“ชมพู่ อารยา” ยืนยันไม่ใจอ่อนให้ “น็อต วิศรุต” ขอลูกเพิ่มให้ครบทีมฟุตซอล เพราะสามคนตอนนี้ก็เต็มที่แล้ว แถมเวลาปล่อยลูกอยู่กับพ่อ ตนก็จะต้องคอยเป็นห่วง เผยพี่ๆ ติดน้องมาก โดยเฉพาะ “พี่พายุ” ชอบเอาของ “น้องเกล” มาเล่น บางทีเล่นจนพังเลยต้องโดนเอ็ดบ้าง เผยบ้านที่ซื้อติดกับบ้านยายก็ใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ตั้งใจจะย้ายไปอยู่ แค่เวลาแวะไปบ้านยาย เด็กๆ ก็จะได้มีที่วิ่งเล่นเพิ่มเท่านั้น
หลังจากที่ฝ่ายคุณพ่อ “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” แอบหยอดผ่านอินสตาแกรมว่า “เพิ่มอีกสักคน ก็ตั้งทีมฟุตซอลได้แล้ว” พร้อมกับรูปที่มีลูกๆ ทั้ง 3 คนอยู่ด้วย ซึ่งก็ทำเอาคุณแม่ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” รีบออกมาคอมเมนต์ทันทีว่า “พอค่ะ” เรียกว่าดับฝันกันทันที ซึ่งล่าสุดเจอสาวชมพู่ในงานเปิดตัวรายการ My Material World, GOT YOU และ ครัวยายหนิง ที่ห้องอาหาร Niche ชั้นG (ล็อบบี้), รร.สยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ใจอ่อนแน่นอน เพราะ 3 คนก็เต็มที่แล้ว
"ค่ะ เป็นไปไม่ได้ (ส่วยหัว) พอแล้วๆ มันกำลังดีแล้วแหละ คือจริงๆ เขาก็รู้ว่ามันกำลังดี เรากำลังโฟกัสได้ดี คือแค่นี้ไปไหนมาไหนก็ไม่รู้จะนั่งรถอะไรแล้ว เด็ก 3 แม่ พี่เลี้ยง พ่อ นั่งรถอะไรล่ะ จริงๆ ตอนแรกที่เรารอน้องเกลนานมากๆ 1-2 ปี เราคุยกันไว้ว่าจะมีแฝดชายคู่นึงนะ จริงๆ รีเควสเขามีแค่นั้นเลยว่าขอเด็กผู้ชาย 2 คน แต่ว่าผู้หญิงเนี่ยแม่อยากได้ รู้สึกว่ามันคงจะเป็นภาพที่ครบเนอะ แต่คือถ้าได้อีกเขาก็คงชอบอยู่แล้ว ผู้ชายไม่ต้องท้องเองเนอะ แต่จริงๆ อย่างที่บอกว่าแกแฮปปี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็พูดไปเรื่อยแหละ เผื่อฟลุค (หัวเราะ)
แต่มันไม่ได้แล้ว เราเหนื่อย ทุกวันนี้มันเต็มสุดขีดความสามารถของเราแล้ว ทั้งในเรื่องร่างและสมองในการจัดสรรค์ เขาไม่มีหยอดๆ เขาก็รู้แหละว่ามันก็สุดท้ายแล้วจริงๆ ด้วยอายุเราท้องคราวนี้ก็เหนื่อยกว่าทุกครั้ง ไม่ใจอ่อนแน่นอน คือบางทีก็เหมือนแกคิดแคปชั่นอะไรไปเรื่อย สร้างเอนเกจไรงี้"
เผยเวลาปล่อยลูกๆ ไว้กับพ่อ ตนก็จะแอบเป็นห่วง
“ภาพเขาก็เลี้ยง 3 คนได้คล่องแคล่ว จากภาพใช่ไหมคะ ในเชิงภาพค่ะ คือเวลาเขาอยู่กับลูกก็มีโมเมนต์สนุกอะไรของเขาแหละค่ะ แต่ความเป็นจริงก็คือมันเป็นเราที่แทบจะตลอดเวลา เพราะพ่อก็ทำงาน จริงๆ ชมว่ามันเหมือนกันทุกบ้านแหละ ถามว่าปล่อยลูกไว้กับพ่อได้ไหม ก็ได้พักนึง (หัวเราะ) คือถ้าพาไปวิ่งเล่นก็พอได้ แต่ทิ้งไว้ทั้งวันเลยคงไม่ไหว เพราะเขาก็ยังเด็กกันอยู่
มันก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆ แล้วผู้ชายเขาก็จะลุยมาก บางทีเราก็ต้องถามว่าลูกกินข้าวหรือยัง ได้เข้าห้องน้ำไหม แต่ผู้ชายบางทีเขาก็จะลากกันไป แล้วด้วยความเป็นเด็กผู้ชาย พอเขาอยู่กับพ่อมันก็จะสนุก ซึ่งบางอย่างมันก็จะขัดใจแม่ (หัวเราะ) อย่างเช่นเล่นกันจนลืมกินข้าว เล่นกันโลดโผน แต่ชมว่ามันเป็นเรื่องเบสิกของทุกบ้าน ปล่อยลูกไว้กับพ่อ แม่ก็จะนิดนึง”
