (เพราะเพิ่งทำบอลลูนหัวใจไม่ถึงเดือน และต้องกินยาละลายลิ่มเลือด) เย็บไป 4 เข็ม มีแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายจุดจากการลากลงทางลาด และต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลา 3 วัน จึงกลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังมีอาการเจ็บอยู่
 
เหตุผลที่แม่ไม่ปล่อยรถเข็น เพราะข้างหน้ามีคนยืนอยู่บนทางเลื่อน จึงกลัวว่ารถเข็นจะพุ่งไปกระแทกหลังหรือชนคนอื่นจนได้รับบาดเจ็บเลยพยายามดึงไว้ ซึ่งหลังเกิดเหตุวันรุ่งขึ้นเบนซ์ได้ไปดูจุดเกิดเหตุก็มีคนเข้ามาเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ที่จะเกิดเหตุกับแม่ ก็เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้หนึ่งวัน ตอนที่แม่อยู่ที่โรงพยาบาล ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการของทางห้างมาเยี่ยมโดยบอกกับทางเราว่าจะมีผู้ใหญ่เป็นอดีตนักการเมืองจะขอมาเยี่ยมแม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา แต่ที่มาคือผู้จัดการของห้าง ช่วงแรกที่คุยก็เหมือนจะไม่ราบรื่น แต่ก็สรุปจบตรงที่ ผู้จัดการห้างบอกว่าทางห้างจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ให้ แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากที่เกิดเหตุผู้จัดการห้างก็โทร.มาถามถึงอาการแม่ 1 ครั้งโดยถามแค่อาการและบอกว่าจะโทร.มาถามอาการเรื่อย ๆ ซึ่งหลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ทางห้างก็ไม่ได้มีการเยียวยา ชดใช้ หรือติดต่อกลับมาทางเราอีกเลย ที่เบนซ์ออกมาเล่าให้ฟังเพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคน

ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณหรือหัวหน้าครอบครัวจนต้องหยุดงาน เพื่อรักษาตัวมากน้อยจำนวนวันขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บของแต่ละคน หรือแม้กระทั่งอาการที่หนักจนถึงชีวิต ทางห้างควรดูแลความเสียหายให้เป็นมาตรฐานไม่ใช่แค่แวะมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล 1 ครั้งและโทร.มาถามอาการอีก 1 ครั้งโดยบอกว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายแต่ผลคือกลับเงียบไปเฉย ๆ เหมือนทางห้างรอว่าผู้บาดเจ็บแต่ละคนจะใช้กฎหมายหรือเอาเรื่องกับทางห้างขนาดไหนถึงจะยอมออกมาดูแล

กรณีแม่ของเบนซ์คือเรายังสามารถดูแลแม่ได้ และถ้ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นกับคนที่ไม่มีกระบอกเสียง ไม่มีสตางค์ ผู้สูงอายุที่ไม่มีญาติ หรือตาสีตาสาทั่วไปจะทำยังไงดังนั้นทางห้างควรมีการดูแลและเยียวยาคนเจ็บมากกว่านี้ ไม่ใช่เงียบไปแบบนี้

สิ่งที่เบนซ์อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือ

1.เมื่อเกิดเหตุในห้างสิ่งแรกคือรับผิดชอบโดยไม่มีข้อโต้แย้งเพราะเป็นพื้นที่ของคุณ โดยมีลูกค้าไปใช้บริการในพื้นที่ของคุณ การหาสาเหตุควรเป็นไปเพื่อแก้ไขและพัฒนาองค์กรของคุณไม่ใช่เพื่อแก้ต่างกับลูกค้า

2.ทางห้างควรหมั่นตรวจสอบ การล็อกของรถเข็นและแผ่นล็อกล้อตรงทางลาดของห้างอย่างสม่ำเสมอให้ดีกว่านี้

3.สังคมไทยมีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้น ทางห้างควรจัดหาพนักงานมาบริการช่วยเหลือผู้สูงอายุตั้งแต่บริเวณแคชเชียร์โดยไม่ต้องรอร้องขอความช่วยเหลือ เบนซ์หวังว่าอุบัติเหตุของแม่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงกับทุกคนที่เป็นผู้ใช้บริการโดยเฉพาะผู้สูงอายุทุกท่านให้ได้รับการบริการและการดูแล รวมถึงความปลอดภัยที่ดีขึ้นนะคะ”

นอกจากนี้ เบนซ์ ยังระบุอีกว่า พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับแม่ตัวเอง คือไปไม่ถูกเหมือนกันนะคะ แม่อายุ 75 ปีแล้ว ตอนนี้คือเดินช้ามาก ปวดขาปวดหลังไปหมด มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างไหมคะ ไม่อยากให้เกิดกับใครอีกแล้ว เราควรทำยังไงดีคะ

ขณะที่คนในวงการเข้ามาให้กำลังใจเจ้าตัวมากมาย และหลายรายก็มีความเห็นว่าเรื่องนี้ห้างควรรับผิดชอบด้วย 



















กำลังโหลดความคิดเห็น