xs
xsm
sm
md
lg

“ตงตง” เคลียร์ ไม่มีใครห้ามทั้งนั้น ไร้รูปหวานคู่ “เบส” ยังรักเหมือนเดิม แต่ชีวิตต้องทำงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ตงตง กฤษกร” ยันรัก “เบส” ไม่สั่นคลอน ปัดไม่ลงรูปคู่เหตุต้นสังกัดห้าม บอกโฟกัสงานมากกว่าความรัก ต้องปรับจูนหวานใจ รักเหมือนเดิมแต่ต้องทำงาน ยังอยากจับมืออีกฝ่ายไปด้วยกัน คิดหนักเรื่องของขวัญรับปริญญา อยากเน้นคุณค่าทางจิตใจมากกว่าราคา

เป็นคู่ที่มีข่าวลือหลุดถี่ยิบ ว่ารักไม่หวานเหมือนเดิม ถึงทางตัน สำหรับ “ตงตง กฤษกร กนกธร” และ “เบส รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ล่าสุดฝ่ายหญิงก็ยังโบ้ยให้มาถามฝ่ายชายเองว่าทำไมไม่ลงรูปคู่ด้วยกัน โดยตงตงได้เปิดอกเคลียร์ถึงประเด็นนี้ในงานเปิดตัวภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งยุค Avatar: The Way of Water อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ ยันยังรักอีกฝ่ายเหมือนเดิม แต่กลับมาโฟกัสงาน
 
“ต้องบอกอย่างนี้นะ ผมจะบอกทุกๆ ครั้งว่าแต่ก่อนช่วงโควิด-19 แรกๆ เลย ไม่มีใครมีงาน แล้วเราก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ได้ไปถ่ายยูทิวบ์ ได้ไปที่นั้นที่นี่ด้วยกัน มันก็เลยมีโมเมนต์ต่างๆ ออกมา แต่ด้วยตอนนี้เราได้กลับสู่โลกที่เราเคยผ่านมาแล้วก็เลยต้องกลับมาทำงานหนักมาก ยิ่งตอนนี้หลังจากจบละครคุณชาย ก็มีงานนอก และยังมีละครใหม่ของปีหน้าด้วย”

แจงกรณี “เบส” โบ้ยให้มาถาม ทำไมไม่ลงรูปคู่ หลังข่าวลือหลุดต้นสังกัดสั่งห้าม
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ช่วงนี้ผมทำงานหนัก ก็เลยไม่ได้ไปในสถานที่ที่จะถ่ายรูปด้วยกัน แต่เราก็ยังใช้ชีวิต กินข้าว ไปนั้นนี่แต่อาจจะไม่ได้ถ่ายรูปลงให้ทุกคนได้เห็นกันเท่านั้นเอง ซึ่งมันก็ต้องมีปรับจูนกัน ถามว่ามีถ่ายไหมมันก็มีครับแต่อาจจะไม่ได้โชว์”

อยากโฟกัสงานมากกว่าความรัก ยังรักเบส แต่ต้องทำงาน
“ใช่ อันนี้ก็ด้วย หลักๆ เรื่องความรักของผมด้วยเมื่อก่อนเราก็เป็นคู่รักที่ถูกคนจับตามอง แต่สุดท้ายแล้ว ถามว่าความรักมีไหมมันยังมีอยู่ แต่ ณ ตอนนี้ผมต้องทำงานไปด้วย ผมจะพูดเสมอไม่ว่าจะวันทอง คุณชาย ผมรู้สึกว่าผมยังไม่ประสบความสำเร็จเลย ผมอยากจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้ ผมอยากจะจริงจังกับมันให้มันมากขึ้นกว่านี้ ผมอยากไปไกลให้มากกว่านี้ ผมอยากจะจริงจังให้มากกว่านี้ ถามว่าเขาเข้าใจไหม มันก็มีการพูดคุยกัน มีการปรับจูนต่างๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”
 
