xs
xsm
sm
md
lg

“แนท อนิพรณ์” ช่วยจ่ายหนี้จนหมดเงินในบัญชี! โล่งถูกถอนชื่อออกจากการถูกฟ้องร้อง บ้านไม่ถูกยึดแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แนท อนิพรณ์” โล่งใจที่สุด เคลียร์ปัญหาหนี้บ้านที่ถูกยึดได้สำเร็จ ตอนนี้ได้บ้านคืนมาแล้ว แลกกับเงินเก็บทั้งหมดที่ตนมี บอกที่ทำเพราะห่วงความรู้สึกของตายาย แต่หลังจากนี้ก็คงเป็นขั้นตอนของการคุยกับแม่ในเรื่องต่างๆ ต่อไป

เรียกว่าเป็นนางงามสู้ชีวิตคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับ “แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 หลังจากที่ออกมาเผยถึงบ้านที่ถูกยึดทั้งน้ำตา บอกว่าอุตส่าห์ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง แต่ก็ต้องมาตามใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้เคลียร์กับเจ้าหนี้เรียบร้อย ได้บ้านคืนมาแล้ว แต่ก็ยังต้องทำงานผ่อนบ้านต่อ เพราะเพิ่งซื้อได้ไม่นาน

“เพิ่งเคลียร์ไปประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ คือก่อนหน้านี้ต้องทำความเข้าใจว่าบ้านของแนทติดจำนองไว้อยู่แล้ว เพราะแนทผ่อนบ้านถูกไหมคะ แต่พอมีคดีความ บ้านเราก็จะต้องถูกอายัดไว้ และจะถูกยึดไว้ในส่วนของการที่ต้องชดใช้หนี้สิน และแนทก็ปรึกษาทนายค่ะ ตอนนี้ก็ถูกถอนชื่อออกจากการถูกฟ้องร้องแล้ว และไม่ถูกยึดแล้วค่ะ 

แนทก็คุยกับทางเจ้าหนี้ค่ะ คุยในส่วนของข้อเท็จจริง เหมือนเราเอาข้อเท็จจริงมาตีกันเลยว่าความจริงเราไม่ได้เป็นคนยืมเงินเขา ก็คือเราไม่ได้เป็นหนี้ แต่ในส่วนที่เราช่วยได้ เราก็ช่วยได้ประมาณนี้ ซึ่งก็คือหมดบัญชีของเราแล้ว และเอาเรื่องหลายๆ อย่างมาคุยกัน เป็นเรื่องเซนซิทีฟเยอะมาก เราไกล่เกลี่ยกันตั้งแต่บ่ายโมง กว่าจะเสร็จก็เกือบ 4 โมงแล้วค่ะ คือแนทก็มีโกลด์ของตัวเองว่าฉันจะจ่ายเงินเท่านี้ ถ้าสมมติว่าไม่รับก็ยึดบ้านไปได้เลย เพราะแนทไม่สามารถผ่อนบ้านไปได้และใช้หนี้ในส่วนนี้ไปได้ค่ะ”

เผยยอมเอาเงินเก็บทั้งหมดที่มีจ่ายคืนเจ้าหนี้ทั้งหมด
ก็หลายล้านค่ะ เกือบ 2 ล้าน แต่ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสที่เราเสียไปแล้วค่ะ อาจจะเป็นส่วนอื่น ขอไม่ลงรายละเอียดแล้วกัน มันละเอียดอ่อนมาก ส่วนที่แนทจ่ายไป 5 เกือบ 6 แสนรวมค่าอื่นๆ เราก็พูดในความเป็นจริงว่ามันก็สุดแล้ว คือคนภายนอกจะเข้าใจว่าการเป็นนักแสดงต้องได้เงินเยอะ แต่แนทก็อธิบายให้ทางฝั่งเจ้าหนี้ และเขาก็เปิดใจมากๆ ที่จะรับฟัง

