xs
xsm
sm
md
lg

“สายป่าน” ขึ้นศาลสืบพยาน ฟ้องครูสอนดำน้ำเรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน ลั่น 2 ปีคู่กรณีไม่เคยไกล่เกลี่ย - ไม่แก้ข่าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สายป่าน อภิญญา” ขึ้นศาลสืบพยานคดีฟ้องหมิ่น ครูสอนดำน้ำโพสต์หมิ่นประมาทผ่านโซเชียล ทำลายชื่อเสียงและธุรกิจดำน้ำ ลั่นเรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน แต่อีกฝ่ายไม่ได้ติดต่อใดๆ ไม่ไกล่เกลี่ย ทั้งที่เปิดโอกาสให้ตลอด 2 ปีไม่เคยแก้ข่าวให้ตน ลั่นนอกจากเรียกค่าเสียหาย อีกฝ่ายต้องขอโทษผ่านสื่อและเฟซบุ๊กส่วนตัว คาดศาลนัดตัดสินต้นปีหน้า

เมื่อเวลา 09.00. น. วันที่ 6 ธ.ค.ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก “น.ส.อภิญญา สกุลเจริญสุข” หรือ “สายป่าน” นักแสดงสาวชื่อดัง พร้อม “นายเกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ” ทนายความ เดินทางมาศาลเพื่อสืบพยานโจทก์คดีฟ้องหมิ่นประมาทครูสอนดำน้ำ โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทผ่านโซเชียล กรณีอุปกรณ์ดำน้ำสินค้าของโจทก์ไม่มีมาตรฐาน ทำลายชื่อเสียงและธุรกิจ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท

โดยสายป่านได้เปิดใจว่าวันนี้เป็นนัดสืบพยานในช่วงท้ายๆ แล้ว หลังจากมีการเลื่อนเพราะสถานการณ์ของโควิด-19 ถึงแม้จะใช้ระยะเวลานานแต่ตนก็เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และตนยังเชื่อมั่นในเรื่องของความยุติธรรม ต่อให้นานแค่ไหนความจริงก็จะปรากฏ โดยวันนี้เป็นการนัดสืบพยานการเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ส่วนเรื่องการกระทำผิดนั้นมีหลักฐานความชัดเจนอยู่แล้วถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธมาตลอด โดยฝ่ายจำเลยก็ไม่เคยต้องการไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย ถึงแม้ว่าตนจะเปิดโอกาสและรอให้เขาโทร.มาตลอด หรือจะส่งทนายมาคุยก็ได้ แต่ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้ว ก็ไม่มีการติดต่อมา และไม่มีการแก้ข่าวใดๆ ให้ฝ่ายตนเลย

สายป่าน กล่าวต่อว่า ตอนนี้ธุรกิจของตนก็ยังไม่เต็มร้อยเพราะยังมีคนระแวงอยู่ มีคนเข้ามาสอบถามเรื่อยๆ ตนจึงอยากให้เคลียร์ทุกอย่าง ทั้งนี้ทุกคนทราบว่าด้านงานในวงการบันเทิงตนเองก็ทำมาตั้งแต่เด็กโอเคอยู่แล้ว แต่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธุรกิจที่ตนอยากทำ เนื่องจากสามารถนำมาดูแลครอบครัวได้ในอนาคต แต่กลับมีคนมาดิสเครดิต ตนจึงรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย ตนไม่ได้อยากเป็นคู่แข่งกับใคร อยากมีแต่คู่ค้า อยากทำงาน เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน นอกจากเรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน รวมทั้ง อยากให้ขอโทษผ่านสื่อและเฟซบุ๊กส่วนตัว คาดว่า คดีจะมีนัดตัดสินในช่วงต้นปีหน้า

ทนายเกรียงชัย ได้กล่าวว่าวันนี้มาสืบพยานหลังจากศาลไต่สวนมูลฟ้องและประทับรับฟ้องเรียบร้อย แต่ว่าคดีก็เลื่อนจากโควิดไปอย่างที่ทราบกันเลยร่นมาค่อนข้างนาน ตอนนี้ก็เป็นช่วงปลายแล้ว พอสืบเสร็จก็ทำแถลงการณ์ปิดคดี 30 วัน หลังจากนั้นก็นัดคำฟังพิพากษาต่อไป คาดว่าต้นปีหน้าน่าจะเรียบร้อย

สำหรับในเรื่องที่คู่กรณีทำความผิดมันชัดเจนอยู่แล้ว วันนี้ก็มาสืบพยานในเรื่องค่าเสียหายเป็นหลัก เพราะทั้งสองฝ่ายตกลงกันก็ยอมรับคำเบิกความในชั้นไต่สวนคือในส่วนที่ศาลประทับรับฟ้อง แต่ว่าเขาก็ให้การปฏิเสธ แต่ทั้งนี้หลักฐานมันชัดเจนอยู่แล้วว่ามีการกระทำความผิดจริงและเกิดความเสียหายจริง