ห่วงฝ่ายหญิงถูกด่าเยอะ แต่สุดท้ายความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ยังอยากจับมืออีกฝ่ายไปด้วยกัน
“เบสจะบอกเสมอว่าผู้หญิงจะโดนด่า ก็เป็นเรื่องของข้างนอก ผมจะคอยบอกน้องเสมอว่าสุดท้ายแล้วมันคือความรักของเราสองคน เราจะคิดยังไง จะยังไงผมก็อยากจะจับมือน้องไปด้วยกันสองคน ถามว่าข้างนอกที่เป็นกำลังใจให้ เราขอบคุณเขา เราดีใจมาก แต่อะไรที่ไม่ดีที่มันจะส่งผลต่อความรู้สึกเรา มันจะเข้ามาถึงในชีวิตประจำวันเราด้วย ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น อยากให้ฟังแต่สิ่งดีๆ สิ่งอะไรที่มันจะใช้ชีวิตต่อๆไปก็อยากจะให้เรารับฟังกันสองคนมากกว่า เขาก็เข้าใจ ทุกครั้งที่เจออะไรเราก็จะพูดคุยกันเสมอ ก็ขออย่างเดียวคือไม่ว่าใครจะไม่เข้าใจยังไงสุดท้ายขอแค่เราสองคนเข้าใจกันแค่นั้นก็พอแล้ว”

แจงเบส ไม่ขอพูดเรื่องความรัก อยากให้ตนพูดเอง ขอแค่รับรู้ว่าอยู่ข้างๆ กัน
“ส่วนใหญ่ผมจะไปร้องเพลงตามอีเวนต์มากกว่า ไม่ได้เจอสื่อหรือถูกสัมภาษณ์อะไรขนาดนั้น ถามว่าให้ผมออกมาพูดอะไรแบบนี้ สุดท้ายผมก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอแค่เพียงเราสองคนรับรู้กันว่าเราอยู่ข้างๆ กัน อยู่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันผมว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”

ยังรักเหมือนเดิม
“ผมกับน้องก็ยังรักกันเหมือนเดิม ยังไงก็ยังเป็นน้องเบสเหมือนเดิม เราก็ยังใช้ชีวิตด้วยกันอยู่เหมือนเดิม”

ยินดีกับอีกฝ่ายเรียนจบ ประสบความสำเร็จ
“ก็ยินดีกับน้องด้วย น้องได้เกรดดีเลยก็ยินดีที่เขาประสบความสำเร็จ แฟนคลับหรือใครที่ชื่นชอบน้อง รักน้องก็ไปให้กำลังใจน้องด้วยวันที่ 15 ที่ ม.กรุงเทพ ส่วนรูปคู่จะมีไหม รอดูดีกว่าครับ ก็เตรียมตัวไปร่วมยินดีกับน้องครับ ของขวัญก็ให้รอดูครับ แค่ผมไปแสดงความยินดีมันก็คือที่สุดแล้ว”

คิดหนักเรื่องของขวัญ ไม่อยากเน้นเรื่องราคา แต่อยากเน้นคุณค่าทางจิตใจ
“จริงๆ ผมเองก็คิดหนักเหมือนกันนะครับ พอคนไปโฟกัสเรื่องนั้น สุดท้ายมันจะไม่ได้ให้อะไรที่เราอยากให้ พอทุกคนโฟกัสว่าตอนนี้ทำมาหลักแสน ปีหน้าต้องหลักล้าน บางครั้งถ้าผมไปเจอสิ่งที่มันมีคุณค่าทางจิตใจที่มันราคา 10-50 บาท แล้วผมอยากจะให้เขา พอเป็นแบบนี้ผมจะกล้าให้เขาเหรอ ผมเลยจะบอกเสมอว่าสุดท้ายแล้วเรื่องของความรักให้เป็นเรื่องของเราสองคนรับฟังกันเองเถอะ ใครที่ให้กำลังใจมาผมรับไว้ และผมอ่านตลอดครับ อะไรที่ไม่ดีบางครั้งก็อยากให้น้องไม่ต้องไปฟังมาก ไม่ต้องรับมันเข้ามาในชีวิตประจำวันเรา”







กำลังโหลดความคิดเห็น