แนทก็ชี้แจงเลยว่าบางทีเดินแฟชั่นโชว์ได้ 7,000 โดนหัก 30% บางงาน 5,000 หัก 30% และงานโน้นงานนี้ กว่าหนูจะรวมเงินก้อนให้ได้ คือได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใหญ่ ที่เวลาเราทำงานเราก็เก็บเงิน ซึ่งคิดดูว่าเราเก็บเงินจากหลักพันเป็นหลักแสนภายในระยะเวลารวดเร็วมาก และเราทำงานทุกอย่าง ก็ชี้แจงให้เขาฟังว่ามันคือที่สุดของเราแล้ว เพื่อที่ให้เขาไม่ได้รู้สึกว่าเราเอาเปรียบเขา เพราะมันก็สุดๆ ของเราแล้วจริงๆ”

เผยตอนนี้สบายใจมากๆ ได้บ้านกลับมาให้ตายาย 
“ส่วนตัวแนทไม่ได้ยึดติดอะไรกับบ้านเลย เพราะเมื่อก่อนเราก็ไม่มีบ้าน วันนี้ถ้าจะไม่มีบ้านสำหรับแนทมันไม่เป็นไรเลย แต่ที่แนทเป็นห่วงมากที่สุดคือความรู้สึกของตายาย เพราะในวันที่เราบอกว่าเราไกล่เกลี่ย ตายายในใจแกก็คิดว่าคงไม่ได้แล้วแหละ แกก็ขอมานั่งรอที่โซฟาที่บ้าน แล้วพอเราบอกแกก็โล่งและดีใจ ก็ดีใจมากๆ ที่ได้บ้านกลับมา เพราะสเต็ปต่อไปแนทก็ต้องทำเรื่องกับธนาคารที่ต้องทำในส่วนต่างๆ ต่อไป แต่ 90% ก็โล่งแล้ว

ถามว่าเป็นการไกล่เกลี่ยจบ หรือเป็นการใช้กฎหมายในการจบ ก็คือใช้กฎหมายเลยค่ะ เพราะเราเป็นจำเลยที่ 2 การที่เราใช้หนี้จำนวนนี้คือเราต้องถอนชื่อเราออกเลย เราจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนี้ก้อนนี้อีกแล้ว ก็มีลายลักษณ์อักษรทุกอย่าง เพราะมีทนายไปด้วย เราก็ต้องกันไว้ก่อน คือพอศาลตัดสิน การยึดทรัพย์ก็จะต้องมาอยู่ที่กรมบังคับคดี เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยเขาถึงจะเป็นคนตัดสินว่า ถ้าสมมติว่าเจ้าหนี้เขาไม่ยอม ก็ยึดทรัพย์ แต่ถ้าเขายอมก็คลี่คลายได้ บ้านก็ถูกคืนเรามาค่ะ

เผยเตรียมทำข้อตกลงกับแม่หลังจากนี้
“ในส่วนตรงนี้ในอนาคตมีแน่นอนค่ะ แนทกำลังจัดการอะไรหลายๆ อย่าง แต่ในส่วนของบ้านแนทอยากเคลียร์ให้จบ 100% จริงๆ ถามว่าเผื่อใจไว้ไหม หนูก็คิดในใจว่ามี 2 ช้อยส์ ช้อยส์แรกก็เงินหมดบัญชีแล้ว ถ้าเขาไม่เอาแล้วถูกยึดบ้านก็ไม่เป็นไร หนูไม่ยึดติดอยู่แล้ว ก็น่าจะกลับไปคุยกับตายายให้เขาเข้าใจมากขึ้นค่ะ แนทจะไม่ปล่อยให้ตากับยายช็อก

คือบางทีพอมีข่าวอะไรออกไปแล้วเราอยู่ในวงการก็จะรู้เท่าทัน แล้วก็จะบอกว่าเดี๋ยวจะเป็นอย่างนี้อย่างนั้น แต่จะมีเทคนิคในการคุยกับคนในครอบครัวอีกแบบนึง แต่สุดท้ายแล้วปัญหาทุกอย่างเดี๋ยวเราจะจัดการเอง สบายใจค่ะ แต่ก็ยังต้องผ่อนต่อ จ้างงานได้นะคะ (หัวเราะ) ยังไม่ครึ่งทางเลย เพราะเพิ่งซื้อค่ะ จ่ายดอกอยู่ ก็จ้างงานได้นะคะ หนูเป็นเด็กดีและขยันมากๆ ค่ะ 7 วันก็สู้ตายค่ะ









กำลังโหลดความคิดเห็น