สายป่าน : “ในส่วนของความคืบหน้าถือว่าเยอะ ถ้าเกิดไม่มีอะไรผิดพลาดครั้งนี้ก็น่าจะเป็นรอบหลังๆ แล้ว หลายคนอาจจะมองว่าระยะเวลามันนานแต่ว่าจำนวนครั้งไม่ได้เยอะ เลยรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน แล้วตัวป่านเองก็เข้าใจได้ด้วย ระหว่างที่ต้องรอหลายๆ อย่างเราก็ทำงานกรุบกริบไป ถึงแม้จะไม่ได้เยอะเท่าเดิม แต่ก็อดทนได้เพื่อความยุติธรรม ถามว่าเหนื่อยหรือท้อไหม ไม่เลยค่ะ ป่านเชื่อในเรื่องของความยุติธรรม ดังนั้นต่อให้นานแค่ไหน ถ้าเกิดความยุติธรรมมันมีอยู่จริงๆ มันก็คงปรากฏให้เห็น

ส่วนที่เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน เขาไม่เห็นพูดอะไร เลยคิดว่าเขาก็คงโอเคมั้งคะ แต่ว่า ณ ตอนนี้เขาก็ยังปฏิเสธอยู่ แต่ถ้าเกิดเขารู้สึกว่ามันเยอะเกินไปเราก็ไม่เคยปิดโอกาส ถามว่ามีโอกาสไกล่เกลี่ยไหม จริงๆ ป่านเปิดรับมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ประทับรับฟ้องแล้ว หลังจากวันนั้นก็รอให้เขาโทร.หรือติดต่อมา คือไม่ต้องโทร.มาโดยตรงก็ได้ ให้ทนายกับทนายคุยกันก็ได้ แต่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้อย่างที่ทุกคนรู้ว่ามัน 2 ปีกว่าแล้วก็ยังไม่มีฟีดแบ็กหรืออัปเดตอะไร แล้วก็ยังไม่มีการติดต่อกลับมา

ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีการแก้ข่าวใดใดให้เราเลย จริงๆ ถ้าเป็นคนในแวดวงดำน้ำทุกคนจะค่อนข้างทราบดีอยู่แล้วว่า 2 ปีที่แล้วมันเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น หลายคนก็ยังจำอยู่ แล้วพอพูดชื่อแบรนด์ป่านบางคนก็ยังเอ๊ะ ยังติดใจอยู่ ตรงนี้ป่านเลยรู้สึกว่ามันก็ยังไม่ได้กลับมาหมด คนมันเคยล้มมันก็ต้องมีแผลเป็นให้เห็น แต่ถ้าในวันนั้นมันไม่มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นป่านก็คงจะเดินทางที่มันสะดวกสบายกว่านี้

แต่พอมันมีแบบนี้แล้วเราไม่ได้ล้มเอง มีคนมาผลักเรา เราก็เลยอยากให้แผลเป็นตรงนี้มันหายไปสักทีหนึ่ง เพื่อที่จะได้กลับมาทำธุรกิจอย่างลื่นไหล จริงๆ ป่านอยากเคลียร์และให้มันคลีนทุกอย่างเพราะว่าเราทำธุรกิจด้วยความบริสุทธิ์ใจ แล้วเราไม่เคยคดโกงใคร อย่างที่ทุกคนรู้ว่างานในวงการเป็นงานที่โอเคและป่านทำมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว แต่ว่าธุรกิจมันเป็นสิ่งใหม่ที่ป่านอยากทำ แล้วก็รู้สึกว่ามันสามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้ในอนาคต แต่การที่เราทำธุรกิจแล้วมีคนมาดิสเครดิต มันเลยรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลยสำหรับคนที่อยากจะลงทุนทำอะไร ดังนั้นที่ป่านเริ่มเรื่องราวทั้งหมดของการฟ้องร้องเพราะเราอยากให้การทำธุรกิจของเรามันเป็นธุรกิจที่สะอาด แบบนั้นมันจะแฟร์กว่าเพราะเราไม่เคยอยากเป็นคู่แข่งกับใคร อยากมีแต่คู่ค้า อยากมีแต่เพื่อนฝูงที่ทำงานค่ะ

ทนายเกรียงชัย : “นอกจากค่าเสียหาย ต้องมีขอโทษผ่านสื่อและเฟซบุ๊กครับ จริงๆ ความเสียหายของน้องมันหลายสิบล้าน เพราะมีเรื่องธุรกิจและงานบันเทิงด้วยที่มีหลักฐานชัดเจน แต่น้องก็เรียกแค่ 5 ล้าน แล้วก็ให้ทำการขอโทษผ่านสื่อและเฟซบุ๊กของเขาด้วยเพราะว่ามันอยู่ในวงการดำน้ำเหมือนกันจะได้ชัดเจน”













กำลังโหลดความคิดเห็น