“ป๋ากิ๊ก” ยันไม่ได้ทะเลาะกับ “ติ๊ก กลิ่นสี” ลั่นเป็นคนดี ทะเลาะด้วยยาก แย้มเตรียมเกษียณอายุลาวงการตอนอายุ 65 ปี เล่าบั้นปลายชีวิตเตรียมย้ายไปอยู่สุพรรณฯ ตามลูกชาย “เอิร์ธ กานต์” ที่ตอนนี้กำลังสนุกกับอาชีพเกษตรกร
เกือบ 40 ปีที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงสำหรับ “ป๋ากิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ”หรือ “ซูโม่กิ๊ก” ล่าสุดมาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกร “หนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา” เตรียมย้ายครอบครัวไปอยู่สุพรรณบุรีตามลูกชาย รวมถึงเคลียร์ข่าวดรามาทะเลาะกับเพื่อนซี้อย่าง “ติ๊ก กลิ่นสี” เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ไม่มี ไม่ได้ทะเลาะใคร ไปเอาข่าวมาจากไหน จะบอกว่าผมกับพี่ติ๊กทะเลาะกันยากมาก คือหนึ่งเป็นเพื่อนกันก็อีกเรื่องนึง แต่ว่าพี่ติ๊กเป็นคนดีมาก เพราะเขาวางตัวไว้แล้วว่าถ้าเกิดทำและรุนแรงทั้งคู่มันจะขัดแย้งซึ่งเขาจะเป็นคนสั่งเราส่วนใหญ่ ซึ่งเขาเป็นคนดีนะถ้าไม่มีเขาก็ไม่มีบริษัททริปเปิ้ลทรู และเขาเป็นคนให้เกียรติและรับฟัง เป็นคนยอมคนและยืดหยุ่น
เราเป็นคนที่จริงจังกับการใช้ชีวิตมาก ถามว่าไหวอยู่ไหม ตอนนี้เราก็ยังไหวอยู่ แต่อาจจะถดถอยลงจาก 100% ก็เหลือ 90% แต่เดี๋ยวนี้ต้องมีเบรกแล้วก็มีพักบ้าง ซึ่งเราก็นอนหลับเลย อย่างสมัยก่อนเราก็ยังไปเดินเล่นได้แต่เดี๋ยวนี้คือนอนอย่างเดียวเลย”
แนะอยากรุ่งในวงการพิธีกรต้องอ่านหนังสือมากๆ และต้องอ่านออกเสียงดัง
“ถ้าว่างก็ยังอ่านอยู่เหมือนเดิมเป็นโฟโต้บุ๊ก หรือเป็นเรื่องที่วิเคราะห์โน่นนี่นั่น หรือจะเป็นนิยายหนังสือฝรั่งเศส-ไทยได้หมด มันสามารถช่วยงานพิธีกรได้ ใครที่อยากเป็นพิธีกรต้องเริ่มต้นจากการอ่านหนังสือเพื่อสะสมประสบการณ์ชีวิต เอาจากวิธีการที่คนอื่นเขาเขียนมาทำให้สมองเรารู้สึกกว้างมาก ถึงจะไม่ลึกแต่กว้างมากจริงๆ
เวลาอ่านหนังสือต้องอ่านเสียงดัง คือการอ่านหนังสือเราต้องการอ่านแบบออกเสียงต้องใส่วอเตอร์สกิลทักษะกลไกของร่างกาย ถ้าเกิดเราอ่านในใจเว้นช่วงระยะนั้นต้องใช้กลไกของกล้ามเนื้อของปากในสมอง แล้วก็จะคิดค้นว่าเราควรจะพูดอะไรต่อไปมันทำให้เราพูดชัดขึ้น คือไม่ต้องท่องจำแต่ถ้าเกิดเรามีความรู้อยู่กับตัวแล้ว และรู้จักการอ่านออกเสียงชัดเจน เราจะรู้เลยว่าคำไหนที่เราไม่ถนัด”
ไม่กดดันลูกชาย “เอิร์ธ กานต์ กิจเจริญ” มีหลาน บอกเขากำลังพยายามอยู่ เตรียมย้ายครอบครัวไปอยู่สุพรรณบุรี บอกลูกกำลังสนุกกับอาชีพเกษตรกร
“ไม่กดดันลูกเรื่องมีลูก ซึ่งตอนนี้เขาก็คงพยายามอยู่เพราะเราพูดตั้งแต่วันแรกที่แต่งงานแล้วว่าเราอยากมีหลาน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังจะย้ายครอบครัวไปทำบ้านอยู่ที่สุพรรณบุรี และเราเคารพทั้งสองครอบครัวการที่จะย้ายไปอยู่สุพรรณฯ เราก็เลยบอกเขาว่าถ้าตัดสินใจจะอยู่สุพรรณฯ เปา (เปาวลี พรพิมล) กับเอิร์ธก็ต้องเลือกว่าอยากมีบ้านอยู่ที่ไหน เขาก็ต้องเลือกชีวิตของเขาเองเพราะเขาอยากเป็นเกษตรกรเขาต้องไปสนุกสนานกับพ่อตาเขา
หลังจากนั้นเขาก็ไปหาซื้อที่ดินก็ได้ที่ดินมาอยู่ที่ ศรีประจันต์ แม่เขาก็ชอบ การที่เราอยู่ที่ไหนเลือกที่จะทำอะไรต้องคิดว่าเรามีความสุขไหมถ้าเกิดฝืนที่จะต้องมีความสุขเพื่อลูกเมียมันไม่ได้ คนเราต้องอยู่บนพื้นฐานของความสุข เพราะถ้าวันหนึ่งเส้นที่มันมัดไว้ขาดกันขึ้นมามันก็จะตีกันเหมือนเดิม บั้นปลายชีวิตก็อยากไปอยู่สุพรรณฯ เพราะความสุขของเราคือการได้อยู่กับลูก ซึ่งเราตั้งใจจะเกษียณอายุในวงการตอนอายุ 65 ก็อีก 5 ปี”