บอก “พี่พายุ” จะชอบสกรีนของให้ “น้องเกล” เล่นของน้องจนพัง
“พี่ๆ ก็เลี้ยงน้องเก่งค่ะ ตอนนี้ก็จะฮิตเล่นทุกอย่างที่เป็นของเล่นน้อง เอาของน้องมาเล่น อย่างพี่พาก็จะเอาเสื้อผ้าน้องมาใส่ ต้องเอามาลองก่อน หรือว่าน้องมีรถวงกลมก็จะแย่งกันขี่ใหญ่เลย สุดท้ายพัง เราก็ต้องซ่อม แล้วก็บอกเขาว่าแม่เพิ่งถอยรถให้น้อง น้องยังไม่ทันได้เล่นเลย
แต่เขาทะนุถนอมน้อง แต่มันก็ยังไม่พอ ด้วยความเขาเป็นเด็กผู้ชาย เขาก็จะมีความทะโมน คือเขาก็รู้ว่าเขามีน้องผู้หญิง แต่เขารู้สึกว่าเขาเล่นเบาของเขาแล้ว แต่ชมก็มองอีกมุมหนึ่งว่ามันดีเหมือนกันที่เขาโตมากับเด็กผู้ชาย น่าจะแกร่งใช้ได้เลย ก็มีแย่งกันอุ้มน้องบ้าง หอมแก้มน้องที น้องก็หน้าสั่นเลย นี่แหละเขาก็จะโตไปแบบแข็งแกร่ง
พี่พาก็จะชอบใส่ชุดของน้อง ซึ่งมันก็ใส่ไม่ได้ไง ของเล่นน้องหรืออะไรของน้องก็จะอยากลองก่อน ของกินน้องก็จะต้องอยากลองชิม ไม่รู้สกรีนหรือฟีลอยากกลับไปเป็นเด็กหรือเปล่า เราก็ไม่รู้ความคิดเขา แต่ของเล่นน้องนี่คือต้องลองเล่นก่อน แต่ก็ไม่เลี่ยงหรอกค่ะ ตามสภาพ มีเอ็ดบ้างอะไรบ้าง อย่างพอรถน้องพังก็ต้องเอ็ด คือมันเป็นรถกลมๆ เอาไว้ให้น้องฝึกเดิน ก็พัง ต้องเอ็ดกัน ก็วงแตก จ๋อยนิดหน่อย วันรุ่งขึ้นก็ทำอีก”
เผยบ้านที่ซื้อติดกับบ้าน “ยายหนิง” ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“บ้านที่อยู่ข้างบ้านยายตอนนี้ใกล้แล้วค่ะ แต่สระว่ายน้ำเสร็จเป็นปีแล้วค่ะ ตัวบ้านต้นไม้ที่ทำให้เขาก็เสร็จแล้ว เพียงแต่มันจะมีเรื่องอินทีเรียในบ้าน เรื่องประตู ฝ้า พื้น แต่พวกตกแต่งภายในชมก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่พวกงานบิวต์อินก็เสร็จหมดแล้ว คิดว่าก่อนสิ้นปีนี้ชมก็จะส่งคนตรวจบ้านเข้าไปตรวจงาน
ไม่ได้ตั้งใจว่าจะย้ายไปอยู่ค่ะ คือซื้อติดกับบ้านยาย เรื่องมันยาวเนอะ คือวันนั้นไปถ่ายรายการ 3 แซ่บ แล้วแองจี้เขาก็พูดขึ้นมาว่าทำไมพี่ชมไม่ซื้อ เพราะบ้านหลังนี้เขาก็ประกาศขายตั้งนานแล้วแหละ แต่เราไม่ได้สนใจ และมันเป็นช่วงโควิดพอดี เราก็เลยคิดว่าถ้ามีพื้นที่ตรงนี้ แล้วทำสระว่ายน้ำ ทำโน่นทำนี่ให้ลูก โควิดมันก็สอนเราว่าถ้ามีบ้านที่เป็นเพลย์กราวด์ มันก็ช่วยได้เยอะ ก็เหมือนเป็นเซฟโซนให้เขา ก็เลยตัดสินใจซื้อ อย่างน้อยก็คิดว่าทุกสัปดาห์พาเขามา ลูกเราสามคนจนก่อนเขาเข้าสู่วัยรุ่นก็ถือว่ามันคุ้มแล้ว เราใช้บ้านคุ้มแล้ว
พื้นที่คือติดกันเลย มันเป็นบ้านหลังติดกับบ้านยายอยู่แล้ว และเราก็ทุบรั้วออก พื้นที่หลังบ้านก็ทำเป็นสระ หน้าบ้านก็เอาต้นไม้ใหญ่มาลง แล้วก็ทำบ้านต้นไม้ บ้านข้างในชมก็ไม่ได้ทำอะไรมาก ห้องนอนชมก็ทำเหลือห้องนอนเดียว คือเอาไว้เหมือนไปชิล และที่เหลือก็เอาไว้เก็บของ เพราะเราเป็นคนสมบัติเยอะ ก็จะทำที่เก็บเสื้อผ้า และมีห้องให้เด็กไปเล่นของเล่น ทำการบ้านได้ ถามว่าเด็กๆ เห่อบ้านต้นไม้ไหม มันเลยจุดเห่อมาแล้ว เพราะเสร็จมาเป็นปีแล้ว แต่ไปเขาก็เล่นทุกครั้ง เวลาเขาเห็นที่กว้างๆ ก็จะเห็นเลยว่ามันจะดีดมาก”